กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-08-2017, 19:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๐

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตัวเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

การกำหนดภาวนานั้นเราจะจับลมหายใจจุดเดียว ๓ จุด ๗ จุด หรือรู้ตลอดกองลมก็ได้ ถ้าเผลอสติไปคิดเรื่องอื่น เมื่อรู้ตัวก็ให้ดึงความรู้สึกกลับมาที่ลมหายใจเข้าออกเสียใหม่ แรก ๆ ก็จะต่อสู้กันในลักษณะอย่างนี้ พอนานไปสภาพจิตเริ่มมีกำลัง ก็จะสามารถเข้าถึงสมาธิได้ง่ายขึ้น

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ สำหรับวันนี้อยากจะเตือนทุกคนว่า การที่พวกเราปฏิบัติธรรมกัน มักจะทำเหมือนกับคนมีเวลามาก ก็คือไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็หยุด ซึ่งความจริงการปฏิบัติธรรมนั้น เราต้องระลึกรู้อยู่เสมอว่า ตัวเราอาจจะตายลงไปได้ทุกลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าถ้าไม่หายใจออกเราก็ตายแล้ว หายใจออกถ้าไม่หายใจเข้า ก็ตายอีกเช่นกัน

ตัวเราอยู่ใกล้ชิดกับความตายจนขนาดนี้ ให้ทุกคนสำรวจตัวเองดูว่าถ้าเราตายลงไปเดี๋ยวนี้ เรามีความดีเพียงพอที่จะรอดจากอบายภูมิหรือไม่ ? เรามั่นใจได้หรือไม่ว่าตายแล้วจะไม่ตกนรก ไม่เกิดในแดนเปรต ไม่เกิดเป็นอสุรกาย ไม่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ?

ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเรายังขาดความมั่นใจ ไม่สามารถที่จะปิดอบายภูมิได้อย่างแท้จริง แล้วเรายังทำตัวเป็นผู้ประมาท ไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็หยุด แวะชมดอกไม้ริมทางบ้าง แวะร้านอาหารบ้าง แล้วเมื่อไรเราจะไปถึงจุดหมายปลายทางที่เราต้องการเสียที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2017 เมื่อ 20:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-08-2017, 17:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ควรระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสเอาไว้ว่า เราเหมือนบุคคลที่อยู่ในบ้านซึ่งกำลังไฟไหม้ แทนที่จะเร่งขวนขวายเพื่อหนีไปให้พ้น เรากลับนอนพักสบายใจ ไม่รับรู้ว่าไฟไหม้มารอบตัวแล้ว หรืออย่างที่หลวงตามหาบัวท่านเปรียบเอาไว้ว่า เหมือนกับหมูนอนพาดเขียง เห็นเขียงเขาวางอยู่ก็นอนเอาศีรษะพาด เออ...สบายดีจริง ๆ เลย โดยที่ไม่รู้ว่าจะโดนเชือดไปเป็นอาหารเมื่อไร

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราควรที่จะเร่งรัดการปฏิบัติให้มากขึ้น ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อที่ว่าถ้าหากตายลงไป อย่างน้อย ๆ ตัวเราถึงแม้จะไม่สามารถเข้าถึงที่สุดของทุกข์ ก็ให้ไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า หรือเป็นพรหม รอระยะเวลาในการสร้างบุญสร้างบารมีต่อไปได้

แต่ถ้าหากเราตกสู่อบายภูมิ เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน นอกจากความทุกข์ที่ทับถมมากขึ้นจนประมาณไม่ได้แล้ว โอกาสที่จะใกล้ความดี โอกาสที่จะได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก

สมมติว่าเราตกนรกไป กว่าจะกลับขึ้นมาได้ พระพุทธเจ้าก็น่าจะตรัสรู้ผ่านไปหลายพระองค์แล้ว โดยเฉพาะถ้าขึ้นมาอยู่ในสุญญกัป อันตรายกัป ซึ่งไม่มีพระพุทธเจ้า ผู้คนไม่มีศีลไม่มีธรรม เราก็จะลำบากเดือดร้อนสาหัส
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2017 เมื่อ 13:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 24-08-2017, 19:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจึงควรที่จะเร่งขวนขวายให้มาก โดยเฉพาะทบทวนศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีที่เห็นผู้อื่นละเมิดศีล มีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ตายจากชาตินี้เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

อย่าทิ้งลมหายใจเข้าออก อย่าทิ้งภาพพระหรือพุทธานุสติของเรา เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงว่า แม้จะตายลงไป อย่างน้อย ๆ เราเกาะภาพพระหรือเกาะลมหายใจเข้าออกได้ เราก็มีสุคติเบื้องต้นเป็นที่ไป

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2017 เมื่อ 19:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว