กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-12-2009, 13:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,054 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default การเพ่งโทษผู้อื่น

ถาม : หลวงพ่อคะ การเพ่งโทษคนอื่น ทำอย่างไรจึงจะหายขาดคะ ?
ตอบ : เป็นพระอนาคามีเมื่อไรก็หาย ถึงเวลานั้นตัวกู ของกูเหลือนิดเดียวแล้ว ไม่เพ่งคนอื่นแล้ว เพ่งแต่ตนเอง

ถาม : ต้องกดไว้ก่อนหรือคะ ?
ตอบ : กดไว้ก่อน ถ้าสติยังไม่สมบูรณ์ ก็เอาจนได้แหละ
กิเลสบางตัวแฝงอยู่ลึกมาก อยู่ในลักษณะว่าเป็นห่วงเป็นใยเขา ทำไมเขาทำอย่างนั้น ทำไมเขาทำอย่างนี้ แล้วทำไมเขาไม่ทำอย่างนั้น ทำไมเขาไม่ทำอย่างนี้ หวังดีเต็ม ๆ คิดว่าเมตตากรุณา แต่จริง ๆ คุณกำลังเพ่งโทษคนอื่นอยู่ โปรดระวังให้ดี กิเลสหลอกให้คิดว่าเรากำลังปฏิบัติธรรมะ หารู้ไม่ว่าเขาลากเราจนจะถึงก้นเหวอยู่แล้ว

ยกตัวอย่าง ทำไมเลี้ยงหมาอย่างนั้น ทำไมไม่เลี้ยงหมาอย่างนี้ ทำไมไม่เอาแชมพูดี ๆ มาฟอกให้ ท่าทางดูเหมือนว่าเราเมตตาหมามากเลย แต่จริง ๆ แล้ว เรากำลังเพ่งโทษว่า เจ้าของเลี้ยงหมาได้ไม่ดีเท่าเรา เห็นหน้ากิเลสไหมว่าน่าเกลียดน่าชังแค่ไหน ? มองเห็นแล้วรู้ทันนี่เซ็งในอารมณ์เลย สุดยอดจริง ๆ กลายเป็นว่าเอาความหวังดี ปรารถนาดีไปให้คนอื่นเขา จนกระทั่งอาตมาสรุปว่า หวังดีแต่ประสงค์ร้าย กว่าจะสรุปได้แต่ละข้อนี่นาน ขอยืนยันว่านาน พวกเราถือว่าโชคดีที่มีคนให้ถาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2014 เมื่อ 13:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-12-2009, 13:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,054 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูเพิ่งเห็นตัวนี้เมื่อเดือนที่แล้วเองค่ะ พอรู้ตรงนี้แล้วเซ็งมาก ที่เราคิดว่าดี ดี ดี ปรากฏว่าทำไมโง่อย่างนี้ เลวอย่างนี้ ไป ๆ มา ๆ ยิ่งทำไปทำไมยิ่งเห็นว่าเลว ?
ตอบ : เคยสรุปไว้ตอนนั่งเถียงกับกิเลสมาร บอกว่าถ้าไม่มีพระพุทธเจ้ากูจะกราบมึง มึงโคตรเก่งเลย หลอกกูได้ขนาดนั้น ที่เคยบอกไว้ว่า มารกับความดีเดินมาพร้อมกัน มาก้าวเดียวกันเลย เพียงแต่ว่าอยู่ที่ก้าวสุดท้าย ซึ่งความดีพาเราก้าวขึ้นข้างบน แต่ความชั่วจะพาเราลงข้างล่าง ถ้าเราเห็นตรงจุดนี้แล้ว จะเห็นว่ากิเลสกับความดีขี่คอกันมาเลย หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ แต่สำคัญอยู่ที่ก้าวสุดท้ายว่าจะเลี้ยวไปทางไหน

ถาม : เมื่อวานนั่งคุยกับพี่ คิดไปคิดมา เอ๊ะ การโมทนาก็เป็นกิเลสนี่ เพราะโมทนาในความรู้สึกที่ว่า เราอยากได้บุญอย่างเขา แล้วก็มาคิดว่า โมทนาอย่างไรไม่ให้เป็นกิเลส หรือโมทนาในลักษณะมุทิตาจิต คือ ยินดีที่เขาทำความดี ?
ตอบ : อย่างที่อาตมาสรุปว่า กูจะเอา จริง ๆ แล้ว จะต้องเกิดความยินดีจากน้ำใสใจจริงว่า โอ..หนอ ขณะที่เราไม่มีโอกาสที่จะได้ทำในบุญกุศลนั้น ๆ แต่คนอื่นเขามีโอกาส ช่างน่ายินดี ช่างน่าชื่นใจเหลือเกิน ความรู้สึกอย่างนี้จะขึ้นมาเต็ม ๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่อย่างนี้แล้วไปสาธุ ก็แฝงความหมายว่า "กูจะเอาของมึง" ทั้งนั้น ค่อย ๆ ตามดูไปเถอะ

ถาม : ค่ะ
ตอบ : การปฏิบัติพอถึงระดับหนึ่ง เคยเปรียบเทียบไว้ว่า เหมือนกับเราตัดต้นไม้ใหญ่ เราโค่นลงได้ ล้มลงมาฟ้าสะท้านดินสะเทือน รู้สึกว่าเราได้อะไรเยอะแยะเลย ทีนี้ลองขุดตอดู เจอรากเยอะกว่ากิ่งข้างบนอีก ยิ่งขุดก็ยิ่งเจอ ทำไมเยอะอย่างนี้ ท้ายสุดก็จะแค่ เหลือดูที่ตัว แก้ที่ตัว ไม่ต้องสนใจใครแล้ว ตั้งหน้าตั้งตามุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2014 เมื่อ 13:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 10-12-2009, 13:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,054 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม :หลวงพ่อคะ ยังติดใจเรื่องการเพ่งโทษอยู่ค่ะ หนูก็มานั่งคิดดู เวลาเราเพ่งโทษ เขาก็ไม่ได้มาทำอะไรเรา เป็นเราต่างหากที่ไปเพ่งโทษเขาเอง ?
ตอบ : ก็ใช่นะสิ

ถาม : ก็เลยคิดว่าแล้วเราจะตัดอย่างไร
ตอบ : สติต้องรู้เท่าทัน ทีนี้สติจะรู้เท่าทัน สมาธิจะต้องดี สำคัญก็คืออยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา จะได้ไม่ไปเพ่งโทษกับใคร เพราะจิตมีงานทำแล้ว

ถาม : ถ้าเผลอไปแล้ว เราจะมาคิดหักล้างได้อย่างไร
ตอบ : คิดไปก็กลับมา...คิดไปก็กลับมา ระยะแรกก็จะดึงกันไปดึงกันมา แต่พอนานไป ๆ เราพิจารณาเห็นโทษแล้วว่า การเพ่งโทษคนอื่นนอกจากไม่ช่วยให้เจริญขึ้นแล้ว ยังทำให้ใจของเรามันเสื่อมทรามตกต่ำไปอีก พอเห็นโทษ ก็จะค่อย ๆ คลายออก แล้วก็ไม่ไปยุ่งด้วย

ถาม : คือ ต้องบอกกับใจให้ได้ ให้ยอมรับว่าไม่ดี ?
ตอบ : ไม่ต้องไปบอกหรอก แต่ต้องเห็นจริง ๆ ว่าสิ่งนั้นไม่ดี


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ถาม-ตอบ ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2014 เมื่อ 13:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
เพ่งโทษ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว