กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-05-2015, 13:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘

ถาม : ขอกราบเรียนถามข้อสงสัยถึงวิธีการและหนทางปฏิบัติที่พอจะทำให้เราสามารถทราบได้ว่าเราติดหนี้สงฆ์หรือโทษหนักอื่นใด เช่น โทษการย้ายเจดีย์ เป็นต้น เพื่อป้องกันหรือหาหนทางแก้ไขก่อนที่เราจะสิ้นลมหายใจในชาติปัจจุบัน หากในกรณีที่เรามิได้เป็นบุคคลผู้ทรงอภิญญาหรือญาณแปดใด ๆ กล่าวคือ เป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้สนใจเรื่องธรรมะหรือได้มโนมยิทธิใด ๆ ทั้งสิ้น

จึงขอเรียนถามข้อสงสัยสำหรับประเด็นดังกล่าวว่า พอจะมีทางอื่นใดบ้างที่เราสามารถทราบในเรื่องของกรรมดังกล่าวได้บ้างหรือไม่ ? และอย่างไรครับ ?

ทั้งนี้เจตนาในการตั้งคำถามนี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อบุคคลจำนวนมากที่อาจมิอาจทราบได้ถึงโทษจากกรรมหนักดังกล่าว ซึ่งจะได้ทราบเป็นวิทยาทานและแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีหากมีหนทางและโอกาสครับ

ตอบ : ก็แปลว่าไม่ต้องรู้ ไม่ได้อะไรสักอย่างจะไปรู้ได้อย่างไรวะ ? ตั้งกติกาไม่ให้มีอะไรสักอย่างเดียวแต่อยากรู้ จะรู้ไปทำไม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 14:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-05-2015, 13:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไปฝึกมโนมยิทธิที่วัดท่าซุง ผลคือฝึกไม่ได้ครับ ครูฝึกบอกว่าเป็นสุกขวิปัสโก ผมจะมีโอกาสจะฝึกสำเร็จได้หรือไม่ครับ ? และการจับลมหายใจเข้าออก ผมควรจับที่จมูกฐานเดียว หรือจับสามฐานครับ ?

ตอบ : ถ้าเชื่อครูฝึกชาตินี้ก็ฝึกไม่ได้ แต่ถ้าไม่เชื่อครูฝึกโอกาสได้จะมีเยอะ เพราะบางทีครูฝึกโง่กว่า สอนลูกศิษย์ไม่เป็น ส่วนเรื่องการจับลมหายใจ จะฐานเดียว ๓ ฐาน ๗ ฐาน หรือว่ารู้ตลอดกองลมแล้วแต่ความถนัดของเรา

ที่อาตมาใช้คำว่าครูฝึกโง่กว่าลูกศิษย์ เพราะว่าปัจจุบันนี้ครูฝึกส่วนใหญ่แล้วไม่รู้จริง มักจะสอนตามรูปแบบเดิม ๆ จนกระทั่งโดนลูกศิษย์หลอกมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว การจะเป็นครูฝึกมโนมยิทธิต้องมีเจโตปริยญาณแจ่มใส รู้ว่า
ในขณะนั้นลูกศิษย์คิดอะไร ทำอะไรอยู่ ถึงสามารถที่จะสอนให้ถูกต้องได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 14:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-05-2015, 13:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมป่วยมาก อาการไม่ค่อยจะดีมาหลายปีแล้วครับ หาหมอหลายที่แล้วไม่ดีขึ้น มีแต่ทรุดลง กระเพาะอักเสบมานาน เลยทำให้ท้องแข็ง เป็นเถาดาน ท้องมาน บวม จุกแน่นชายโครงขวา หายใจลำบากเหมือนจะขาดใจหลายครั้งแล้ว และยังมีคุณไสยมาช่วยทำให้แย่ลง ขอหลวงพ่อเมตตาแนะนำยา หรือการปฏิบัติตนให้ผมคลายจากเวทนานี้ด้วย กราบขอบพระคุณหลวงพ่อครับ

ตอบ : เลิกหายใจ ถ้าเลิกหายใจวันไหนก็หายสนิท..! เรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นกรรมเก่า ถ้าเราพิจารณาเห็นว่าสภาพร่างกายมีความป่วยไข้เช่นนี้เป็นปกติ ก็จะไม่ไปเครียด ไม่ไปกังวล ไม่ไปแบกไว้ เห็นว่าเป็นบุญลาภอันประเสริฐ ที่เราได้เห็นความทุกข์อย่างถนัดชัดเจน ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์เช่นนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก เราต้องการจะไปพระนิพพาน เรียกว่าพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ฉวยโอกาสที่ร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วย นำมาเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติของเรา เพราะฉะนั้น..ความเจ็บไข้ได้ป่วยต้องถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-05-2015 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-05-2015, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระผมได้ศึกษาธรรมะตามแนวหลวงพ่อวัดท่าซุงมานานหลายปี และได้ทราบว่า มีสมเด็จองค์ปฐมซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกสุดอยู่ จึงให้ความเคารพท่านมากเป็นที่สุด แต่พอช่วงหลังมานี้ ได้ศึกษาธรรมะตามแนวของหลวงพ่อสด คือวิชชาธรรมกาย จากทางวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จังหวัดราชบุรี ได้ศึกษาข้อมูลที่กล่าวไว้ว่า มี "พระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรมอยู่" ลูกศิษย์หลายท่านบอกว่า เป็นคนละพระองค์กับสมเด็จองค์ปฐมที่หลวงพ่อวัดท่าซุงสอน

กระผมอยากอาราธนาหลวงพ่อช่วยเมตตาอธิบายทีครับว่า เป็นพระองค์เดียวกันหรือไม่ ? ถ้าไม่ใช่ แล้วพระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรมคือท่านใดกันครับ ?

ตอบ : ไปถามคนที่บอกว่าไม่ใช่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 14:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-05-2015, 13:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมได้ใส่บาตรพระรูปหนึ่งที่รับบาตรอยู่ช่วงเช้า พอท่านให้พรเสร็จ ขณะที่ผมกำลังจะไป จู่ ๆ ท่านใช้ให้ผมหยิบของในมือท่านและของที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ ๆ ผมเข้าใจว่าเป็นของที่คนนำมาใส่บาตรซึ่งมีหลายอย่างด้วยกัน ให้นำไปใส่ในกระสอบใส่ของที่วางอยู่ที่พื้น เข้าใจว่าท่านอาจจะเตรียมกระสอบมา

ผมมีความกังวลและไม่ทันตั้งตัว จึงได้หยิบของใส่ลงกระสอบให้ท่านไม่กี่อย่าง จู่ ๆ ท่านก็ลุกขึ้นมาหยิบของใส่กระสอบด้วยตัวท่านเอง ซึ่งผมช่วยจับกระสอบอยู่พักเดียว แล้วผมก็เดินปลีกตัวไป ปล่อยให้ท่านจัดการของท่านเอง โดยผมไม่ได้มีความเต็มใจที่อยากจะช่วย เนื่องจากกลัวผิด อยากทราบว่าผมมีความผิดอะไรหรือเปล่าครับ ? และควรแก้ไขอย่างไรครับ ? และหากเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ผมควรทำอย่างไรครับ ?

ตอบ : ถือว่ามีส่วนร่วมไปแล้ว ถ้าเป็นกุศลก็เป็นกุศลไปแล้ว ถ้าเป็นบาปก็เป็นไปแล้ว ไม่ต้องเสียเวลามาสงสัย ให้ตั้งหน้าตั้งตาตั้งปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนาของเราไป อะไรที่สงสัยก็ถอยห่างเอาไว้ ถึงเวลาจะได้ไม่ต้องมาคิดให้ฟุ้งซ่านเศร้าหมองเหมือนอย่างปัจจุบันนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-05-2015 เมื่อ 17:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 06-05-2015, 13:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่คนสร้างกิจกรรมใดที่ให้คนลงชื่อเพื่อร่วมสนุกในการแจกของรางวัล โดยไม่ได้มีการเก็บเงินหรือว่าต้องให้คนร่วมสนุกซื้อของก่อน จัดเป็นการพนันหรือไม่ครับ ?
ตอบ : การพนันคือการพนัน ถ้าหากว่าเป็นการชิงโชคก็แค่อยู่ในลักษณะของการชิงรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ พูดง่าย ๆ ว่าดูตามหลักกฎหมายแล้วกัน ถ้าสิ่งที่กฎหมายไม่ถือว่าเป็นการพนันก็ไม่ต้องไปถือว่าเป็นการพนัน

ถาม : สโมสรกีฬาที่มีการซื้อขายตัวผู้เล่น จัดเป็นอาชีพค้ามนุษย์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : การค้ามนุษย์ส่วนใหญ่แล้วเขาค้าให้ไปเป็นทาส สโมสรกีฬาเขาค้าไปเป็นทาสหรือเปล่า ?

ถาม : ผู้ที่มีอาชีพเลี้ยงเด็กหรือคนชรา จัดเป็นอาชีพค้ามนุษย์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เลี้ยง..ไม่ได้ขาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 06-05-2015, 13:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีคนยืมเงินเราไป แล้วนำไปทำบุญ ภายหลังนำเงินมาใช้คืน เราสามารถนำเงินที่ได้รับคืนมาใช้จ่ายของเราเองได้หรือไม่และเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : แสดงว่าไม่เข้าใจคำว่าหนี้สงฆ์ แต่ไม่เป็นไร ให้เขาคิดว่าเป็นหนี้สงฆ์ไว้แหละดี ถ้าไม่ใช่..ใจเศร้าหมองจนลงข้างล่างไปเลย ก็คงจะระมัดระวังตัวมากขึ้น..!

ถาม : ถ้ามีคนฝากเงินให้เราทำบุญ จำเป็นหรือไม่ว่าจะต้องเป็นธนบัตรหรือเหรียญเดียวกันกับที่เจ้าของเงินให้มา เราสามารถใช้ธนบัตรหรือเหรียญอื่นที่มีมูลค่าเท่ากันทำแทนได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ทำด้วยมูลค่านั้น จะเป็นอะไรก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 06-05-2015, 13:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงนี้ฝันหนักมาก จนถึงขนาดที่ตื่นมารู้สึกเพลียไปหมดทั้ง ๆ ที่นอนมาเกือบแปดชั่วโมง พอเจอเข้าติด ๆ กันหลายวัน ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าพระอาจารย์มีวิธีไม่ให้ฝันไหมคะ ? แล้วการที่เราฝันเยอะ ๆ นี่หมายความว่ากำลังใจของเราฟุ้งซ่านไปในทางที่ไม่ดีหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ฝันแปลว่ากำลังใจไม่เป็นสมาธิจึงฟุ้งซ่าน ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก่อนนอนก็พยายามแผ่เมตตา แล้วภาวนาให้กำลังใจทรงตัวก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 06-05-2015, 13:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จากที่ทราบว่าอีกไม่นานนักจะเกิดสงครามใหญ่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทางซีกโลกเหนือ และเนื่องด้วยกระผมต้องไปเรียนต่อต่างประเทศในอีกไม่นานเช่นกัน ขอเรียนถามพระอาจารย์ว่า หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจริง ประเทศในแถบซีกโลกใต้ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จะรอดพ้นจากภัยสงครามหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ตกลงถามเองหรือว่ามั่วเอง ? เกิดสงครามใหญ่ที่ซีกโลกเหนือ..รู้ขนาดนั้นเลยหรือ ? แต่ทำไมไม่รู้ว่าซีกโลกใต้จะรอดหรือไม่รอด ต้องบอกว่าขอเชิญฟุ้งซ่านต่อไป เรื่องนี้เลยตายไปเยอะเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 06-05-2015, 13:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าผู้เป็นเจ้าของตะกรุดกระทำผิดอย่างชัดเจน เช่น ทำร้ายคนอื่น ลักขโมย นินทาว่าร้าย ฯลฯ บุคคลอื่นทราบเข้าจึงตำหนิการกระทำเหล่านั้น หรืออาจดำเนินคดีตามกฎหมาย บุคคลอื่นที่ตำหนิการกระทำของเจ้าของตะกรุด หรือนำตัวเจ้าของตะกรุดไปดำเนินคดีตามกฎหมาย จะโดนสะท้อนหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าทำชั่ว ตะกรุดก็ไม่คุ้มครองป้องกันอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 06-05-2015, 13:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขณะทำพิธีอุปสมบท มีภิกษุบางรูปศีลไม่สมบูรณ์ หรือขาดจากความเป็นพระ และมีฆราวาสร่วมพิธีอยู่ในโบสถ์ ฯ เมื่อเสร็จพิธีผู้ขอบวชจะถือว่าได้เป็นสมมติสงฆ์โดยสมบูรณ์หรือเป็นได้เพียงแค่เณรครับ ?
ตอบ : ถ้าอยู่นอกเขตหัตถบาส คือมือเอื้อมไม่ถึง การบวชก็สมบูรณ์ แต่ถ้าอยู่ในเขตหัตถบาสคือเอื้อมมือแตะกันถึง คุณก็เป็นแค่เณร ในเรื่องของสังฆกรรม อย่างน้อย ๆ ต้องเว้นช่วงระยะหนึ่ง แต่ถ้าจะเอาให้บริสุทธิ์จริง ๆ ต้องอยู่นอกเขตสีมาไปเลย

ถาม : หลังเสร็จพิธีอุปสมบท เราจะสามารถทราบได้อย่างไรว่าผู้ขอบวชได้เป็นสมมติสงฆ์โดยสมบูรณ์ หรือเป็นแค่เณร เพราะเราไม่ทราบเลยว่าในพิธีมีภิกษุที่ศีลไม่สมบูรณ์ร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าไม่ทราบแล้วจะอยากรู้ไปทำไม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 06-05-2015, 13:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อตอนสมัยบวชพระ มีเพื่อนพระด้วยกันนำวัตถุมงคลที่อยู่ในวิหาร ฯ มาให้ดู หลังจากที่สอบถาม เพื่อนพระแจ้งว่าสามารถหยิบออกมาได้ เจ้าอาวาสท่านไม่ว่า จากนั้นจึงได้ขอวัตถุมงคล และให้เพื่อนพระไปหยิบวัตถุมงคลในวิหารมาให้บ้าง เพื่อนำไปบูชาในกุฏิส่วนตัวและแจกบางส่วนให้ฆราวาส แบบนี้ถือว่า "ปาราชิก" หรือไม่ ?
ตอบ : เสี่ยงต่อการปาราชิกมาก เพราะว่าเป็นความเห็นของเพื่อนคนนั้น ไม่ใช่ความเห็นของพระสงฆ์ทั้งวัดร่วมกัน การจะนำของสงฆ์ไปใช้สอยอย่างไรก็ตาม ควรที่จะได้รับการอนุญาตจากสงฆ์หรือผู้แทนสงฆ์ก่อน ไม่ใช่ถึงเวลาเขาว่าส่งเดชก็เชื่อตามเขา กลายเป็นว่าเอาอนาคตหรือไม่ก็ความเป็นพระของตนเอง ไปแลกกับสิ่งที่คนอื่นเขาพูดด้วยลมปากเท่านั้น มีโอกาสขาดทุนมหาศาลเลย

ถาม : ขณะบิณฑบาตมีฆราวาสนำเงินใส่บาตรหรือย่าม หากเรานำเงินนั้นไปใช้ส่วนตัว เช่น ซื้อของให้แม่หรือฆราวาส อย่างนี้ถือว่า "ปาราชิก" หรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าซื้อของให้แม่ไม่เป็นไร เพราะท่านอนุญาตให้ภิกษุเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ แต่ท่านใช้คำว่าตามสมควร ไม่ใช่ประเภทซื้อเช้า ซื้อกลางวัน ซื้อเย็น แต่โดยปกติแล้ว ถ้าตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงสอนมาก็คือ ปัจจัยทุกอย่างที่เขาถวายมา จะเป็นส่วนตัวหรือส่วนรวมก็ตาม ให้นึกอยู่เสมอว่าเป็นของสงฆ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 06-05-2015, 13:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะเป็นการสมควรหรือไม่ถ้าจะรักษาศีล ๘ ช่วงระยะเวลากลางคืนก่อนนอนของทุกวันจนถึงรุ่งเช้า เนื่องจากเป็นช่วงระหว่างวันทำงานบ่อยครั้ง มีเหตุปัจจัยที่ทำให้หลุดจากศีล ?
ตอบ : เรียกว่าขี้โกง..! หลังจากกินข้าวเย็นไปแล้วใคร ๆ ก็รักษาได้

ถาม : แล้วมีอานิสงส์ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจจริง ๆ ก็มี แต่ถ้าตั้งใจโกงก็ไม่มี

ถาม : แล้วจำเป็นต้องอาราธนาศีลทุกครั้งไหมคะ หรือว่าตั้งใจจะรักษาศีล ๘ เท่านั้นก็เพียงพอ ?
ตอบ : การอาราธนาศีลเป็นการขอร้องให้พระท่านบอกว่าศีลมีอะไรบ้าง เมื่อท่านบอกมาเราก็สมาทาน คือศึกษาจดจำตามนั้น แล้วก็ยึดถือปฏิบัติไป ในเมื่อเรารู้แล้วว่ามีอะไร ก็ไม่ต้องเสียเวลาอาราธนา ไม่ต้องเสียเวลาสมาทาน ให้ตั้งใจปฏิบัติโดยการงดเว้นไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 06-05-2015, 13:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การสวดมนต์ในใจทั้งวันโดยไม่ได้กำหนดลมหายใจเข้าออก สามารถเข้าสู่พระนิพพานได้หรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้ตั้งใจไว้ก่อนก็ไปไหนไม่รอด แต่ถ้าตั้งใจไว้ก่อนว่าสิ่งที่เราทั้งหมดนี่เป็นไปเพื่อพระนิพพาน โอกาสที่จะไปก็มีมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 06-05-2015, 13:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เรารวมกันทำดี พูดคุยเรื่องคำสอน ธรรมะ การปฏิบัติ นี่คือบุญธรรมทานอย่างหนึ่งใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ดูด้วยว่าคุยถูกเรื่องหรือเปล่า ถ้าประเภทมั่วเอาโดย "อัตโนมติ" ไม่ใช่หลักธรรมที่แท้จริง มีสิทธิ์ลงอเวจีมหานรก ดีไม่ดีก็เลยไปถึงโลกันต์เลย ฉะนั้น..ในเรื่องธรรมสากัจฉา ต้องมีคนที่รู้จริงอยู่ด้วย ถึงเวลาถ้าคุยผิดต้องแก้ไขให้ถูกได้

ถาม : แล้วการที่เราอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้จะมีอานิสงส์อะไรบ้างคะ ?
ตอบ : ก็อยู่ที่ว่าตนเองตั้งใจอะไรเอาไว้ ถ้าตั้งใจเพื่อความหลุดพ้น สภาพจิตของตนเองเกาะความดีอยู่เสมอ โอกาสที่จะหลุดพ้นก็มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 06-05-2015, 13:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีฉันทะแบบไฟไหม้ฟางต้องทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็เลิกไหม้ฟาง หันไปไหม้ขอนแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 06-05-2015, 14:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมจะเห็นว่า คำถามบางคำถามนั้น เป็นการกระทำไปโดยพาซื่อ อย่างเช่น เพื่อนพระบอกว่าของชิ้นนี้เอาไปได้ก็เอาไป แสดงว่าขาดการอบรมจากครูบาอาจารย์เป็นอย่างมาก เสี่ยงต่ออาบัติอย่างสูง ไม่ได้คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย จะหยิบจะจับอะไรของภิกษุเรา ถ้าเจ้าของไม่ได้อนุญาต เคลื่อนออกจากฐานแค่เส้นผมผ่า ๑๖ ก็โดนอาบัติปาราชิกไปเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น..เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ง่าย ๆ เลยว่าครูบาอาจารย์สมัยนี้ไม่ค่อยจะเข้มงวดกับลูกศิษย์

ปัญหาที่ต้องการให้ถาม ก็คือ เราปฏิบัติธรรมไปแล้วปัจจุบันเป็นอย่างไร ? ควรจะปฏิบัติต่ออย่างไร ? ไม่ใช่ถามเพื่อสนองกิเลสในเรื่องที่ตอบไปแล้วก็ไม่เจ็บไม่คัน พูดง่าย ๆ ก็คือรู้แล้วเอาไปอวดชาวบ้าน แล้วก็ทะเลาะกันต่อไป เพราะอีกคนหนึ่งอาจจะไม่เชื่อก็ได้ จะกลายเป็นว่า “อาจารย์ฉันบอกอย่างนี้” แล้วเอาคำของอาจารย์ไปกลายเป็นอาจริยวาท ไปก่อวิวาทะกันขึ้น

ในเรื่องของคำถามขอให้พิจารณาให้ดี ๆ ว่าเกิดประโยชน์แก่ตนและส่วนรวมหรือไม่ ถ้าไม่เกิดประโยชน์แก่ตนและส่วนรวมก็อย่าเสียเวลาถามเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2015 เมื่อ 15:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 07-05-2015, 17:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่มีข่าวว่าเขาสามารถผ่าตัดเปลี่ยนศีรษะมนุษย์ย้ายไปร่างอื่นได้ แสดงว่าจิตอยู่ที่สมองหรือครับ ?
ตอบ : จิตอยู่ส่วนไหนของร่างกายก็ได้ ไม่ได้อยู่ที่สมอง แต่สมองเป็นศูนย์กลางในการสั่งให้ร่างกายทำงาน จิตต้องบังคับสมอง สมองบังคับร่างกาย แต่คราวนี้การที่จิตบังคับนั้นเป็นการบังคับที่เร็วมาก ต้องบอกว่าแค่คิด ดังนั้น..คนก็เลยคิดว่าการสั่งการเป็นส่วนของสมอง เรื่องของการที่ทำแล้วฝืนธรรมชาติมักรอดยาก ไม่อย่างนั้นคนก็ไม่ต้องตายกัน

เมื่อเดือนที่แล้วมีข่าวว่าด็อกเตอร์ท่านหนึ่งแช่แข็งลูกสาวตัวเอง เพื่อรอให้เทคโนโลยีการแพทย์ดีกว่านี้แล้วจะละลายลูกสาวออกมา เพื่อจะรักษาให้หายหรือทำให้ฟื้นใหม่ ถ้าเขามีความเชื่อมั่นอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นความเชื่อของเขา ไม่ใช่เรื่องที่น่าตำหนิ แต่ว่าถ้าในส่วนของการเป็นผู้ปฏิบัติธรรม นั่นคือการยึดติดอย่างน่ากลัว การยึดแค่ตัวกูของกูก็แย่แล้ว นี่ยังยึดคนอื่นเป็นของกูอีก กลายเป็นภาระ แบกภาระมากขึ้น โอกาสที่จะหลุดพ้นก็ไม่มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2015 เมื่อ 18:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 07-05-2015, 18:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มนุษย์ใฝ่ฝันจะเอาชนะความตายมาทุกยุคทุกสมัย ยิ่งผู้ที่เป็นใหญ่เป็นโตมีอำนาจ ก็ยิ่งกลัวตาย ตัวอย่างคือฮ่องเต้ของจีนหลายท่านด้วยกัน พอมีอำนาจวาสนา มีศักดานุภาพแผ่ไพศาล สิ่งที่คิดก็คืออยากจะมีชีวิตเป็นอมตะ แบบเดียวกับเจงกีสข่าน ส่งกองทัพยึดผืนแผ่นดินทั้งเอเซียและยุโรปกว้างใหญ่ไพศาล ก็แสวงหาบุคคลที่จะทำให้ตนเองเป็นอมตะ

คิวชู่กีที่เป็นนักพรตลัทธิช้วนจิน มีฉายาว่าผู้อมตะ ชื่อเสียงโด่งดังมาก เจงกีสข่านส่งทูตมาเชิญให้ไปช่วยสอนวิธีทำให้เป็นอมตะ พอเจอหลักการปฏิบัติธรรมเข้าเจงกีสข่านก็ไปไม่รอด แต่เจงกีสข่านเป็นคนรู้จักของดี เมื่อเห็นว่าหลักปฏิบัติอย่างนี้เป็นไปได้จริง ก็เลยส่งเสริมลัทธิเต๋า โดยเฉพาะลัทธิช้วนจิน จนกระทั่งลัทธินี้เจริญรุ่งเรืองไปทั่วแผ่นดินจีนสมัยนั้น ทำให้พุทธศาสนาเสื่อมลงไปมาก

หลักการปฏิบัติหลัก ๆ ก็คืออานาปานสติ พูดง่าย ๆ ว่าสร้างอภิญญาให้เกิด แล้วใช้กำลังอภิญญาปรับธาตุปรับร่างกายตัวเอง แล้วจะอยู่ไปทำอะไร ? อยู่ไปวันหนึ่งก็ทุกข์เพิ่มขึ้นวันหนึ่ง มีวันไหนไม่ปวดท้องเข้าห้องน้ำห้องส้วมบ้างไหม ? มีวันไหนที่เราไม่หิวบ้าง ? ระยะนี้มีวันไหนที่ไม่ร้อนบ้าง ? แต่เขาก็ยังอยากจะอยู่กัน

นึกถึงหลวงปู่มั่น ท่านพยายามไม่ให้ลูกศิษย์ยึดติดแม้แต่กายสังขารของท่าน ลูกศิษย์มรณภาพเผาเสร็จกระดูกเป็นพระธาตุ หลวงปู่มั่นเผาเสร็จกระดูกเป็นกระดูก ขี้เถ้าเป็นขี้เถ้า ผ่านไปเนิ่นนานหลายสิบปี ลูกศิษย์มรณภาพเผาแล้วเผาเล่า ท่านนั้นก็อัฐิเป็นพระธาตุ ท่านนี้ก็อัฐิเป็นพระธาตุ ของหลวงปู่มั่นเป็นขี้เถ้าเหมือนเดิม จนกระทั่งท้ายสุดคนลังเลสงสัยกันมาก ๓๐ กว่าปีผ่านไปอัฐิหลวงปู่มั่นถึงกลายเป็นพระธาตุ เพราะคนจะเริ่มปรามาสครูบาอาจารย์มากขึ้นแล้ว ท่านไม่ต้องการให้คนยึดติดกับสังขารร่างกายของท่าน จึงไม่ได้อธิษฐานทิ้งไว้ให้

การที่อัฐิเป็นพระธาตุนั้นเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือเจ้าของร่างกายอธิษฐานทิ้งไว้ให้ สาเหตุที่ ๒ คือพระท่านสงเคราะห์ให้ เพื่อรักษากำลังใจของคนส่วนใหญ่ ถามว่าทำไมกระดูกถึงเป็นพระธาตุ ? เหตุกระดูกเป็นพระธาตุได้เพราะว่าสภาพจิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายนี้ได้รับการขัดเกลาด้วยธรรมะจนสะอาดบริสุทธิ์ถึงที่สุด สภาพร่างกายซึ่งเป็นเครื่องอาศัยของจิต ก็เลยพลอยได้รับการขัดฟอกธาตุขันธ์ไปด้วย ถ้าเจ้าของไม่ได้ตั้งเจตนาเอาไว้ หรือเจตนาจะไม่ให้เป็น ก็จะไม่เป็นพระธาตุ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2015 เมื่อ 03:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 07-05-2015, 18:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องกายสังขาร ถ้าหากว่ามรณภาพแล้วไม่เน่า ยังไม่แน่ว่าจะใช่พระที่ปฏิบัติดีจนถึงที่สุดจริง ๆ เพราะการที่ร่างกายไม่เน่านั้นมีหลายสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรก ก็คือ ท่านที่ตั้งใจทิ้งกายสังขารเอาไว้เพื่อเป็นเครื่องยึดโยงกำลังใจของลูกศิษย์ อธิษฐานให้เป็นเช่นนั้น ส่วนใหญ่ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะบรรลุมรรคผลจริง ๆ

ส่วนที่สอง คือการกินว่านยาบางอย่าง ทำให้ร่างกายคงกระพัน ไม่เน่าได้ ส่วนที่สาม ใช้คาถาบางบทเสกข้าวกินเป็นประจำทุกวัน ตายแล้วจะไม่เน่า ง่าย ๆ ก็คือพระอภิธรรม ๗ บท แต่ว่าควรจะเสกก่อนกินข้าวสักครึ่งชั่วโมง ไม่อย่างนั้นจะหิวเป็นลมไปก่อน เพราะนานกว่าจะเสกจบ

ดังนั้น ถ้าเป็นเรื่องของกายสังขารยังไม่สามารถจะวัดได้ แต่ถ้าเรื่องอัฐิวัดได้ว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติปฏิบัติชอบจริงหรือไม่ เพราะท่านผ่านการฟอกธาตุขันธ์ไปจริง ๆ อัฐิมักจะแปรเป็นพระธาตุเอง ต้องบอกว่าโบราณเก่ง บางทีลูกหลานทำผิดแล้วผิดเล่า พ่อแม่โกรธจนด่า “ไอ้นี่ชั่วจนเข้ากระดูกดำ” ก็ขอให้ดูในมุมกลับว่า ถ้าดีจนถึงที่สุดก็กระดูกเป็นแก้วเหมือนกัน

ท่านใดดูข่าวรูปหล่อโลหะมีโครงกระดูกพระอยู่ข้างในบ้าง ? ถ้าลักษณะอย่างนั้นเจ้าของตั้งใจเอง คนอื่นทำให้ไม่ได้ ขอบอกว่าถ้าได้กสิณ ๑๐ ก็เป็นเรื่องเล็ก ถ้าไม่ได้กสิณ ๑๐ ก็ทำไม่ได้ เอาตัวเองเข้าแทนโครงสร้างข้างใน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2015 เมื่อ 03:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว