กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-06-2011, 08:48
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default อย่าติดขันธ์ ๕ จนเกินไป

อย่าติดขันธ์ ๕ จนเกินไป

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ ดังนี้

๑. “อย่าเอาจิตไปเกาะเวทนาของขันธ์ ๕ ให้มากนัก ปล่อยวางเสียบ้าง เหนื่อยนักก็พักเสียบ้างในตอนกลางวัน

๒. “งานใดก็ไม่สำคัญเท่ากับงานของจิต ทำทุกอย่างให้จิตผ่องใสจากกิเลส" (แม้ในขณะกายพัก จิตก็ยังทำงานทางธรรมได้ เพราะจิตไม่เหนื่อย งานทางโลกทำเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จจริง เพราะงานทางโลกเป็นไตรลักษณ์ หาความเที่ยงไม่ได้ ซึ่งตรงข้ามกับงานทางธรรมเสร็จแล้ว ได้แล้วจริง ก็เที่ยง ไม่ต้องกลับมาทำใหม่)

๓. “อย่าทำอารมณ์จิตให้หดหู่ไปกับอาการของขันธ์ ๕ นี้ ทุกข์ของกายเป็นเรื่องของกาย ย่อมเป็นไปตามกฎของกรรม จักฝืนกายไม่ให้มีเวทนาย่อมไม่ได้”

๔. “ทุกข์ของกายเป็นเพียงแค่กำหนดรู้ แก้ไขรักษาทุกข์นั้นก็ได้เพียงแค่ระงับชั่วคราวเท่านั้น จักให้ตัดทุกข์ของกายไปจนหมดสิ้นในขณะที่กายนี้ยังคงมีอยู่นั้นย่อมไม่ได้

๕. “สำหรับทุกข์ของจิตนี่แหละตัวสำคัญ เพราะอารมณ์ที่เศร้าหมองของจิตนี้ ถ้าหากไม่แก้ไขก็ยังจักเป็นเหตุให้ต้องเกิดต้องตายอีก ปรารถนาจักไปพระนิพพานก็จักต้องควบคุมอารมณ์ของจิตให้ไปในทางที่ถูกต้องด้วย อย่าติดขันธ์ ๕ จนเกินไป

๖. “ให้ตรวจดูสภาวะที่ไม่เที่ยงของขันธ์ ๕ ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง ว่ากายนี้ไม่ใช่ของเรา ไม่มีในเรา เราจักผูกพันมันเพื่อประโยชน์อันใด”

๗. “วางอารมณ์สังขารุเบกขาญาณเข้าไว้ เห็นทุกข์ของร่างกายแล้ว จงกำหนดรู้ว่าทุกข์อย่างนี้เกิดขึ้นได้เพราะการมีร่างกาย(อารมณ์วางเฉย หรืออารมณ์ช่างมันก็คือ ช่างเรื่องของร่างกายมัน หมายความว่า ทุกข์กายก็ดี เวทนาของกายก็ดี เป็นเรื่องของกายที่เขาแสดงธรรมของกายอยู่อย่างนั้นเป็นปกติธรรมดา ไม่มีใครจะไปทำให้เป็นอย่างอื่นไปได้ ใครฝืนล้วนเป็นอารมณ์หลงทั้งสิ้น)

๘. “ให้พิจารณาต่อไปว่า อะไรเป็นต้นเหตุให้เกิดมามีร่างกาย เพราะกิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม เกาะติดจิตเรามาเป็นเหตุให้เกิดร่างกาย เราจักไปแก้ไขที่กายให้มันหายเกิดได้ไหม แก้ไขให้มันหายเจ็บหายป่วยก็ไม่ได้หายตลอด อย่างดีก็แค่ระงับทุกขเวทนาชั่วคราว ไม่นานมันก็ป่วยใหม่ ไม่นานมันก็แก่ มันก็ตาย ให้ตามรู้ความเป็นจริงของร่างกายนี้ แล้วหันมาแก้ไขอารมณ์จิตที่ติดในร่างกายนี้ดีกว่า จักได้พ้นทุกข์อย่างแท้จริง

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:29



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว