กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #201  
เก่า 04-12-2019, 19:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่คราวนี้พระโมคคัลลานะ ท่านได้เอตทัคคะคือเลิศทางมีฤทธิ์ ท่านจะมีอภิญญาใหญ่ระลึกชาติได้ไม่จำกัดก็เป็นเรื่องปกติ พระสารีบุตร ท่านเป็นเอตทัคคะทางด้านผู้มีปัญญามาก จะระลึกได้ไม่จำกัดก็น่าจะปกติ พระมหากัสสปะท่านปรารถนาพุทธภูมิมา จนกระทั่งมีมหาปุริสลักษณะตั้งหลายประการแล้ว ระลึกได้ นางยโสธราพิมพาหรือบาลีเรียกว่าภัททากัจจานา ก็เป็นคู่บารมีพระพุทธเจ้ามานับชาติไม่ถ้วน ท่านระลึกได้ก็ถือว่าเป็นปกติ

แต่ปรากฏว่าผู้ที่เป็นเอตทัคคะทางมหาอภิญญา กลายเป็นนางยโสธราพิมพาภิกษุณี เพราะว่าท่านอื่น ๆ มีเรื่องอื่นที่เด่นกว่า กลายเป็นว่าผู้หญิงเป็นเอตทัคคะคือผู้เลิศทางมหาอภิญญา ส่วนผู้ชายท่านอื่น ๆ อย่างพระมหากัสสปะท่านก็เป็นเลิศทางด้านธุดงควัตร

ใครจะมาฟังต่อ มาฟังพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้จะพาเดินขึ้นเขาแล้ว เพราะว่าไม่มีเวลาจะเขียนให้โยมอ่าน ก็เลยเล่าให้ฟัง เป็นภาระคนถอดเสียง ถอดเสร็จก็เหมือนกับบันทึกการเดินทางนั่นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-12-2019 เมื่อ 22:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #202  
เก่า 04-12-2019, 19:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สนทนากับพระเรื่องการเดินทางไปจีน "สถานที่ที่ไปเป็นภูเขา เป็นทะเลสาบ เป็นแม่น้ำ มีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาทางวัชรยาน เป็นที่บำเพ็ญเพียรของพระโพธิสัตว์บ้าง เป็นที่บำเพ็ญเพียรของคุรุของเขาบ้าง จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาต้องไปแสวงบุญ เขาใช้คำว่าแสวงบุญ ส่วนเราไปแสวงหาความตาย ไปยากเป็นบ้าเลย

ไปที่นั่นนี่ลอกคราบเลย หน้าล่อนเป็นแผ่น ๆ ผมนี่จมูกล่อนเป็นขุย ๆ หนาวจริง ๆ เพราะว่ายอดเขาหิมะอยู่ห่างไปนิดเดียว แล้วลมพัดมาจากทางนั้น เขาบอกว่าอากาศลบ ๖ องศาเซลเซียส แต่ความรู้สึกของเราน่าจะลบสัก ๑๐ - ๒๐ ถึงได้หนาวแบบนั้น ลมแรงมาก เพราะว่าเป็นช่องลมพอดี ผมไปนึกถึงพวกพระลามะที่เขาไปฝึกกัน เราแค่เดินไปก็จะตายแล้ว นั่นเขาไปฝึกกันเป็นเดือนเป็นปี

ไปแบบนั้นแล้วเห็นสองอย่าง อย่างแรกคือแผ่นดินนี้กว้างใหญ่ไพศาลจริง ๆ อย่างที่สองคือความตายอยู่แค่ปลายจมูก ไม่รู้ว่าจะหายใจเข้าแล้วจะไม่หายใจออกเมื่อไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #203  
เก่า 04-12-2019, 20:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนไปพม่า ผมไม่ได้สังเกตตัวเอง แรก ๆ ก็ไปกันแค่คนสองคน ไม่มีใครกล้าไปด้วย กลัวทหารกะเหรี่ยงบ้าง กลัวพวกกะหร่างบ้าง ประเภทจับเผายิงรถอะไรสารพัด พอไป ๔ - ๕ เที่ยว ทำไมคนเยอะขึ้นเรื่อย ๆ วะ ?

ท้ายสุดไปถามนายท่าว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าพวกนี้สังเกตว่าพระอาจารย์ไปแล้วปลอดภัยทุกครั้ง เขาเลยขออาศัยไปด้วย พวกนี้ช่างสังเกต โดยเฉพาะพวกที่เราเช่ารถเขาไป ไปแล้วปลอดภัยทุกครั้ง ไม่เคยโดนอะไร กลับมาเล่าต่อ ๆ กัน ฉะนั้น..พอถึงเวลาเราไป เขาชวนใครไปด้วยก็ไปทั้งนั้น สรุปว่าค่าเช่ารถ ๓๐,๐๐๐ จั๊ตของเรา เขาเก็บไว้รองรัง แล้วก็ยังไปไล่เก็บคนอื่นได้อีกเยอะแยะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #204  
เก่า 04-12-2019, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สั่งงานโยม "ปีหน้าที่เราจะสวดคาถาเงินล้าน ช่วยขึ้นป้ายด้วยว่าเราจะสวดพระคาถาเงินล้าน อุทิศให้พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ตอนแรกจะจัดงานให้ท่านต่างหากแล้วเวลากระชั้น เพราะว่าท่านมรณภาพวันที่ ๑๘ มกราคม เราสวดพระคาถาเงินล้านวันที่ ๑๙ มกราคม ไม่อยากให้ท่านตายเปล่า ตายแล้วคนลืม หาทางจัดงานให้ท่านไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยในกลุ่มเล็ก ๆ ของเราก็ยังไม่ลืมท่าน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #205  
เก่า 04-12-2019, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สนทนากับพระ "หลวงหว่างท่านเป็นสหธรรมมิกร่วมงานกันมาตั้ง ๒๖ ปี ตอนนี้แก๊งค์นั้นทั้งแก๊งค์เหลือผมกับหลวงพ่อนิล ๒ รูป นอกนั้นตายเรียบ..! ไปนึกถึงตอนนั้นว่าช่างกล้าหาญเหลือเกิน ผมแค่ ๘ พรรษา หลวงหว่างหรือพระครูประโชติฯ แค่ ๒ พรรษา ตั้งใจอธิษฐานทำงานเพื่อพระศาสนากัน แม้จะต้องสละชีวิตก็ยอม

ตอนนั้นหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาสรูปปัจจุบัน ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี บอกว่าลงมาช่วยงานกันหน่อย แถวนี้ตำแหน่งมีเยอะมากเลย หาคนไม่ได้ ท่านเองรักษาการเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคณะอำเภอ เป็นเจ้าคณะตำบล เป็นเจ้าอาวาส

หลวงหว่างถึงได้โตเร็ว เพราะว่านอกจากท่านกล้าทำงานแล้วยังยอมเรียนด้วย ท่านจบปริญญาโท มจร."

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #206  
เก่า 04-12-2019, 21:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่างมหาชรัช (ชรัช อุชุจาโร ป.ธ.๖ ,ดร.) เพื่อนผม ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดปัตตานีไปแล้ว น้อยกว่าผมหลายพรรษา บางทีมีโอกาสคุยกันแค่ทางโทรศัพท์ คุยกันแค่เจอหน้าบนเครื่องบิน เดี๋ยวรอให้พ้นกฐินจะโทรไปถามท่านว่า ปีหน้าจะเอากฐินไปช่วยสร้างพุทธมณฑลปัตตานีจะตกลงไหม ถ้าท่านตกลงรับผิดชอบได้ พวกเราก็ลุยตั้งแต่ต้นปีเลย ให้ท่านได้เงินเยอะหน่อย

ปัตตานีนี่อิสลาม ๘๐ - ๙๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วท่านกล้าสร้างพุทธมณฑล..! คนแบบนี้ไม่สนับสนุนไม่ได้แล้ว เพราะว่าบ้าพอกับผมเลย ตอนเป็นมหาชรัชอยู่วัดช้างให้ ไม่มีอะไรเลย พอกล้าลงไปอยู่วัดตานีนรสโมสร สักพักเดียวก็เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เป็นพระครูสิริจริยาลังการ เป็นรองเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคุณ เป็นให้ยุ่งไปหมดเลย ท่านอยู่กลางดงอิสลามเขาเลย

ไปถึงใหม่ ๆ ท่านก็โทรมา "อาจารย์เล็ก..ขอหนังสือสวดมนต์สัก ๓,๐๐๐ เล่ม" ถามว่า "พิมพ์เองได้ไหม ?" "ได้..แต่เล่มละ ๒๐ กว่าบาท" "เออ..นั่นแหละ เดี๋ยวผมส่งเงินไปให้" ให้ส่งหนังสือ ๓,๐๐๐ เล่มไป ตูว่าจ่ายค่าพิมพ์ให้จะง่ายกว่านะ

ตอนที่รู้จักกัน ท่านจบปริญญาโท ผมจบด็อกเตอร์ก่อนท่าน พอสักพักหนึ่งท่านก็ "อาจารย์เล็ก..ลงมาช่วยผมสอนหนังสือหน่อย" "สอนที่ไหน ?" "มจร.ปัตตานี..ผมจะตั้งวิทยาลัยสงฆ์" โห...พ่อคุณเถอะ ตอนแรกขอหนังสือ ๓,๐๐๐ ถามว่า "คุณจะเอาไปแจกใคร ? ที่นั่นมีแต่อิสลาม" เขาบอก "ผมจะเอาเด็กนักเรียนเข้าวัด" บอกท่านว่า "เออ..ถ้าเด็กนักเรียนเข้าวัด ๓,๐๐๐ เล่มนี่สมเหตุสมผล คุณดึงเข้ามาได้สัก ๔ - ๕ โรงเรียน ก็แทบจะไม่พอให้อยู่แล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2019 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #207  
เก่า 04-12-2019, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เวลาผมลงไปช่วงนั้น ถ้าตรงกับวันศุกร์ เขาจะให้ผมไปเทศน์ เพราะว่าวันศุกร์พวกนักเรียนของอิสลามเข้าสุเหร่ากันหมด ไปละหมาดกัน เด็กไทยเราก็โดนปล่อยเกาะ จึงต้องเอาพระไปเทศน์ ตอนแรกผมก็ไม่รู้เหตุผล สงสัยว่าเขานิมนต์เทศน์ทำไม ?

ตอนที่ ดร.หนึ่ง (พระจิตศิลป์ เหมฺรํสี,ดร.) ของเราจะลงไปเก็บวันปฏิบัติธรรมปริญญาเอก ท่านถามว่า "หลวงพ่อ..มีใครรู้จักใกล้เคียงแถวนั้นไหม ?" ผมบอกว่า "ไม่ต้องใกล้เคียงหรอก เจ้าของ มจร. ที่คุณจะไปเก็บวันนั่นแหละ ไปบอกท่านว่าเป็นลูกศิษย์อาจารย์เล็กก็จบแล้ว" ไปได้ ๒ วัน ท่านโทรมา "บารมีหลวงพ่อแท้ ๆ ผมได้อยู่ห้องปรับอากาศเลย" ไปปฏิบัติธรรม ได้อยู่ห้องปรับอากาศ บอกแล้วว่าเพื่อนกัน คุณไปบอกว่ามาจากวัดท่าขนุน มาจากหลวงพ่อเล็กก็จบแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #208  
เก่า 04-12-2019, 21:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ท่านเป็นนักเทศน์รุ่นเดียวกัน ช่วงที่ยังว่าง ๆ ต่างคนต่างไม่มีงานทำ ไปสุมหัวเรียนเทศน์รุ่นเดียวกัน นอนห้องเดียวกันมา ๑๕ วัน แล้วก็นั่งโต๊ะเดียวกันมาตลอด

ส่วนใหญ่เพื่อนร่วมรุ่นจะจำผมได้หมด ที่จำได้หมดเพราะว่าอาจารย์สอนครั้งเดียวแล้วทำได้ อีกอย่างก็คือ พอถึงเวลาก็ไปช่วยงานอาจารย์ มีหน้าที่จับเวลาให้เพื่อน เขาให้คนละ ๕ นาที พอ ๓ นาทีก็เคาะเตือนครั้งหนึ่ง ๕ นาทีก็เคาะเตือน ๒ ครั้ง เพื่อนจึงจำได้หมด

พวกป๋าลอ (พระครูสุตาภรณ์พิสุทธิ์) ก็รุ่นเดียวกันหมด พระครูปริยัติวโรปถัมภ์ วัดอู่ทอง เจอหน้ากัน ถามว่า "หลวงพ่อจำผมได้ไหม ?" "มีเค้านะอาจารย์ ผมว่าผมรู้จักอาจารย์แน่" "รู้จักสิครับ เราเป็นนักเทศน์รุ่นเดียวกัน" "หา...ขนาดนั้นเลยหรือ นานเกินไปแล้ว" "หลวงพ่อจำผมไม่ได้ แต่ผมจำหลวงพ่อได้นะครับ"

ส่วนใหญ่ช่วงที่พรรษายังไม่มาก ต้องรับงานที่เขาให้อบรม ไปนี่ไปนั่น ถ้าใครเคยรับงาน เจ้านายเขาก็จะส่งแต่คนนั้น กี่งาน ๆ ก็ไปเจอหน้ากัน กลายเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #209  
เก่า 04-12-2019, 21:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนมีโยมมาถวายเหรียญบาทรัชกาลที่ ๙ ปี ๒๕๑๗ เลี่ยมมาให้อย่างดี เขาตั้งใจให้ใช้ เหรียญหลังตราครุฑ เกิดจากคนที่เข้าป่าแล้วไปโดนผีหลอก ปรากฏว่ามีเหรียญในหลวงรัชกาลที่ ๙ อยู่ ผีเลยเตลิดเปิดเปิงไม่กล้าหลอก

ทำให้นึกถึงตอนสมัยสร้างทางรถไฟผ่านดงพญาเย็น จำเป็นต้องตัดต้นไม้ใหญ่บางต้นที่อยู่ในแนวทางรถไฟแล้วตัดไม่ได้ ถ้าใช้เลื่อยใช้ขวานก็จะโดนตัวคนทำบาดเจ็บ ใช้รถเกรดเข้าไปถึงรถก็ดับ ท้ายสุดเสนาบดีกระทรวงรถไฟ ก็คือกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ต้องเอาตราแผ่นดินไปตอก ประกาศว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทำทางรถไฟผ่านตรงนี้ ฉะนั้น..ไม่ว่าท่านจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางอะไรก็ตาม ต้องขออนุญาตตัดต้นไม้เพื่อทำทางผ่าน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #210  
เก่า 04-12-2019, 21:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จะเห็นว่าในเรื่องของตราครุฑตราแผ่นดิน ส่วนใหญ่แล้วแสดงออกถึงซึ่งพระราชอำนาจ แบบเดียวกับหลวงปู่โต วัดระฆัง สมัยรัชกาลที่ ๓ ถวายตำแหน่ง ท่านไม่รับ พอมาสมัยรัชกาลที่ ๔ ถวายตำแหน่ง แล้วท่านรับ

รัชกาลที่ ๔ ตรัสถามว่า ทำไมครั้งนี้ถึงรับ ? ท่านบอกว่ารัชกาลที่ ๓ เป็นแค่พระเจ้าแผ่นดิน ท่านพอจะหนีได้ รัชกาลที่ ๔ เป็นทั้งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ท่านไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ไหน รัชกาล ๓ เป็นลูกสามัญชน เกิดใหม่เป็นแค่หม่อมเจ้า ท่านไม่ได้เป็นเจ้าฟ้าโดยกำเนิดเหมือนกับรัชกาลที่ ๔"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #211  
เก่า 04-12-2019, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “พระปิดตาสี่เกลอยอดบายศรีของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ขอครึ่งล้านบาทถ้วน ตอนแรกลงไป ๒ องค์คิดว่าไม่มีใครเอา ที่ไหนได้..แย่งกันเกือบตาย เขาบอกว่าในตลาดราคาเป็นสิบล้าน..!

พระปิดตาสี่เกลอยอดบายศรี ท่านต้องบวงสรวงครั้งหนึ่งถึงจะได้ทำองค์หนึ่ง พระปิดตายอดบายศรีนอกจากหมายถึงความสุดยอด คือที่สุดของที่สุดแล้ว ท่านยังเป็นแบบสี่เกลอคือหันหลังชนกัน ล้มไม่ได้ ค้ำกันอยู่ โดยเฉพาะพวกนักการเมืองจะหากันมากเป็นพิเศษ ยอมสู้ราคา..สิบกว่ายี่สิบล้านก็เอา”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #212  
เก่า 04-12-2019, 21:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “หลวงพ่อกวยท่านเป็นที่เคารพนับถือกันมาก เพราะว่าท่านเก่งจริง แล้วอีกอย่างคือท่านรักลูกศิษย์เป็นที่สุด ท่านไม่ได้สนใจว่าลูกศิษย์ของท่านจะดีจะชั่ว ต่อให้เป็นโจรติดคุกอยู่ ถ้าเคารพนับถือท่านก็ไปเยี่ยม ท่านบอกตอนดีเราก็ใช้มัน ตอนมันเดือดร้อนเราก็ต้องไปดูไปแล”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #213  
เก่า 05-12-2019, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า อัญโญ เม อากัปโป กะระณีโยติ อาการ กาย วาจา ใจ อย่างอื่นที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่อีก มิใช่เพียงเท่านี้ฯ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #214  
เก่า 05-12-2019, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ศาสดามหาวีระกับนิครนถนาฏบุตรเป็นคนเดียวกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คนเดียวกัน ลูกศิษย์เขาก็เรียกว่าศาสดามหาวีระ แต่คราวนี้ด้วยความที่เขาเป็นนักบวชประเภทนิครนถ์ก็เลยเรียกว่า “นิครนถนาฏบุตร” นักบวชลูกของนางรำ

ถาม : ทำไมประวัติคล้ายพระพุทธเจ้ามาก ?
ตอบ : คล้ายพระพุทธเจ้าทุกอย่างเลย เพราะว่าเกิดในสกุลกษัตริย์ ถึงเวลาออกบวช ปฏิบัติแล้วเจริญก้าวหน้ากว่าคนอื่นเขา ท้ายสุดก็เป็นศาสดาเอง แล้วโดยเฉพาะว่ารูปร่างก็คล้ายกัน

ถาม : คำว่านาฏบุตร แปลว่า นักฟ้อนรำ ?
ตอบ : ใช่..เป็นลูกของหญิงฟ้อนรำในวัง ที่ท้องกับพระมหากษัตริย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #215  
เก่า 05-12-2019, 21:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เวลาเราไปอินเดีย ถ้าเจอเหมือนกับพระพุทธรูปต้องดูก่อน ถ้าห่มจีวรเรียบร้อยก็แล้วไป แต่ถ้าโชว์อวัยวะเพศคือนิครนถนาฏบุตรเพราะว่าเขาเป็นชีเปลือย เพียงแต่ว่าลักษณะคล้ายกับพระพุทธเจ้าเลย แสดงว่ามีมหาปุริสลักขณะเหมือนกัน

ต้องบอกว่าท่านเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นอาจารย์ของพระพุทธเจ้า ตั้งศาสนาขึ้นมาก่อน คราวนี้ตอนที่ท่านตาย บรรดาลูกศิษย์ก็ทะเลาะเบาะแว้งกัน จนกระทั่งพระจุนทเถระกับพระสารีบุตรทูลให้พระพุทธเจ้าทำสังคายนาพระธรรมวินัย ก็คือจัดคำสอนให้เป็นหมวดหมู่ ถึงเวลาจดจำง่าย จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน

ลูกศิษย์ของท่านปัจจุบันนี้ก็แบ่งเป็น ๒ พวก พวกหนึ่งนุ่งผ้าขาวเรียกว่า เศวตัมพร อีกพวกหนึ่งแก้ผ้าไปเลยเรียกว่า พวกทิฑัมพร คือนุ่งลมห่มผ้า นั่นอาจารย์ตายแค่ไม่กี่วันลูกศิษย์ก็แตกเป็น ๒ คณะใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #216  
เก่า 05-12-2019, 22:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้พระจุนทะก็ขอพระพุทธเจ้าทำสังคายนา พระพุทธเจ้าตรัสว่ายังไม่ถึงเวลา พระสารีบุตรขอพระพุทธเจ้าทำสังคายนา พระพุทธเจ้าตรัสว่ายังไม่ถึงเวลา จนกระทั่งพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๓ เดือน พระมหากัสสปะจึงรวบรวมพระอรหันต์ ๕๐๐ รูป โดยเฉพาะพระอานนท์ ทำสังคายนาพระธรรมวินัยที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ภูเขาเวภาระ

มีคนสงสัยว่าถ้ำสัตตบรรณคูหาเล็กนิดเดียว แล้วบรรจุพระตั้ง ๕๐๐ ได้อย่างไร ? ถ้ำนั้นเป็นแค่ที่อาศัยหน่อยเดียว เขาปลูกเป็นเพิงยาวออกมา ที่รู้เพราะตอนนั้นอาตมาเป็นพราหมณ์ไปดูพิธีเขาอยู่ด้วย ชาตินั้นไม่ได้ถือพุทธศาสนาด้วยนะ เป็นพราหมณ์ ตอนหลังถึงได้ปฏิญาณตนถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

ท่านทำสังคายนาอยู่ ๗ เดือน ถามว่าทำไมสังคายนาพระไตรปิฎกนานถึง ๗ เดือน ? เพราะว่าต้องถาม – ตอบ กันทีละพระสูตร ทีละบท ทีละประโยคเลย สอบสวนทวนความกันจนไม่มีใครขัดค้านแล้วถึงรับรองว่าใช่ พอรับรองว่าใช่ค่อยสวดสาธยายขึ้นพร้อมกัน ถ้าสวดตรงกันไม่มีผิดแล้วค่อยรับรองได้ว่าถูกต้อง ถึงได้เรียกว่าสังคายนา คือการร้อยกรองพระธรรมวินัย มีการสวดสาธยายก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #217  
เก่า 05-12-2019, 22:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างเช่นเขาถามว่า ปฐมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปญฺญตฺตนฺติ ปฐมอาบัติปาราชิกบัญญัติขึ้นที่ไหน ? เวสาลิยํ ปญฺญตฺตนฺติ บัญญัติขึ้นที่เมืองเวสาลี คนถามก็ถาม คนตอบก็ตอบ

กํ อารพฺภาติ ด้วยปรารภเรื่องอะไร ? สุทินฺนํกลนฺทปุตฺตํ อารพฺภาติ ปรารภเรื่องของพระสุทินกลันทบุตร ถ้าเราสวดได้แปลได้ จะเข้าใจเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าเราแปลไม่ได้ก็ได้แต่สวดขลัง ๆ ไปเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #218  
เก่า 05-12-2019, 22:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมที่บูชาวัตถุมงคลไปกำลังใช้กล้องนั่งส่องอยู่ "แสดงว่าระดับอาชีพแล้ว พกกล้องมานั่งส่อง แต่อาตมาน้อยครั้งที่จะใช้กล้อง เหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าอะไรก็ตามที่ก่ำกึ่งจะไม่แตะ ถ้ามีที่สงสัยให้ “เอ๊ะ” แม้แต่นิดเดียวก็ไม่แตะ

พยายามแนะนำทิดเฟิร์สอยู่ บางทีทิดเฟิร์สเจอของถูกใจแล้วหน้ามืด..โดดใส่ ระวังโดนเขาสอยร่วงนะ..! ถ้าขนาดต้องมาส่องมาพิจารณานี่อาตมาไม่เอาด้วย มีข้อแม้เมื่อไรหยุดทันที ถ้าไม่โลภ..โอกาสโดนหลอกก็มีน้อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #219  
เก่า 05-12-2019, 22:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างที่พูดถึงแชร์แม่มณี ส่วนใหญ่ที่โดนก็เพราะความโลภ อาตมาเองเห็นชัดเลยว่า ถ้าคนเราสร้างกรรมไว้อย่างไรก็โดน แชร์แม่ชม้อย อาตมารู้จักหัวหน้าสายใหญ่เลย เพราะว่าเขาเป็นเพื่อนของน้า ชวนอาตมาเล่นมาหลายปีแต่ก็ไม่เล่นกับเขา จนกระทั่งลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงเล่นกันเกือบครบคน อาตมาก็ยังไม่เล่นกับเขา

แต่ท้ายที่สุดพวกพี่ ๆ น้อง ๆ ก็มาอ้อนขอยืมเงินไปเล่น มาถึงก็ “พี่เป็นคนไม่มีความโลภก็จริง แต่พวกผมยังต้องกินต้องใช้อยู่ ถ้าผมได้มาแบ่งพี่บ้าง พี่ก็ได้เอาไปทำงานพระศาสนาด้วย” สารพัดที่เขาจะกล่อม ท้ายสุดจากที่อาตมาไม่เล่นแชร์ แต่คนยืมเงินไปเล่น ๗ คันกว่า แชร์น้ำมันเขามีแบ่งเป็นคัน แบ่งเป็นล้อ แบ่งเป็นน็อต แล้วแต่ใครเงินมากเงินน้อย อาตมาไม่เล่นเลยโดนไป ๗ คันกว่าเพราะว่าพรรคพวกยืมเงินไปเล่น

ถึงเวลาแม่ชม้อยล้มครืนขึ้นมา อาตมาเองถือว่าเจ็บตัวน้อยที่สุด เพราะว่ารับดอกมาท่วมต้นแล้ว แต่สงสัยเลยไปถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า “ผมทำอะไรมาครับ ผมไม่ได้โลภทำไมถึงโดน ?” “สมัยที่รบกัน เอ็งเป็นกองเสบียง คอยสนับสนุนเขา” โดนจนได้..งานนั้นไม่ได้ออกหน้าแต่โดนด้วยจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #220  
เก่า 05-12-2019, 22:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,252 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนหลังโยมแม่ได้เงินค่าเวนคืนที่มาหลายล้าน บอกกับท่านว่าอาตมาไม่เอา แต่ท่านก็เอามาถวายจนได้ พอโยมแม่แบ่งให้พี่ ๆ น้อง ๆ แล้ว ก็เอาเงินมาถวายให้อาตมาด้วย อาตมาก็ไม่ได้ถามว่าคนอื่นได้เท่าไร แต่ท่านให้อาตมาเยอะน่าดู

มีคนชวนเล่นแชร์น้ำมันอีก ทั้ง ๆ ที่แม่ชม้อยล้มแล้วนี่แหละ เล่นก็เล่น เพราะอาตมารู้นี่ว่าเล่นได้ ก็เล่นไปอยู่ ๓-๔ ปี ดอกท่วมต้นแล้วท่วมต้นอีก ปีนั้นก็บอกกับนายหน้าเขาว่า "ช่วยถอนเงินคืนให้ที อาตมาเลิกเล่นแล้ว" นายหน้ามากระซิบถามว่า "จะมีเรื่องไม่ดีแล้วใช่ไหมครับ ?" บอกว่า "ใช่..ช่วยถอนให้หน่อย จะเอาเงินต้นคืน"

ก็ปรากฏว่าทางด้านหัวหน้าแชร์ก็กราบมือกราบเท้าขอร้อง บอกว่า "พระอาจารย์อย่าถอนเงินเลย ถ้าอาจารย์ถอน เดี๋ยวคนอื่นแตกตื่นแล้วถอนกันหมด หนูเจ๊งแน่" อาตมาเองก็คิดว่าจะเอาอย่างไรดี ? เขาจะล้มอยู่แล้ว ท้ายสุดก็ตัดใจว่า "ล้มก็ช่างมันวะ เราได้ดอกท่วมต้นมาตั้งหลายเท่าแล้วนี่" ท้ายสุดก็ล้มจริง ๆ

สรุปได้ว่าต่อให้คุณมีอนาคตังสญาณดีขนาดไหนก็ตาม ถ้าเวรกรรมมาถึงก็โดนจนได้แหละ ขอถอนล่วงหน้าตั้งครึ่งค่อนปี เขาขอร้องว่าอย่าถอนเลย อาตมาเองได้ดอกมาก็ทยอยซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ จำได้ว่าซื้อตั้งแต่บาทละ ๔,๒๕๐ ทยอยขึ้นมาจนบาทละ ๔,๗๕๐ ซื้อเก็บเอาไว้หลายสิบบาท ฉะนั้น...ปัจจุบันนี้ถ้าถามมีเงินส่วนตัวไหม ? มี...เป็นเงินมรดกที่แม่ให้ แต่ว่าไม่ใช่เงินต้นนะ เงินต้นล้มไปกับแชร์เขาเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ดอกที่ท่วมต้นแล้วซื้อทองเก็บเอาไว้

ถึงได้บอกว่าต่อให้คุณมีอภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ อะไรก็ตาม ถ้าวาระกรรมมาถึงก็เลี่ยงไม่ได้ ยังโดนจนได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ไปขอเขาเบิกคืน แต่เขาไม่ให้คืน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว