กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-10-2018, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุุกร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ที่อยากจะเตือนพวกเราในวันนี้ก็คือเรื่องของการปฏิบัติกรรมฐาน ถ้านับในเรื่องของประโยชน์แล้วมีประโยชน์มหาศาลมาก แต่เนื่องจากว่าพวกเราทั้งหลายนั้นยังขาดกำลังใจ

กำลังใจในที่นี้จะว่าไปแล้วก็คือกำลังสมาธิ ในเมื่อสมาธิไม่ทรงตัว การที่จะรักษาอารมณ์ในการปฏิบัติให้ต่อเนื่องก็เป็นไปได้ยาก เพราะว่ามักจะฟุ้งซ่านไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง เสียก่อน ถ้าหากว่าสมาธิจิตของเราอยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับคำภาวนา ถ้าไม่เคลื่อนไม่คลายไปไหน รัก โลภ โกรธ หลง จะโดนกำลังสมาธิกดดับลงชั่วคราว ตอนช่วงนั้นเราจะมีความสุขมาก เป็นความสุขที่พูดเป็นภาษามนุษย์ไม่ถูก

บุคคลที่โดนไฟ รัก โลภ โกรธ หลง ๔ กองเผาอยู่ตลอดเวลา ถ้าไฟดับลงเราจะมีความสุขแบบไหน ? พูดเป็นภาษาคนไม่ได้ บาลีว่าปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตัวเท่านั้น คราวนี้การปฏิบัติของเราส่วนใหญ่เราทำด้วยความอยาก อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากเก่ง อยากดี อยากเด่น อยากดัง

ในเมื่อเราเริ่มต้นด้วยความอยาก โอกาสที่จะได้ดีก็มีน้อย เพราะว่าตัวอยากเป็นความฟุ้งซ่าน เป็นนิวรณ์ใหญ่ที่กั้นความดีไว้ไม่ให้เข้าถึง แต่ถ้าหากว่าไม่อยากแล้วเราจะปฏิบัติทำไม ? ถ้าหากว่าความอยากเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาภาวนาให้กำลังใจของเราอยู่กับคำภาวนาและลมหายใจเข้าออก ไม่ใช่อยู่กับความอยาก พูดง่าย ๆ ก็คือว่าอยากได้ แต่ตอนภาวนาให้ลืมความอยากเสียก่อน ถ้าเราสามารถทำแบบนี้ได้ กำลังสมาธิก็จะทรงตัวได้ง่ายแล้วก็เร็ว เพราะว่าสภาพจิตไม่ได้วุ่นวายด้วยความอยาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-10-2018 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-10-2018, 22:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในแต่ละวันญาติโยมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษากำลังใจของเราให้มั่นคงอยู่กับสมาธิ เพื่อป้องกันไม่ให้กิเลสหยาบ คือ รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามาทำให้สภาพจิตของเราเศร้าหมองมืดบอด ถ้ากำลังใจของเราจดจ่ออยู่กับสมาธิภาวนา สภาพจิตก็จะค่อย ๆ ผ่องใสขึ้น ทรงตัวมากขึ้น มีกำลังมากขึ้น ก็จะทำให้เราเกิดความพากเพียรในการปฏิบัติมากขึ้น เพราะว่าทำแล้วเกิดผลดี

การที่เราปฏิบัติธรรมแล้วเกิดผลดี ก็จะทำให้เราอยากที่จะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยเฉพาะเมื่อกำลังสมาธิทรงตัว สามารถต่อต้านกิเลสได้ เราก็จะรู้ว่าเวลาที่จิตเราผ่องใสจากกิเลสนั้นมีความสุขอย่างไร แล้วเวลาที่จิตโดนท่วมทับด้วยกิเลสนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทุกข์ทรมานขนาดไหน

เมื่อเป็นดังนั้นในแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงเช้ามืด เราจึงต้องสร้างกำลังใจของเราให้ทรงตัวเอาไว้ ลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องรีบเอาสติจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา หรือบางท่านเคยชินกับภาพพระหรือพระนิพพาน ก็ส่งจิตไปกราบพระบนพระนิพพาน รักษากำลังใจให้ทรงตัวเสียก่อนแล้วค่อยไปทำอย่างอื่น

ถ้าเกรงว่าเราภาวนาแบบนั้นจะเผลอหลับ ก็ให้ตั้งใจนึกถึงพระ ไม่ว่าจะเป็น พุทโธ ธัมโม สังโฆ อย่างไรก็ได้ สัก ๓ ครั้ง ๕ ครั้ง ๗ ครั้ง แล้วก็ไปล้างหน้าล้างตา อาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่ให้ร่างกายสดชื่นก่อน แล้วค่อยมานั่งสมาธิภาวนาก็ได้ กำลังสมาธิที่ได้ในช่วงเช้า จะรักษากำลังใจของเราให้ผ่องใส ถ้าหากว่าประคับประคองดี ๆ ก็อาศัยได้ทั้งวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-10-2018 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-10-2018, 22:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ถ้าหากว่าฝีมือไม่ดี กำลังสมาธิไม่สูง กระทบกับกิเลส ไม่ว่าจะระหว่างเดินทางหรือระหว่างทำงาน กำลังสมาธิเคลื่อนคลายหรือสลายตัวไป เราก็ต้องรีบหาเวลาเหมาะ ๆ ภาวนารักษากำลังใจให้มั่นคงเสียใหม่

สมัยฝึกหัดอาตมาให้วิธีเข้าส้วม แต่ว่าเข้านานนิดหนึ่ง ก็คือภาวนาจนลมหายใจทรงตัวแล้วค่อยออกมา อย่าทำให้คนอื่นเห็น ไม่อย่างนั้นจะเป็นขี้ปากเขา เมื่อกำลังใจทรงตัวก็อาศัยได้อีกหลายชั่วโมง พอถึงเวลาเลิกงานแล้วมีเวลาก็รีบภาวนา แต่ส่วนใหญ่ตอนเลิกงานก็มักจะเหนื่อยจนหมดสภาพ

ดังนั้น...ถ้าหากว่าทำหน้าที่ของเรา ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำชำระร่างกาย หาอาหารให้กิน ซักผ้า ฯลฯ หมดงานประจำวันแล้ว ถึงเวลาก่อนนอนก็กราบหมอนเสีย ๓ ครั้งแล้วนอนไปเลย เหนื่อยมาทั้งวันจะให้นั่งภาวนาก็ไม่ไหว นอนภาวนาจับลมหายใจแทน ให้คิดว่าร่างกายของเราที่นอนเหยียดยาวลงไปก็เหมือนกับคนตาย ถ้าหากว่าไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกในวันรุ่งขึ้น หรือว่าหมดอายุขัยตายลงไป เราขอไปพระนิพพานที่เดียว

แล้วกำหนดลมหายใจ กำหนดคำภาวนา หรือว่าเกาะภาพพระของเราไว้ให้หลับไป พยายามหมุนเวียนทำอย่างนี้ไปทุกวัน กำลังใจของเราจะมั่นคง มีกำลังในการสู้กิเลส มีกำลังในการทวนกระแสโลก ท้ายที่สุดก็สามารถตัดและข้ามกระแสไปได้ เข้าสู่พระนิพพานตามที่พวกเราหวัง



ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-10-2018 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว