กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 14-11-2019, 09:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เป็นมีดใช้งานจริงหรือครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วคนโบราณเอาเป็นมีดใช้งานจริง ๆ เขาทำไว้ใช้งาน เพียงแต่ครูบาอาจารย์ช่วยเสกช่วยลงให้ มีดรุ่นเก่า ๆ อย่างของหลวงพ่อเดิม จนกระทั่งมาถึงรุ่นหลวงพ่อกวย ถึงเวลาท่านบรรจุเอง บรรจุด้าม ใส่ตะกรุด ใส่ผงวิเศษ ใส่เกศา ของหลวงพ่อกวยนี่ขนาดรุ่นที่สั่งทางพยุหะคีรีทำให้ ท่านก็ยังขอบรรจุด้ามเอง

ข้างบนห้องของอาตมามีมีดหมอของหลวงพ่อกวยอยู่ ๒ เล่ม ฝีมือลุงคลี่ เจ้าของเขากำชับนักกำชับหนา "เล่มนี้ตาคลี่ทำไว้จะใช้เองนะ อาจารย์อย่าไปปล่อยให้ใคร" ก็ถ้าไม่จำเป็นนะ..! เดี๋ยวหลังเพลค่อยเอาลงมา เพราะว่าช่วงนี้หาเงินสร้างจุฬามณีให้หลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์อยู่ ทำด้ามรู้สึกว่าจะเป็นท้าวเวสสุวรรณ ปิดทองมาด้วย แต่ว่าฝีมือลุงคลี่จำง่าย ฝีมือลุงทรงนี่มือหนัก ตอกแต่ละทีนี่แทบจะทะลุไปอีกฝั่งหนึ่ง นั่นช่วยให้จำง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 14-11-2019, 09:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ฝีมือช่างแต่ละคนเหมือนกับลายมือประจำตัว ถ้าเรารู้จักฝีมือก็จะจำง่าย ถ้าไม่รู้จักก็จำยาก มีดหมอหลวงพ่อเดิมที่ปลอมส่วนใหญ่ช่างที่ปลอมจะดูของไม่เป็น ถ้าหากว่าดูของเป็นจะปลอมได้เนียนกว่านี้ อย่างของโยมที่ได้ไป ให้ดูร่องยาวใกล้สันมีด ถึงเวลาเขาจะใช้เหล็กเป็นสิ่วมาแซะ คราวนี้พอแซะจวนจะสุดปลาย ก็ต้องเบามือเพื่อจะให้สุดปลาย ช่วงนั้นจะเรียวและเหินขึ้นทุกเล่ม ถ้าดูเป็นทีเดียวแล้วต่อไปก็ง่าย รุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ใช้ตอกลายเอา...มักง่าย ร่องหัวท้ายจะหนักเท่ากัน

ก่อนหน้านี้หลวงพี่ประทีปยังอยู่ที่วัดท่าซุงด้วยกัน งัดมีดหมอของหลวงพ่อเดิมขึ้นมาเล่มหนึ่ง...โอ้โฮ ถามว่า "เท่าไร ?" ตอนแรกพี่ท่านบอกว่า "ใบ ๙ นิ้ว" ถามว่า "๙ นิ้วทำไมใหญ่ขนาดนี้ ? ขอวัดหน่อย" ปรากฏว่า ๑๑ นิ้วเฉพาะใบ แล้วถามว่า "ไม่มีฝักหรือ ?" ท่านบอกว่า "ไม่มี..ได้มาเปลือย ๆ แบบนี้แหละ แต่ด้ามเป็นงา" หลวงพี่ทีปท่านเป็นคนแถวนั้น พวกนครสวรรค์ คนพิจิตร ส่วนใหญ่รุ่นเก่า ๆ เขาจะมีของหลวงพ่อเดิมกันแทบทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2019 เมื่อ 14:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 15-11-2019, 09:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนหลวงพี่ทีปมรณภาพ อาตมาเองก็ไม่ได้ไปขอแบ่งสมบัติสงฆ์ ถ้าไปขอแบ่งจะขอมีดหมอหลวงพ่อเดิมเล่มนี้เล่มเดียว จะชำระหนี้สงฆ์ให้ด้วย ไม่ได้ขอเฉย ๆ

ส่วนใหญ่เวลาพระมรณภาพ เขาจะจัดการแบ่งปันกันในหมู่คณะสงฆ์ มีข้าวของกี่ชิ้น ถ้าพอกับจำนวนพระเณรก็แบ่งไปคนละชิ้น ถ้าไม่พอก็จับสลาก พูดง่าย ๆ ก็คือแบ่งกันฟรี ๆ แต่ถ้าเป็นมีดหมอเล่มนี้แล้วละก็...อาตมายินดีจ่ายเงินให้เลย แต่ว่าไม่ได้ไปร่วมวงกับเขา ก็เลยไม่รู้ว่าไปตกอยู่กับใคร นั่นก็ฝีมือของช่างฉิมเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 10:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 15-11-2019, 09:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าสงฆ์มรณภาพ สมบัติก็จะกลับคืนเป็นของสงฆ์ แต่ถ้ามีหลักฐานว่าเป็นส่วนตัวหรือไม่ส่วนตัวอยู่ละครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นส่วนตัว ท่านต้องมอบให้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ

ถาม : ถ้าส่วนตัว แต่ไม่ได้มอบให้ก่อนมรณภาพ ?
ตอบ : เสร็จหมด ลงกองกลางหมด

ถาม : ถ้าลงกองกลาง อันนี้สงฆ์ก็รับผิดชอบดูแลต่อ ก็คือเป็นของสงฆ์ ?
ตอบ : เป็นของสงฆ์ คือเราเอามาก็เป็นของส่วนตัวไม่ได้ เพราะเราได้มาขณะที่เราเป็นสงฆ์ เป็นเรื่องอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก

ถาม : แสดงว่าตรงนี้ไม่มีเป็นของส่วนตัวเลย ?
ตอบ : ไม่มี...เหลืออยู่อย่างเดียวก็คือ ถ้าจะให้ใครต้องให้ก่อนที่จะตาย แต่พระวินัยท่านก็ระบุเอาไว้ว่า ถ้าเป็นครุภัณฑ์ให้ไม่ได้ ครุภัณฑ์ตามพระไตรปิฎกระบุเอาไว้ก็มี อย่างเช่น พระพุทธรูป มีเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง...ฟังแล้วตลก คือเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง ใช้คำว่า ครุ คือ ของหนัก ไม่ได้ เพราะว่าเครื่องมือช่างบางทีก็เบา แต่ท่านจัดเป็นครุภัณฑ์ เพราะว่าเป็นของหายาก ถ้าหากว่าตัวเองไม่มี ก็ต้องไปรบกวนโยมเขา ก็เลยระบุเอาไว้ว่า ของที่เป็นครุภัณฑ์นี่ห้ามให้ต่อ เพราะฉะนั้น..พวกเงินทองไม่ใช่ครุภัณฑ์ ใครอยากได้ก็เอาไปเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 15-11-2019, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มหัคฆภัณฑ์ ละครับ ?
ตอบ : มหัคฆภัณฑ์ หมายถึงพวกที่ใหญ่มาก ๆ อย่างเช่น โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ฯลฯ มหา-อัคคะ สุดยอดของความใหญ่ เพราะฉะนั้น..ของเกินครุภัณฑ์ ไม่มีใครแบกไปไหวหรอก

อย่างเมื่อวานนี้ไป ท่านอาจารย์เอกลักษณ์สร้างศาลาหนึ่งไร่ นับเป็นมหัคฆภัณฑ์ แบกไหวที่ไหนเล่า ?

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 15-11-2019, 10:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีเพื่อนแม่คนหนึ่งเขาเพิ่งเสียไป วันนั้นหนูก็นั่งสมาธิไป รู้สึกว่าสมาธิเรายังทรงตัวอยู่ ก็เลยลองอาราธนาพระดูว่าเพื่อนแม่คนนี้ตายแล้วไปไหน ภาพขึ้นมา หนูก็เห็นอย่างหนึ่ง พอไปงานศพเขา ลูกเขาก็เล่าว่าพ่อเขาตายดีมีความสุข ตอนที่เราเห็นภาพก็ไม่ได้คิดไปเอง แต่ทำไมลูกเขาเล่าอีกแบบหนึ่ง หนูก็เลยสงสัยว่ามีข้อสังเกตอย่างไรคะ ?
ตอบ : มโนมยิทธิเขาให้เชื่อความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้น จะไป "เอ๊ะ" ไม่ได้เลย เป็นอย่างไรก็เชื่อตามนั้น แต่บางทีเรื่องของสังคมถ้าเราไปบอกเขาตรง ๆ ลูกหลานเขาจะเสียใจ อาตมาเองโดนหลวงพ่อวัดท่าซุงห้ามบอกว่าคนตายไปไหน รู้เอาไว้ให้อกแตกตายไปคนเดียวก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-11-2019 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 15-11-2019, 10:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นั่งสมาธิไป เวลาภาวนาไป หลวงพ่อบอกว่าให้นั่งจนสมาธิเต็มที่แล้วค่อยมาพิจารณา แต่ทีนี้เวลานั่งไปก็เหมือนจิตแยกไปดูว่ามันก็ไม่เที่ยง พร้อม ๆ กับภาวนาได้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ได้...แต่ว่าต้องมีความคล่องตัวพอ ไม่อย่างนั้นแล้วช่วงนั้นอาจจะเฝือ ก็คือพอสมาธิเคลื่อนแล้วบางทีไปคนละทิศคนละทาง ฟุ้งซ่านไปเลยก็มี ต้องระวังให้ดี

ถาม : เราจะมีวิธีการประคับประคองไม่ให้เฝือได้อย่างไรคะ ?
ตอบ : เอาอานาปานสติคือลมหายใจเป็นหลักไปสักระยะหนึ่งก่อน ๕ นาที ๑๐ นาทีก็ยังดี พอกำลังใจมั่นคงแล้วค่อยไปคิด ถ้าไม่มีลมหายใจค้ำไว้แล้วเดี๋ยวไปเลย เพราะว่าบางทีเราเองพอถึงเวลาสมาธิเริ่มทรงตัว อยากจะคิดอยากจะพิจารณาแทน แล้วเราก็ปล่อยกำลังใจไปคิดไปพิจารณา ลืมไปว่ากำลังสมาธิค่อย ๆ ลดลง พอกำลังค่อย ๆ ลดลงเมื่อเราเผลอก็ฟุ้งซ่านไปเลย

ถาม : บางครั้งเรากำลังสร้างกำลัง แต่เราก็อยากจะคิด อย่างนี้คือเราฝืนไปก่อน ?
ตอบ : ก็คิดได้ แต่ว่าให้ตั้งสติไว้ ถ้ารู้สึกว่าเริ่มไปไม่ดี ไม่มีความคล่องตัว รู้ว่ากำลังเราตก ก็กลับมาหาลมหายใจใหม่ แล้วค่อยไปคิดอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-11-2019 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 15-11-2019, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้ว่ามันคืออาทิสสมานกาย แต่เวลาภาวนาไป บางทีมันก็ใช่เรา บางทีมันก็ไม่ใช่เรา บางทีมันก็ด่าเรา มันคือใครคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่ากิเลสมาร มีอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือถ้าเป็นฝ่ายดีมา ก็อาจจะเป็นครูบาอาจารย์ที่ท่านมาช่วยสงเคราะห์เรา ถ้าฝ่ายไม่ดีมาก็คือกิเลสตั้งใจที่จะมาแกล้ง มาหลอกเรา

เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก ถึงเวลาเราก็ทำตามแบบของเราไป อะไรที่พิจารณาแล้วว่าไม่ทำให้การปฏิบัติของเราเสียหาย จะน้อมใจตามไปบ้างก็ได้ แต่ขณะเดียวกันถ้ารู้ตัวเมื่อไร ให้กลับมาอยู่กับลมหายใจของเราจะปลอดภัยกว่า


ถาม : ไม่ต้องไปสนใจ ?
ตอบ : ยิ่งรู้เห็นชัดเจนโอกาสโดนหลอกยิ่งเยอะ ต้องระวังตัวให้มาก ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 10:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 15-11-2019, 10:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในสติปัฏฐาน ๔ เรามองอย่างไรว่านั่นคือจิตตานุปัสสนาคะ ?
ตอบ : สภาพความยินดียินร้ายอะไรเกี่ยวกับสภาพจิตของเราทั้งหมด ถ้าหากว่าเรารู้เท่าทันจึงจะเป็นจิตตานุปัสสนาในมหาสติปัฏฐาน แต่ถ้ารู้อยู่แล้วไปแบกเอาไว้เวลารู้สึกว่าทุกข์ หรือว่ารู้อยู่แล้วไปยินดีอย่างเต็มที่เลยเวลาที่มีความสุข อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นจิตตานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน ต้องรู้เท่าทันแล้ววางได้ เห็นว่าธรรมดาเป็นอย่างนั้น

ถาม : ในเรื่องเวทนา เขาสอนมาว่าชอบกับไม่ชอบ สุขและทุกข์ แบบกลาง ๆ แล้วธรรมารมณ์ละคะ ?
ตอบ : ธรรมารมณ์ก็คือสภาพของจิตที่เป็นไป อย่างเช่นว่า ยินดีกับรูปสวย เสียงไพเราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ หรือว่าไม่ยินดี หรือว่าเป็นกลาง ๆ หรือไม่ก็สภาพจิตของเราเป็นอย่างไร กำลังพินิจแยกแยะอยู่ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนเหมาะ สิ่งไหนควรกับเรา สิ่งไหนไม่ดี ไม่เหมาะ ไม่ควรอะไรกับเรา อันนั้นก็คืออารมณ์ธรรมที่เกิดขึ้นในใจ

เพียงแต่ว่าเรื่องพวกนี้บางทีเราศึกษาไปแล้วเหนื่อย พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้แล้วว่า ๑ บรรพ คือ ๑ ตอน ก็สามารถที่จะเข้าถึงมรรคถึงผลได้แล้ว ไม่ต้องไปศึกษาทั้งหมดหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 13:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 15-11-2019, 10:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราเกิดรู้สึกว่าพระอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านสอนไม่ได้ตรงกับที่พระพุทธเจ้าท่านบอก แต่เราไปเป็นเจ้าภาพเลี้ยงภัตตาหารท่านมาด้วยตั้งนาน ทีนี้ว่าเกิดอยากจะถอนตัว แต่ไปเห็นใจเจ้าของสถานที่ เราจะเป็นบาปไหมคะ ? ที่เราเหมือนไปช่วยเป็นฟันเฟืองให้ท่านสอนผิดเล็ก ๆ ค่ะ ?
ตอบ : อย่าไปคิดอย่างนั้นสิ....เราคิดว่าพระพุทธเจ้าสอนให้เราให้ทาน เป็นการสละออกเพื่อตัดความโลภในใจ ส่วนผู้รับจะเป็นใคร ทำอะไร เราไม่เกี่ยวกับเขาเลย ตัดขั้นตอนนี้ได้ก็ทำไป ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าไปสร้างบาปให้กับตัวเอง เพราะว่าใจเราไปคิดอยู่แล้ว ใจก็จะไปเศร้าหมอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 13:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 15-11-2019, 10:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พ่อบุญธรรมเขาให้พระมาค่ะ ?
ตอบ : ก็เก็บเอาไว้สิ ถึงเวลาแค่มีหลวงพ่อวัดระฆังก็ใช้ได้แล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมาก หลวงพ่อวัดระฆังองค์หนึ่ง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคองค์หนึ่ง ท่านให้พรไว้ว่า "พระของท่านจะใหม่ จะเก่า จะจริง จะปลอม ให้นึกถึงท่านมีอานุภาพเหมือนกันหมด" ต้องพระโพธิสัตว์สายเก่ามาแท้ ๆ เลยนะ ถึงมีกำลังสามารถสงเคราะห์ขนาดนั้นได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 13:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 15-11-2019, 17:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ไปเมืองจีน ๑๐ วัน แต่ละวันเดินไกล ๆ ทั้งนั้น แต่อาตมาน้ำหนักขึ้นมา ๒ กิโลกรัม เพราะว่ากินกระจายทุกอย่าง บอกกับญาติโยมว่า ถ้าคิดว่าตามหลวงพ่อไปเที่ยวนั้นคิดผิด แต่ถ้าตามไปเพื่อฝึกหัด กาย วาจา ใจ ของตนเองนั้นใช่ แล้วต้องพยายามทำให้ได้

ญาติโยมกินอาหารของเขาไม่ได้ เพราะว่าขาดอาหาเรปฏิกูลสัญญา จะเอาแต่ของที่ตัวเองชอบไม่ได้หรอก อยู่ที่ไหนต้องกินของเขาได้ พูดง่าย ๆ ว่าถ้าเขากินได้เราต้องกินได้

เพราะฉะนั้น..คณะที่ไปก็เลยแบ่งเป็น ๒ ชุด เขาเรียกว่าสายแข็งกับสายอ่อน ชุดสายอ่อนก็จะมี ๙ คน ชุดสายแข็งมี ๖ คน แบ่งเป็น ๒ โต๊ะ สายแข็งนี่กินไม่เหลือซากเลย ส่วน ๙ คนนี่เหลือเกือบเต็มโต๊ะ ถ้าเราขาดอาหาเรปฏิกูลสัญญา ก็จะกินเพื่อเอาอร่อย กินเพราะว่าชอบ ก็จะทำให้เสียผลการปฏิบัติ

ส่วนอีกอย่างหนึ่งที่ต้องไปฝึกแน่ ๆ ก็คืออสุภกรรมฐาน ส้วมเมืองจีนนี่สุดยอดทุกแห่ง มีน้ำก็ไม่ราด อาตมาเข้าที่ไหนก็ต้องไปทำความสะอาดส้วมให้เขา เพราะถ้าไม่อย่างนั้นพวกข้างหลังเข้าต่อไม่ได้ ถ้าเข้าต่อไม่ได้แสดงว่าขาดอสุภกรรมฐาน ไม่เห็นความเป็นธรรมดา

พอถึงเวลาไปที่ลำบาก เพราะว่าพื้นที่เขาสูง ๔-๕ กิโลเมตรขึ้นไป อากาศจาง หายใจลำบาก แทนที่จะนึกถึงพระ แทนที่จะนึกถึงความตาย ไม่ได้นึกเลย ห่วงอยู่แต่ร่างกายว่าจะตายแล้ว อย่างนั้นถ้าตายก็ไม่แน่ว่าจะไปไหน เพราะว่าจิตสุดท้ายแค่แวบเดียวเท่านั้น ถ้าเกาะผิดนี่ก็เฮงเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-11-2019 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 15-11-2019, 18:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไปเพื่อไปฝึกหัดตัวเอง ไม่ใช่ไปเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่อันตราย ถ้าพลาดก็ถึงตาย ก่อนอาตมาไปอาทิตย์หนึ่ง บริษัทนี้มีลูกค้าสมองบวมไปหนึ่งคน เสียค่าส่งกลับไป ๗,๐๐๐ หยวน เพราะว่าไม่ได้ดูสภาพร่างกายตัวเอง ไม่ไหวแล้วก็ยังฝืนไป สภาพแบบนั้นไม่ไหวแล้วต้องหยุด อาตมาเองขนาดว่าฝึกจนแกร่งแล้ว ระยะท้าย ๆ แค่เดิน ๓ ก้าว ๕ ก้าว ยังต้องพัก เพราะว่าหายใจไม่ทัน

พื้นที่สูง ๔,๗๐๐ กว่าเมตร ยิ่งเดินขึ้นไปก็ยิ่งเหนื่อย ที่เขาเขียนเอาไว้ว่าระยะทาง ๖ กิโลเมตรนั้นเชื่อไม่ได้ เพราะว่าโยมที่ไปติด Gadget ไปด้วย ปรากฏว่าระยะทางออกมา ๑๐ กว่ากิโลเมตร เขาขีดด้วยดาวเทียมตรง ๆ ก็ได้ ๖ กิโลเมตร คราวนี้เราไปขึ้น ๆ ลง ๆ กว่าจะถึงก็ตก ๑๐ กว่ากิโลเมตร

อากาศหนาวระดับติดลบ ลมแรงชนิดพัดคนแทบปลิว แต่อากาศมีไม่พอหายใจ ร่างกายของเราพอคาร์บอนไดออกไซด์มีมาก ก็จะปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว เพราะฉะนั้น..ไปพื้นที่แบบนั้นต้องระวังเป็นอย่างมาก หัวหน้าทัวร์เขาก็ดี เขาจับวัดออกซิเจนทุกคน แต่วัดอาตมาไม่ทัน เพราะว่าเดินนำหน้าไปลิบจนมองกันไม่เห็นเลย

เห็นญาติโยมโดยเฉพาะคนจีนบางคน เดินขึ้นเนินแรกก็เปิดกระป๋องออกซิเจนแล้ว อีก ๑๐ กว่ากิโลเมตรที่เหลือนี่จะรอดไหม ? ขาไปนั่นเป็นช่วงขึ้นเขา อาตมาใช้เวลา ๒ ชั่วโมง ระยะทางประมาณ ๑๐ กิโลเมตรเศษ ๆ ขากลับแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ไม่ได้ใช้ออกซิเจนเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 15-11-2019, 19:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จากบ้านเราความร้อน ๓๓ - ๓๔ องศาเซลเซียส ไปถึงเฉิงตูวันที่ ๑๖ ลดเหลือ ๑๗ องศาเซลเซียส พอรุ่งเช้าวันที่ ๑๗ ที่เฉิงตูเหลือ ๑๑ องศาเซลเซียส

เช้าวันที่ ๑๗ เขานัดสายนิดหนึ่งเพราะว่าเราไปถึงดึก ไปถึงประมาณเที่ยงคืนครึ่งของเขา ปกติเขาจะออกเดินทางประมาณ ๗ โมงครึ่ง ก็เลยเลื่อนให้นอนเพิ่มอีกชั่วโมงหนึ่ง ออกเดินทาง ๘ โมงครึ่ง เป็นรถมินิบัส คณะของเรา ๑๕ คน เขามีให้ ๒๐ ที่นั่ง มีที่เหลือให้วางของอะไรได้ด้วย

วิ่งไปทางเมืองเฮยสุ่ย อยู่ในเขตปกครองตนเองชาวเชียงชาวทิเบต มณฑลเสฉวน เป้าหมายคืออุทยานแห่งชาติซื่อกู่เหนียงซาน บางคนก็เรียกว่าอุทยาน ๔ ดรุณี ซื่อกูเหนียงก็คือผู้หญิง ๔ คน ไม่รู้ว่าบนรถเขามีฮีตเตอร์ รู้สึกว่าอากาศสบาย ๆ พอไปถึงที่อุทยานอากาศ -๔ องศาเซลเซียส หิมะเพิ่งจะตก หลายคนลงไปมือสั่น ขาสั่น หน้าสั่น ปากสั่น แล้วก็ความสูงค่อนข้างจะสูงมาก ก็เลยทำให้เวลาเดินอากาศไม่ค่อยจะพอหายใจ

มีอาตมากับน้องเล็ก ๒ คนที่ลงทุนเดินจนรอบอุทยาน คนอื่นเขาไม่ไป แค่ไปนั่งปั้นหิมะเล่นกัน การปฏิบัติกรรมฐานทำให้เรามีระบบหายใจที่ยาว แล้วก็ลึกกว่าคนอื่นทั่วไป เดินแล้วเหนื่อยช้าหน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-11-2019 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 15-11-2019, 19:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อุทยานนั้นห่างจากเฉิงตู ๒๐๐ กว่ากิโลเมตร เราจะผ่านจุดสูงสุดตรงช่องเขาเสี้ยวจิน ตรงนั้นสูงตั้ง ๖,๐๐๐ กว่าเมตร วิ่งไปพักไป โดยเฉพาะส่วนที่มีปัญหาคือเรื่องห้องน้ำ อย่างที่บอกว่าพวกเราขาดการปฏิบัติในอสุภกรรมฐาน เจอห้องน้ำส่วนใหญ่ก็สะดุ้ง เข้าไม่ได้ คุณบีที่ไปเป็นช่างภาพประจำคณะเขาบอกว่า "อ่อนแอเกินไป" ถ้าอ่อนแอเกินไปจะเข้าห้องน้ำที่เมืองจีนไม่ได้

ต้องพักกลางทางกันเป็นระยะ ๆ แต่ว่าประเทศจีนจะมีป้ายบอกไปตลอดว่าที่จอดพักอยู่ห่างอีกเท่าไร จะได้กะระยะกันถูก ส่วนใหญ่ค่าเข้าห้องน้ำคนละ ๑ หยวน ประมาณ ๕ บาทไทย ถ้าหากว่าใครไปเมืองจีน ให้แลกใบละ ๑ หยวนไว้เยอะ ๆ ไม่อย่างนั้นก็ต้องเอาอย่างคณะของเรา ก็คือหยิบออกมา ๕ หรือ ๑๐ หยวน แล้วก็นับไปเลยกี่คน จากนั้นก็จ่ายเงินให้เขาไป

พวกเรามีความสามารถพิเศษก็คือ เขาจอดให้เข้าห้องน้ำ ๑๕ นาที แต่ส่วนใหญ่มีเวลาเหลือพอช็อปปิ้งกันทุกคน เก่งจริง ๆ...! แล้วอีตา Eric ไกด์ชาวจีน เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่สอนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวด้วย พูดภาษาอังกฤษบางประโยคฟังยาก อย่างคำว่า “Fifteen minutes” ก็จะฟังเป็น “Fifty minutes” จะหยุดทำไมนานขนาดนี้วะ ? พอทักท้วงเข้าตอนหลัง เขาเลยใช้คำว่า “One Five minutes”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 19:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 15-11-2019, 19:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เราได้ยินจะไม่ใช่ Fifteen จะเป็น Fifty เรื่อยไป ที่ต่างชาติเขาออกเสียง “ตีน” นั่นใช่เลย แต่เราเองออกเสียงเป็น “ทีน” ประเภทออกเสียงไม่เหมือนเขา

อาตมาลงไปก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนเดิม มีแต่คนถ่ายรูป บางทียืนให้พวกเราถ่ายรูป กล้องแค่ ๑ ตัวแต่มีกล้องนักท่องเที่ยวมาแล้ว ๕๐ ตัว บางทีก็เรียก “เหล่าต้าซือ” บ้าง “เหล่าซือฟู่” บ้าง เออ...เหล่าก็เหล่า แก่แล้วเหมือนกัน เขามาขอถ่ายรูปด้วย

คราวนี้จากซื่อกู่เหนียงซาน เวลาขาลงของเราจะมีแม่น้ำน้ำมนต์ ทะเลสาบกระจก จะสะท้อนเงาภูเขาท้องฟ้าลงไปเหมือนอย่างกับเราดูด้วยสายตา ตรงนั้นเขาชอบไปถ่ายรูปกัน เขาบอกว่าเสิ่นเจิ้นก๊อปฯ ทุกเรื่อง แม้กระทั่งบรรยากาศตรงนี้เหมือนสวิตเซอร์แลนด์ก็ก๊อปปี้มา ไปโทษอะไรกับเสิ่นเจิ้นวะ ?

แล้วก็มีสถานที่ให้ดูเป็นระยะ ๆ แต่ว่าต้องดูเวลาด้วย เพราะว่ารถคันสุดท้ายที่ออกจากอุทยานเขามีเวลาแน่นอน ถ้าพลาดคุณก็หาทางเอาตัวรอดกันเองในอุทยานนั่นแหละ เพราะว่าจะไม่เหลือใคร ถ้าจะให้ดีที่สุดก็คืออย่าให้เกินบ่ายสาม ต้องรีบออก เนื่องจากว่าพอเราซื้อตั๋วแล้ว รถทุกคันขึ้นได้หมด จะขาเข้าขาออกอย่างไรก็ตาม เต็มคันเขาก็ออก ไม่ต้องรอใคร

เขาจะแวะให้ทุกที่ แม้กระทั่งลงไปก่อเจดีย์ก็ยังทำกัน คือเอาหินมาตั้งเรียง ๆ กันให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ เป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง อาตมาเองก็ประชดชีวิต เอาหินแผ่นบาง ๆ ที่เป็นแบบหินชนวนบ้านเราไปตั้ง เออ...ก็ตั้งได้เหมือนกันนี่หว่า..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 15-11-2019, 19:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วันแรกออกจากอุทยานซื่อกูเหนียงซานมาก็เกือบค่ำ มาพักอยู่แถว ๆ หมู่บ้านชิงเทียน หนาวเสียจนมือไม้ชาหมด อาตมาได้เปรียบเพราะว่าก่อนไปมีญาติโยมบางท่านที่รู้เรื่องเหล่านี้ ถวายสังฆทานให้เจ้าที่ล่วงหน้า อาตมาเจอเจ้าที่ก็เลยขอใช้บริการพิเศษด้วย จึงไม่ค่อยจะหนาวเหมือนกับคนอื่น

คราวนี้ทางการจีนเขาจะให้พักอยู่นอกเขตอุทยาน อาคารทุกหลังน่าจะเป็นรัฐบาลลงทุนสร้าง หน้าตาเหมือนกันหมด แปลนเดียวกันหมด แล้วก็ให้บรรดาชาวทิเบตชาวพื้นเมืองไปเช่าเพื่อทำกิจการ เปิดร้านอาหารบ้าง เปิดโรงแรมบ้าง เปิดร้านขายของที่ระลึกบ้าง ฯลฯ รัฐบาลที่สร้างก็เอาใจคนทิเบตมาก เพราะว่าตึกทุกหลัง โดยเฉพาะประตูหน้าต่างจะเป็นลายอัษฎมงคล ก็คือความเป็นมงคล ๘ ประการของเขา ซึ่งจะมีฉัตร มีธรรมจักร มีหอยสังข์ มีดอกบัว มีเงื่อนไร้ที่สุด มีหม้อน้ำมนต์ เป็นต้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 15-11-2019, 20:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เนื่องจากคณะคุณตั้วที่ไปนั้น เป้าหมายของเขาก็คือไปถ่ายรูป เขาก็เลยเลือกไปปลายฝนต้นหนาว เพราะว่าใบไม้กำลังเปลี่ยนสี แต่ปีนี้เมืองจีนหนาวเร็ว ในเมื่อเมืองจีนหนาวเร็วก็เลยทำให้ในบางแห่งใบไม้ไม่ได้เปลี่ยนสีอย่างเดียว แต่ร่วงหมดแล้ว เหลือแต่กิ่งก้านเท่านั้น

ไปพักที่โรงแรมก็ต้องบอกว่าโรงแรมเขาอยู่ในระดับดีใช้ได้ทีเดียว เพียงแต่ว่าเราอย่าไปตั้งความหวังไว้สูง แต่ว่า ๒ วันหลังนี่ดีมาก เพราะว่าเขาพาไปพักระดับ ๔ ดาว ๕ ดาวเลย ก็เลยสงสัยว่าเขาจะได้กำไรมากหรืออย่างไร เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าค่อนข้างจะน่ากลัว

อาหารเช้าในโรงแรมเป็นข้าวต้มกับหมั่นโถว กินกันไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ข้าวต้มส่วนใหญ่ก็ใส่ลูกเดือยบ้าง ใส่ถั่วแดงบ้าง เป็นข้าวฟ่างต้มบ้าง พวกเราไปส่วนใหญ่กินกันไม่ได้ ส่วนพระอาจารย์ซดไป ๓-๔ ถ้วยเป็นอย่างน้อย

กับข้าวของเขาก็ผัดผักกาดขาว ผัดถั่วงอกเป็นหลัก จะมีไข่ต้มให้มื้อเช้าละ ๑ ฟอง ไข่ต้มเฉย ๆ ไม่มีอะไรเลย แล้วรู้สึกจะเป็นคนข้างนอกเข้ามาขายด้วยนะ จะต้มไข่เข้ามา คุณต้องแสดงบัตรที่พักของตัวเองก่อน แล้วเขาก็จะให้ไข่ต้ม ๑ ฟอง แต่คราวนี้เสฉวนเป็นเขตที่มีคนไทยโบราณอยู่กันเยอะ กินเผ็ดกันมาก กับข้าวมาแต่ละจานนี่พริกท่วมมาเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 15-11-2019, 20:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วันแรกที่เมืองจีนอาตมาก็ท้องเสียเลย เพราะว่าอาหารทั้งเผ็ดทั้งมัน เขาใส่พริกมาก...ประเภทหมูผัดพริกกลายเป็นพริกผัดหมู แดงโร่หมดทั้งถ้วยเลย..! คาดว่าเป็นเพราะบ้านเขาหนาวมาก ต้องกินของเผ็ด ๆ เข้าไปช่วย ขนาดเต้าหู้อ่อนยังใส่พริกจนแดงไปทั้งถ้วย

คนไทยเราไม่ค่อยกลัวพริกหรอก ไปกลัวพวกหมาล่าหรือฮวาเจียว เพราะว่าพวกนั้นเวลาโดนเข้าไปแล้วชาทั้งปาก พอเคี้ยวโดนทีก็...เวรแล้วกู เนื่องจากว่าอาตมาเคยกินพริกกะเหรี่ยงมาแล้วก็พอสู้ไหว แต่ว่าวันแรกก็ท้องเสียเลย วิ่งส้วมเสีย ๒ รอบ ๓ รอบ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-11-2019 เมื่อ 08:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 15-11-2019, 20:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ประเทศจีนกำลังเร่งพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยเฉพาะพวกถนนหนทาง ทำให้เวลาดูจากแผนที่แล้ว มีหลายเส้นทางที่เราไปแต่ยังไม่ปรากฏในแผนที่ อย่างอุโมงค์ที่เราวิ่งเข้าไปกัน ลัดทางจากเมืองซินตูเฉียวไปเมืองเฉิงตูได้ ๓ ชั่วโมงกว่า แต่เข้าอุโมงค์ไปกันเป็นร้อย ๆ กิโลเมตร เข้าไปจนอยากจะหลับ เขาก็ต้องมีไฟประดับสีโน้นสีนี้ ถามว่าติดไปทำไม ? ไกด์บอกว่าเพื่อให้คนขับได้เห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้าง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็หลับ

น่ากลัวตรงที่ว่าจีนเขาทำอะไรทำทีเดียว ของเราเจาะอุโมงค์เป็นร้อย ๆ กิโลเมตรเส้นเดียวก็ไม่ไหวแล้ว เขาเจาะทั้งไปทั้งกลับเลย เสร็จแล้วหัวท้ายเขาไปตั้งโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ หินที่เจาะได้ก็คือเอาไปทำปูนซีเมนต์ แล้วก็กลับมาใช้ในงานก่อสร้างใหม่ ทำได้รอบคอบมาก บางทีวิ่งไป ๑๒-๑๓ กิโลเมตรโผล่ออกมาเห็นท้องฟ้า เพราะว่าเป็นซอกระหว่างเขา ก็หายเข้าไปในภูเขาอีกแล้ว รวมแล้วเข้าอุโมงค์กันนับครั้งไม่ถ้วน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 20:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว