กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 14-08-2015, 11:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานวันแม่ปีนี้ครูบาเหนือชัยคงมาไม่ได้ ท่านบอกว่าแขนขาเริ่มใช้งานได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องอาศัยไม้เท้าค้ำอยู่ ขอรักษาตัวให้ดีกว่านี้ก่อน ส่วนหลวงป๋าวิวัฒน์เป็นมะเร็งกระดูก นั่งนานไม่ได้ นั่งรถไกล ๆ เดี๋ยวแย่ ก็คงไม่ได้มาแล้ว ๒ รูป

มีใหม่อยู่รูปหนึ่ง ก็คือ ท่านเอกลักษณ์ วัดปากน้ำโจ้โล้ รายนี้เป็นพระหมอดู คาดว่าจะเป็นขวัญใจของญาติโยม เพราะนิยมดูหมอกันเหลือเกิน เห็นท่านตั้งใจทำงาน ก็เลยว่าจะช่วยสนับสนุนท่านหน่อย ท่านอื่น ๆ ก็แล้วแต่ภารกิจ เพราะส่วนใหญ่เป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะตำบล ถึงวันแม่แม้จะไม่มีงานก็ต้องพยายามทำให้มีเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเจ้านายจะหาว่าไม่สนองนโยบาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-08-2015 เมื่อ 15:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 14-08-2015, 11:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทางต้นสังกัดจะให้อาตมาขอผู้ช่วยศาสตราจารย์ปีนี้ บอกไปว่ายังไม่มีอารมณ์ ได้หลายอย่างแล้ว เซ็งโลกมากเลย คนที่ไม่อยากได้ก็ยัดเยียดมาจริง ปีนี้อาตมารับตำแหน่งเจ้าคณะตำบล รับปริญญาเอก แล้วก็กำลังจะสอบพระอุปัชฌาย์ แค่นี้ก็ปวดกบาลพอแล้ว

วันก่อนไปสอบพระอุปัชฌาย์รอบอำเภอ อุตส่าห์อ่านตำราอย่างคร่ำเคร่งอยู่ ๓ วัน ตำราเล่มนั้น ชื่อ จาเหวินปิน นักพรตเต๋าคนสุดท้าย อ่านเสร็จแล้วก็ไปสอบพระอุปัชฌาย์ จะทำอย่างไรได้ คนสอบรู้ดีกว่ากรรมการ ท้ายสุดรองเจ้าคณะอำเภอก็ว่า “นิมนต์กลับเถอะ สอบไปก็เท่านั้นแหละ” ว่าอย่างนั้น รู้มากกว่ากรรมการก็ลำบาก กรรมการเขาเกรงใจ

พระอุปัชฌาย์เขาสอบกัน ๔ รอบ รอบที่ผ่านไปเป็นรอบอำเภอ เดี๋ยวมีรอบของจังหวัด รอบของภาค แล้วก็เข้าส่วนกลาง มีแต่คนยุให้ไปขอพระอุปัชฌาย์วิสามัญ สอบเองเมื่อไรก็ได้ จะไปขอให้เสียชื่อทำไม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2015 เมื่อ 11:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 14-08-2015, 11:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ก่อนที่รับจะยอมจำนนต่อกฎของกรรม เราต้องสู้ ถ้าสู้ไม่ได้ต้องหนีไปที่อื่นก่อนใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ส้นตีนแน่ะ..! จะหนีไปไหนกฎของกรรมก็อยู่กับเรา ต้องบอกว่ามั่วไปเรื่อย เรื่องทุกข์เรื่องกรรมจะหนีไปไหนพ้น เพราะอยู่กับตัวเรา ให้สู้ไปเรื่อย อย่ายอมจำนนแล้วกัน ชาตินี้สู้ไม่ได้ ชาติหน้าก็สู้ต่อ

ถาม : สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตผมหลาย ๆ อย่าง ดูเหมือนจะเป็นกรรมที่บังคับให้ผมเป็นกะเทยครับ ถ้าผมจะหนีกรรมตรงนี้ได้ ต้องอาศัยศีล สมาธิ ปัญญาที่ทรงตัวใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเราไม่เป็นใครจะบังคับให้เป็นได้อย่างไร ? ยังไม่เคยเจอเรื่องบังคับให้เป็นเลย ยกเว้นเข้าคุกไปแล้วโดนนักโทษบังคับให้เป็น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-08-2015 เมื่อ 03:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 14-08-2015, 11:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เจอข้อสอบที่หนักกว่าชาวบ้านเขา อุปสรรคที่หนักกว่าชาวบ้านเขาเป็น ๒ เท่า แสดงว่าบารมียังอ่อนอยู่ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : บารมีมากกว่าเขาอย่างน้อย ๒ เท่า ถ้านักเรียนความรู้ในการเรียนยังไม่ถึง เขาจะออกข้อสอบมาให้ทำไมเล่า ? เด็กจบ ป.๔ จะออกข้อสอบปริญญาตรีให้แล้วจะทำได้ไหม ? ในเมื่อออกมาหนักกว่าคนอื่น แปลว่ากำลังเราต้องมากกว่าคนอื่น ควรที่จะภูมิใจเสียด้วยซ้ำไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2015 เมื่อ 11:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 14-08-2015, 13:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีน้ำผลไม้เป็นน้ำกล่อง เป็นน้ำผลไม้รวม แต่ว่าไม่มีสัปปะรด ฉันได้ไหมครับ ?
ตอบ : เขาอนุโลมให้ก็ฉันไปเถอะ ถ้าไม่ถึงกับขนาดฟาดทีละครึ่งโหล..! ต้องดูโภชเนมัตตัญญุตา (ความรู้จักประมาณในการกิน) ด้วย แต่ว่าปัจจุบันนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวมากเลยก็คือเรื่องของน้ำตาล คนไทยบริโภคน้ำตาลมากกว่าชาวโลกประมาณ ๓ เท่า จนกระทั่งติดหวานกันทั้งประเทศแล้ว เดี๋ยวนี้น้ำพริกก็หวาน แกงส้มก็หวาน ต้มยำก็หวาน ส้มก็บอกชัด ๆ ว่าเปรี้ยว แต่ดันกลายเป็นหวาน ตักใส่ปากอาตมาต้องวางทุกที แล้วก็บรรดาน้ำผลไม้อะไรที่ว่านั่น เขาก็ต้องผสมน้ำตาลทีละมาก ๆ ปรุงแต่งรสให้หวานถูกปากถูกใจเขา แล้วจะไม่ให้เบาหวานจงเจริญได้อย่างไร

ถาม : ถ้าผ่านความร้อนถือว่าผิดวินัยไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเราจะเอาตามพระวินัยทุกอย่าง บางทีก็ไม่ต้องหาอะไรไปถวายพระเลย ที่ท่านไม่ให้ผ่านความร้อนเพราะว่าเกรงว่าจะเสียวิตามินไปหมด ในเมื่อปัจจุบันนี้เขาไม่สนใจวิตามินก็แล้วกันไปเถอะ

ที่น่ากลัวที่สุดก็คือนมเปรี้ยว นมเปรี้ยวเป็นเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลมากที่สุด เพราะต้องการปรุงรสไม่ให้เปรี้ยวมาก ถ้าใครเคยกินนมเปรี้ยวที่ยังไม่แต่งรส จะรู้ว่าเปรี้ยวจนกลืนไม่ลง พระนักเรียนไทยที่ไปเรียนที่อินเดีย เจอนมเปรี้ยวขนานแท้บางทีถ่ายท้องไป ๓ วัน แต่แขกเขากินกันอย่างนั้น เขากินพวกนมเปรี้ยวกันเป็นปกติ นมเปรี้ยวของเขาแค่รีดใส่หม้อดิน เอาผ้าปิดวางไว้มุมห้องนั่นแหละ พอขึ้นฟองฟอดแล้วก็เอามากินกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2015 เมื่อ 17:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 14-08-2015, 14:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่ว่าอุบาสกไม่ควรค้าขาย ๕ อย่าง ค้าอาวุธ ค้าน้ำเมา ปวัตตมังสะถือว่าเป็นการค้าเนื้อสัตว์ ไม่ควรหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ที่ว่าไม่ควรเพราะพระพุทธเจ้าท่านเกรงพวกปากหอยปากปูจะก่อกรรมกันเยอะ ไปนินทาว่า "ไหนเอ็งถือศีลแล้วมาขายของอย่างนี้ ? ไหนบอกว่าเอ็งเป็นพุทธมามกะไม่เบียดเบียนใคร ทำไมไปขายอาวุธ ?" ก็เขาไม่ได้สั่งนี่ว่าให้เอ็งเอาไปยิงกบาลคนอื่น..!

ในเมื่ออาจจะเกิดเรื่องอย่างนี้พระพุทธเจ้าถึงได้ห้ามไว้ เพราะถ้าหากไม่ห้ามไว้ บางท่านเป็นพระโสดาบันแล้วขายอยู่ ก็เท่ากับนินทาพระ ด่าว่าพระอยู่ตลอดเวลา จะสร้างความเดือดร้อนให้เขามากกว่าที่คิด พระองค์ท่านเลยห้ามทำเลยจะได้หมดเรื่อง ขายสุราเรามีหน้าที่ขาย เราไม่ได้ไปบีบปากแล้วกรอกใส่ปากเขาไปนี่หว่า..!


ถาม : คนที่ไปซื้อเนื้อสัตว์ถือว่าไปสนับสนุนมิจฉาวณิชชาหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จะเรียกว่าสนับสนุนก็ได้ แต่ถึงคุณไม่ซื้อเขาก็ขายอยู่ดี ปวัตตมังสะ คนเราขายกันมากี่ชาติแล้วก็ไม่รู้ ต่อให้คุณไม่ซื้อเขาก็ขายกันเต็มตลาด

ถาม : เขาแปลมาว่า มีชีวิตแล้วทำให้ตายเพื่อเอามาขาย ?
ตอบ : คุณไปดูสิ จะมีชีวิตทำให้ตายเอามาขาย หรือว่าตัวเป็น ๆ ไปทำให้ตายทีหลังก็ราคาเดียวกัน ทำให้ชีวิตสัตว์นั้นตกล่วงไป แต่คราวนี้เขาไม่เข้าใจในเรื่องของยถากัมมุตาญาณ ก็คือว่าใครทำก็เป็นกรรมของคนนั้น เพราะฉะนั้น..คนฆ่ารับไปเต็ม ๆ ส่วนคนกินถ้าไม่รู้ว่าเขาทำเพื่อเรา ไม่เห็นว่าเขาทำเพื่อเรา ไม่รังเกียจว่าเขาทำเพื่อเรา พูดง่าย ๆ คือไม่ติดใจ ก็กินไปเถอะ

เพียงแต่ว่าคนที่ไม่รู้จะตำหนิเอาได้ว่า เป็นพุทธมามกะแล้วไปทำลักษณะอย่างนี้ เท่ากับสนับสนุนให้เขาฆ่า คนที่เขาไม่เข้าใจตรงนี้ก็จะพูดแบบคุณ ก็คือว่าไปสนับสนุนให้เขาฆ่า ลองเลิกกินเนื้อทั้งกรุงเทพฯ ดูซิว่าเขาจะขายได้ไหม ? ก็ขายได้อยู่ดี เลิกทั้งประเทศไทยเขาก็ยังขายกันทั่วโลก

เรื่องบางอย่างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พระพุทธเจ้าทรงรู้จริง เพราะเข้าถึงยถากัมมุตาญาณอย่างลึกซึ้ง ท่านเห็นว่าใครทำก็เป็นกรรมของคนนั้น ยกเว้นอย่างเดียวว่า “เจ๊...พรุ่งนี้เอาไก่ ๕ ตัว ช่วยจัดให้ด้วยนะ” ถ้าอย่างนี้เรียบร้อยแน่ อย่างนี้ก็คือเราสนับสนุนเขาให้ฆ่าแน่ ๆ


ถาม : จะเข้าข่ายกตัตตากรรม ?
ตอบ : ไม่ใช่...กตัตตากรรมก็คือสิ่งที่เราทำไปด้วยการขาดเจตนา อย่างเช่นว่า เด็ก ๆ ยังไม่รู้ภาษา แม่บอกว่าไหว้พระนะลูก ก็ยกมือขึ้นไหว้ ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าพระคืออะไร อันนั้นเรียกกตัตตากรรม

ถาม : เจตนาเป็นตัวกรรม ?
ตอบ : เจตนาเป็นตัวกรรม แต่กตัตตากรรมถึงไม่มีเจตนาการกระทำก็เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ว่าผลของการกระทำตัวนี้ผลเกิดน้อยมาก กรรมทุกหมวดทุกประเภทถ้าไม่ให้ผล กตัตตากรรมจึงจะให้ผล ในเมื่อไม่ได้เจตนาทำ เขาก็ไม่ได้เจตนาที่จะสนอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2015 เมื่อ 17:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 14-08-2015, 14:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในกายคตาสติ เช่น นิมิตผม ปฏิภาคนิมิตเขาเป็นอย่างไร ?
ตอบ : อาตมาทำไม่ถึง แต่คาดว่าคงจะลักษณะเดียวกันก็คือ พอเป็นปฏิภาคนิมิตที่ติดตาก็คงจะเห็นเหมือนของจริงเลย เพียงแต่ว่าเป็นของจริงที่นิ่งอยู่ ไม่ได้เคลื่อนไหวเท่านั้น

ถาม : ที่เขาบอกว่า ถึงกายคตาสติย่อมได้อภิญญาด้วย ?
ตอบ : ความจริงคำว่า "อภิญญา" อาตมาอยากจะตีความว่าเป็นการได้มรรคได้ผล อภิคือยิ่งกว่า อัญญาคือความรู้ ไม่มีอะไรรู้เกินกว่าการเข้าถึงมรรคผล

ดังนั้น..การที่เราจะได้มรรคได้ผล เป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป อาตมาถือว่ายิ่งกว่าอภิญญาเสียอีก ในเมื่อท่านว่าถึงกายคตาสติ ซึ่งท่านหมายเอาพระอนาคามีกับพระอรหันต์ คิดว่าใช้คำว่าอภิญญาเป็นเรื่องที่น้อยไปเสียด้วยซ้ำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2015 เมื่อ 17:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 14-08-2015, 14:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในการเข้าสมาบัติ ถ้าได้ปฐมฌานก็ได้ยินเสียง ?
ตอบ : ถ้าจิตละเอียดจริง ๆ แม้กระทั้งฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ก็ได้ยิน เพียงแต่ว่าจิตที่ละเอียดถึงระดับนั้นแล้ว ก็อยู่ที่ว่าจะสนใจไหม ? ถ้าไม่สนใจก็นิ่งอยู่ข้างใน แต่ถ้าเป็นอย่างหยาบจะไม่รับรู้อาการภายนอกเลย

ฌาน ๔ มีหยาบกับละเอียด ถ้าอย่างหยาบจะไม่รับรู้อาการภายนอก แต่ถ้าละเอียดจริง ๆ สามารถรับรู้ได้ แบบเดียวกับที่บอกว่าถึงเวลาแล้วไม่มีลมหายใจ ถ้าสภาพจิตละเอียดจริง ๆ จะมีลมละเอียดอยู่นิดหนึ่ง ต้องบอกว่าบางอย่างกับใยแมงมุม แต่ด้วยความที่สภาพจิตละเอียด และลมละเอียดที่บางอย่างกับเส้นของใยแมงมุม ก็เลยรู้สึกว่าใหญ่เหมือนกับต้นเสา ทำให้สามารถเกาะได้แน่วแน่และมั่นคง

เรื่องพวกนี้บางทีเป็นสมาธิในการฝึก หรือว่าเป็นสมาธิในการใช้งาน สมาธิในการใช้งานต้องรับรู้ทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นก็ใช้งานไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2015 เมื่อ 17:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 15-08-2015, 10:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การถอดจิตอยู่ในวิชชาใด ?
ตอบ : อยู่ในหมวดของอภิญญา จัดอยู่ในส่วนของมโนมยิทธิ เพียงแต่ว่าในส่วนของการถอดจิตนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่า การรู้เห็นไม่ใช่การถอดจิต การรู้เห็นเป็นแค่ทิพจักขุญาณ การถอดจิตก็คือสมมติว่าเราเห็นนรก เห็นสวรรค์ได้ นั่นเป็นแค่ทิพจักขุญาณ แต่ถ้าเราสามารถไปที่นั่นได้คือการถอดจิต ก็คือการยกกายในไป

ถาม : ในอภิธรรมไม่ได้มีกล่าวไว้ ?
ตอบ : ต้องบอกว่ารอให้ท่านปฏิบัติมากกว่านี้หน่อยแล้วจะอธิบายให้ฟัง อาตมาเองระยะหลัง ๆ จะมีวิชาหนึ่งที่สอนพระนิสิต ก็คือธรรมะภาคปฏิบัติ เห็นจุดที่ผิดเยอะมากเลย ในเมื่อเห็นที่ผิดเยอะ ถึงเวลาก็ต้องบอกลูกศิษย์ว่าตำราเขาว่ามาอย่างนั้น พอถึงเวลาเขาออกข้อสอบมาก็ตอบตามตำราไป แต่ความจริงเป็นอย่างนี้ ต้องอธิบายให้เขาฟังอีกแบบหนึ่ง

อย่างที่เรื่องรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เขาบอกว่ามี ๒ อย่างเท่านั้นที่เป็นวิปัสสนาญาณ ก็คือ รูป เปลี่ยนแปลงให้เห็นชัดเจน เวทนาเป็นความทุกข์อย่างชัดเจน แล้วเขาก็บอกว่าตัวอื่นเป็นวิปัสสนาญาณไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไร ? สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงไหม ? เมื่อไม่เที่ยงก็เป็นทุกข์..ใช่ไหม ? ในเมื่อเป็นทุกข์แสดงว่าบังคับบัญชาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นอนัตตา..ใช่ไหม ?

ส่วนใหญ่ท่านที่เขียนตำรา ท่านไปตีความเอาตามที่อ่าน ท่านไม่ได้ทำ ในเมื่อท่านไม่ได้ทำ ถึงเวลาอาตมาไปเจอที่ผิดเข้า ก็ต้องอธิบายให้ลูกศิษย์รู้ว่าเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ถ้าเขาถามมาคุณต้องตอบอย่างนั้น ถ้าตอบอย่างนี้ก็สอบตก เป็นอะไรที่เครียดมากเลย

ขนาดอาตมาดันเอามโนมยิทธิเข้าไปในธรรมะภาคปฏิบัติได้ แต่เขาก็ไม่ให้เขียน เขาไปเอาบรรดาอาจารย์จาก มจร.ของหน่วยอื่นมาช่วยกันเขียน แล้วออกมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ มีแต่ชื่อมโนมยิทธิ แต่ของจริงเกือบจะไม่ใช่เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-08-2015 เมื่อ 18:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 15-08-2015, 10:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในพระไตรปิฎกบอกว่า มโนมยิทธิคือเนรมิตกายอื่นนอกจากกายนี้ ?
ตอบ : อันนั้นก็คือคำอธิบายที่แปลออกมาตรง ๆ แบบที่เราเรียกว่าถอดจิตนั่นแหละ ก็คือมโนมยิทธิ แปลตรง ๆ ตามรากศัพท์ จนมาถึงยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง สิ่งที่เราแปลตามรากศัพท์ความหมายอาจจะไม่ใช่

แบบเดียวกับในสังคหวัตถุ สมานัตตตาเขาแปลว่ามีความเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งอาตมายืนยันว่าแปลผิดมาตั้งแต่ต้น สมานัตตตาควรจะแปลว่าเสมอด้วยตนเอง ก็คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราไม่ชอบอย่างไรเราก็อย่าทำอย่างนั้นกับเขา เราชอบอย่างไรเราก็ทำอย่างนั้นกับเขา คนถึงได้รักเรา เพราะว่าสังคหวัตถุคือสิ่งที่เราสงเคราะห์ จะเป็นเครื่องโยงให้เกิดความรักความสามัคคีกัน ถ้าชั่วเสมอต้นเสมอปลายแล้วใครจะไปรัก ?


ถาม : แต่มโนมยิทธิเต็มกำลังก็ถอดจิตนี่คะ ?
ตอบ : จะเต็มกำลังหรือครึ่งกำลังก็เหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่คนที่ไม่เข้าใจก็ไปแยกอีกว่านี่เต็มกำลัง นี่ครึ่งกำลัง ถ้าไปได้ก็เหมือนกัน เพียงแต่มโนมยิทธิเต็มกำลังจะมีความคล่องตัวกว่า มีความชัดเจนกว่าเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 10:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 15-08-2015, 10:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างพระจูฬปันถกะ เป็นเอตทัคคะด้านมโนมยิทธิ ?
ตอบ : ต้องยกให้ท่านคนหนึ่ง เพราะว่าท่านเป็นเอตทัคคะจริง ๆ ก็คือสามารถสร้างตัวตนอื่น ๆ อีกเป็นพันให้คนอื่นเขาเห็นพร้อม ๆ กัน แต่ละคนยังทำงานต่าง ๆ กันไปด้วย ถ้าอย่างนี้สบาย วัดวาอารามไม่รกหรอก ช่วยกันกวาดช่วยกันถู

ถาม : ที่ว่าเป็นมโนมยิทธิจริง ก็คือ เนรมิตกายอื่นนอกจากกายนี้ ?
ตอบ : นั่นแหละของแท้เลย ของพวกเรานี่ยังไม่แท้หรอก ของพวกเรานี้น่าจะเรียกว่ามโนมยิทธิไม่ถึงครึ่งกำลัง ถ้าเต็มกำลังจริง ๆ ต้องเป็นตัว ๆ อย่างนั้นเลย

ถาม : ต้องได้รูปฌานสี่ อรูปฌานสี่ หรือครับ ?
ตอบ : ไม่ทราบว่าท่านได้อะไรบ้าง แต่ท่านทำได้

ถาม : ผลของมโนมยิทธิก็คือตัดร่างกาย ?
ตอบ : ผลที่เห็นชัดที่สุด ก็คือ เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา จริง ๆ เป็นแค่เปลือกที่เราอาศัยอยู่เท่านั้น สภาพจิตที่จะยึดติดร่างกายก็เลยมีน้อยลง ส่วนอีกอย่างก็คือ เมื่อรู้จักพระนิพพานได้ ไปพระนิพพานตรง เอากายในไปอยู่ที่นั่นเลย หมดเรื่องหมดราว ไม่ต้องเสียเวลาไปที่ไหนอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 10:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 15-08-2015, 10:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมจึงมีคำว่า สุญญตนิพพาน ?
ตอบ : อาตมาไม่ค่อยได้ศึกษาตำรา จึงไม่ค่อยเข้าใจ สุญตา คือสภาวะจิตที่ปราศจากรัก โลภ โกรธ หลง ถ้าหากเข้าถึงสุญตาจริง ๆ คือการเข้าถึงพระนิพพานอย่างแท้จริง ถามว่าพระนิพพานอยู่ที่ไหน ? อยู่กับคุณนั่นแหละ เพียงแต่คุณจะเข้าถึงไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 11:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 15-08-2015, 11:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมตตากรรมฐาน ต้องได้ถึงฌาน ?
ตอบ : เมตตาโดยทั่ว ๆ ไปได้แค่อุปจารสมาธิ ถ้าจะให้ถึงฌาน เมื่อแผ่เมตตาแล้วต้องจับอานาปานสติต่อ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 11:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 15-08-2015, 11:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หุ่นพยนต์มีการสร้างขึ้นมา เป็นจริงไหมครับ ?
ตอบ : เขาทำกันมาทุกยุคทุกสมัย

ถาม : ท่านจะทำไหมครับ ?
ตอบ : เดี๋ยวรอดูก่อนว่ามีฤกษ์ไหม ? สำคัญตรงฤกษ์ อาตมาศึกษาตำรามาแล้ว ปรากฏว่าเสด็จในกรมหลวงชุมพรท่านเคยลองสร้างดู แต่ไม่มีฤกษ์ตรงตำรา ท่านก็เลยเสกแค่กระดิกได้ แต่ว่าเป็นตัวไม่ได้

ถาม : เสกไว้ก่อน พอถึงฤกษ์แล้วค่อยปลุก ?
ตอบ : ไม่จำเป็น ทีเดียวจบ ถึงเวลาก็ปลุกขึ้นมาใช้งาน

ถาม : ถ้าคนเสกตายไปแล้ว ?
ตอบ : เป็นการบังคับไว้ด้วยพลังจิต จะตายก็ตายไป ไม่เกี่ยวกัน

ถาม : แล้วหุ่นพยนต์ใครจะคุมคะ ?
ตอบ : ก็ถ้าเราคิดจะใช้ก็คุมเองสิวะ

ถาม : ถ้าคนคุมตาย ?
ตอบ : ให้ดูอย่างตามแหล่งสำคัญต่าง ๆ บางที ๔๐๐-๕๐๐ ปีแล้วก็ยังใช้งานได้อยู่ คนทำตายไปตั้งกี่ชาติแล้ว

ถาม : เขารับคำสั่งไปเรื่อย ๆ ?
ตอบ : พูดง่าย ๆ ว่าเขาอธิษฐานสำทับไว้ด้วยกำลังของอภิญญา คนทำจะตายก็ตายไป ไม่ได้เกี่ยวกับเวลา

ถาม : ควายธนูไม่ต้องดูฤกษ์ยามไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องดูฤกษ์ยาม แต่ก็ใช้วัสดุเฉพาะเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 11:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 15-08-2015, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ถามเจ้าหน้าที่ผลิตวัตถุมงคลว่า "บล็อกตะกรุดมหาสะท้อนยังอยู่ไหม ? จะได้ทำเนื้อทองคำสักชุดหนึ่ง เมื่อเช้าไปเขี่ย ๆ ดูในกระทู้ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่ามีคนอยากได้เยอะ ทำเนื้อทองคำสัก ๓๐๐ ดอกก็พอ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 14:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 15-08-2015, 14:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อคืนอาตมาท้องเสีย ตื่นมาถ่ายตั้งแต่ตีหนึ่ง รู้สึกว่ายังปวดท้องจะถ่ายอีก ก็เลยนอนไม่ได้ ต้องมานั่งตรวจดูกระทู้จองวัตถุมงคลเก่า ๆ จัดการ "แบน" ไป ๓๐ กว่ารายชื่อ ประเภทไม่ยอมมาแก้ไขที่ผิด เพราะเห็นว่าชื่อตัวเองขึ้นบัญชีแล้ว ส่วนใหญ่แล้วก็คือพิมพ์ผิดบ้าง ใช้เลขอารบิกบ้าง แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นไม่ยอมมาแก้ ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่เขาแจกใบแดงไปแล้ว

บางคนก็โดนแบบไม่น่าโดน คือแทนที่จะไปแก้ข้อความเก่าดันมาพิมพ์ใหม่เลย ฉะนั้น..ถ้าอยู่ ๆ รายชื่อหายไปแล้วมีใครถามมา ให้บอกว่าไปหาชื่อใหม่มาสมัครเลยนะ เพราะว่าแบนรายชื่อไปแล้ว คาดว่าคงกลับไปใช้ใหม่ไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ก็เขียนเอาไว้ว่า ถ้าหากไม่มาแก้ไขจะต้องจำไปตลอดชีวิต แล้วก็ลงเอาไว้ตั้ง ๒-๓ กระทู้ให้ดูเป็นตัวอย่าง แสดงว่าเขาอยากจำไปตลอดชีวิต"


ถาม : แล้วตะกรุดมหาสะท้อนที่เหลือ ?
ตอบ : เหลือเอาคืนมา เดี๋ยวจะขึ้นเป็นดอกละหมื่น…! เรื่องตะกรุดทองคำต้องมีคนไปบนพระหรือว่าไปบ่นกับพระแน่เลย ไม่รู้ว่าบนหรือบ่น

ส่วนรายชื่อที่โดนแบน ถ้ามีใครเขาสอบถามมาให้มัคคนายกตอบไปนะว่า ที่โดนแบนไปเพราะอาจารย์ขี้แตกก็เลยหงุดหงิด..! โดนไป ๓๐ กว่าราย ไม่นึกเลยว่าจะมักง่ายกันขนาดนั้น พยายามจะสอนให้ทำอะไรละเอียดขึ้น สภาพจิตจะได้ละเอียดขึ้น ที่ไหนได้..ประเภทลงกระทู้แล้วทิ้งเลย ขนาดแจกใบแดงยังไม่กลับมาแก้ เพราะว่ากระทู้ของทิดซัน (ลูกเจ้าคุณนรฯ) เขาเมตตามาก คนจองก็ลงให้ เห็นมีชื่อในบัญชีแล้วก็เลยไม่มาแก้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 14:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 15-08-2015, 14:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “การได้ทำอะไรที่ชอบแล้วจะมีความสุข โดยเฉพาะถ้าเป็นงานที่เราชอบแล้วจะมีความสุขมากเลย บางคนก็สงสัยว่าคนโน้นเขาทำงานหนักมาก แต่ทำไมดูเขามีความสุขจัง เพราะเขาได้ทำในสิ่งที่เขารักนั่นเอง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 14:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 15-08-2015, 14:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระครูหน่อยท่านจัดงานวันที่ ๑๒ สิงหาคม ตอนเย็น จัดงานอย่างกับว่าพระอาจารย์ยังไม่แก่ ท่านบอกว่า “เดี๋ยวเสร็จงานแล้วหลวงพ่อรีบวิ่งไปงานผมเลยนะครับ” กลัวอยู่อย่างเดียวว่าเสร็จงานก็หมอบกระแตไปแล้วนะสิ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 15-08-2015, 14:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานเลิกกรรมฐาน พวกเรากลับกันหมดแล้วมีโยมมาคณะหนึ่ง บอกว่าเกิดอุบัติเหตุเลยมาช้า อาตมาก็ว่าทำไมตูขึ้นไปแล้วถึงต้องลงมาใหม่ ต้องมานั่งรับพวกเขานี่เอง แต่ก็โชคดีว่าทั้งครอบครัว ๕ คนไม่มีใครเป็นอะไร คาดว่ารถก็คงมีประกันซ่อมให้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 14:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 15-08-2015, 14:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นิมิตกสิณที่เป็นกสิณไฟ จะปรากฏเฉพาะตรงหน้าคนทำหรือเปล่า ?
ตอบ : ปฏิภาคนิมิตสามารถปรากฏให้คนอื่นเห็นได้ สามารถใช้งานจริงได้ แต่ถ้าอุคหนิมิตยังเห็นอยู่คนเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2015 เมื่อ 14:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว