กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-07-2009, 11:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ความเป็นมาของการบวชชี

แม่ชีจัดอยู่อุบาสิกาบริษัท บริษัท ๔ ของพระพุทธศาสนา คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา แม่ชีจัดเป็นอุบาสิกาบริษัท และที่อัศจรรย์ก็คือว่า แม่ชีนั้นเริ่มมีขึ้นที่เมืองไทย

สมัยการสังคายนาครั้งที่ ๓ ประมาณพุทธศักราชสองร้อยเศษ พระเจ้าอโศกมหาราชส่งสมณทูตไปเผยแผ่ศาสนา ๙ สายด้วยกัน สายที่ ๘ มาที่สุวรรณภูมิ โดยมีพระโสณะเถระและพระอุตระเถระเป็นหัวหน้าสาย สมัยนั้นดินแดนสุวรรณภูมิมีพระเถระที่บวชกับพระพุทธเจ้า ได้มาวางรากฐานพระพุทธศาสนาไว้ก่อนแล้ว ก็คือ พระปุณณะเถระ ในพระไตรปิฎกบอกว่าอยู่ที่ สุนาปรันตปะ (บางหลักฐานเขาเชื่อว่า สุนาปรันตปะ อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีค่ะ)

การเผยแผ่พุทธศาสนาในสมัยก่อนเขาไม่ได้ทำส่งเดช เขาต้องศึกษาข้อมูลมาดีพอสมควร ว่าไปที่ไหนแล้วจะมีคนต้อนรับบ้าง ไม่ใช่ว่าไปแล้วไม่มีอะไร ไปเริ่มต้นนับหนึ่งนี่ไม่มีใครไปเผยแผ่หรอก

เมื่อพระโสณะเถระและพระอุตระเถระ พร้อมด้วยคณะมาเยือนที่สุวรรณภูมิ ท่านได้นำเอาพวกพราหมณ์และพวกราชครูปุโรหิตต่าง ๆ มาเผยแผ่วิชาการอื่น ๆ ด้วย แต่ว่าขาดภิกษุณี ในเมื่อไม่มีภิกษุณีที่สามารถเป็นปวัตตินี (พระอุปัชฌาชย์ของภิกษุณี) ถึงเวลาผู้หญิงเลื่อมใสแล้วเกิดอยากบวช

ท่านก็เลยใช้วิธีให้โกนหัว นุ่งขาวแล้วให้รับศีลแปด ไว้รอภิกษุณีที่ตามมาภายหลัง เผื่อภิกษุณีที่ส่งตามมาภายหลังมีอายุพรรษาสมควรเป็นปวัตตินีได้ จะได้บวชให้ แต่คาดว่าต่อให้ส่งภิกษุณีมาก็บวชไม่ไหว เพราะพระพุทธเจ้าท่านตั้งใจไม่ให้มีภิกษุณี

ท่านบอกว่าถ้าผู้หญิงอยู่ในธรรมวินัยนี้แล้ว พระธรรมวินัยจะดำรงอยู่ได้ไม่นาน สมัยนั้นเราอาจจะคิดไม่ถึง แต่สมัยนี้เห็นชัด ขนาดอยู่นอกวัดเขายังลากไปปู้ยี้ปู้ยำในวัด แล้วท่านบังคับว่าภิกษุณีต้องอยู่ในอาวาสที่มีภิกษุด้วย เพราะถ้ามีแต่ผู้หญิงจะโดนเขารังแกได้ง่าย การที่ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกัน ถ้าเป็นพระอริยเจ้าก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นปุถุชนแล้วเกิดไฟช็อตได้ง่าย..!

ท่านก็เลยห้ามเอาไว้ว่า ปวัตตินี คือ บุคคลที่สามารถเป็นอุปัชฌาย์ได้ต้องมีพรรษาพ้น ๒๐ ไปแล้ว กว่าจะพรรษาที่ ๒๐ นี่ตายแน่..! บวชได้ปีละ ๑ รูปและบวชได้ปีเว้นปี ก็แปลว่าสองปีบวชได้ ๑ รูป สี่ปีบวชได้ ๒ รูปเท่านั้น

เหตุที่ภิกษุณีสูญไปเพราะเหตุนี้ เนื่องจากว่า กว่าจะรอได้อายุพรรษาประการ ๑ รอจนกว่าจะบวชได้ประการ ๑ บางทีพระอุปัชฌาย์ตายก่อน พอดีก็ไม่ต้องบวชเลย

เมื่อเป็นดังนั้น พระโสณะเถระและพระอุตระเถระพร้อมด้วยคณะ ท่านก็เลยให้บวชเป็นชีก่อน แล้วก็ให้อยู่รวมกันในอารามที่เมืองทวาราวดีนั้น ชื่อว่าสำนักประชุมนารี ปัจจุบันยังเป็นสำนักแม่ชีใหญ่อยู่ที่ราชบุรี ใครอยากรู้ว่าสำนักแม่ชีที่สืบเนื่องมาสองพันกว่าปี หน้าตาเป็นอย่างไรก็แวะไปดูได้ สอนมโนมยิทธิด้วย เพราะว่าวัดท่าซุงมีงานเมื่อไร สำนักนี้จะขนคนขนของไปช่วยทันที เขาเลื่อมใสหลวงพ่อวัดท่าซุงมาก

ถาม : สามเณรีคืออะไร ?
ตอบ : สามเณรี คือบุคคลที่ตั้งใจจะบวชเป็นภิกษุณีนี่แหละ แต่อายุยังไม่ถึง ๑๘ ปี ก็บวชเป็นสามเณรีถือศีลแปดไปก่อน
ถ้าอายุถึง ๑๘ ปี ปฏิบัติตนเป็นสิกขมานา คือ ผู้ที่เตรียมบวชเป็นภิกษุณี ๒ ปี โดยการถือศีล ๖ (ศีล ๕ บวกข้อวิกาลโภชนา) ถ้าหากว่าภายในสองปีศีลไม่บกพร่องเลยก็อนุญาตให้บวชได้ แต่ต้องรอพระอุปัชฌาย์ ดังนั้น...ถ้าเราได้ยินสามเณรีหรือสิกขมานาแล้วอาจจะสงสัย ก็ให้เข้าใจว่าเป็นบุคคลที่จัดอยู่ในอุบาสิกาบริษัทอย่างหนึ่ง รอจนกว่าจะบวชเป็นภิกษุณีบริษัทได้

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ไม่มีใครทำลายพุทธศาสนาได้ นอกจากพุทธบริษัท ๔ เท่านั้น ก็แปลว่าถ้าพวกเราไม่ได้รักษาพระพุทธศาสนา ไม่ได้ประพฤติในศีล สมาธิ ปัญญา เราเองนั่นแหละ จะเป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนาเสียเอง

คนอื่นเขาทำอะไรไม่ได้หรอก ต่อให้ฆ่าพระหมดทั้งประเทศหลักธรรมก็ยังอยู่ ดังนั้น...บุคคลที่จะทำลายพระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดก็คือ พุทธบริษัท ๔ ท่านบอกว่าเหมือนกับสนิมเหล็กที่เกิดจากเนื้อในของเหล็ก แล้วกัดทำลายเหล็กนั้นจนกร่อนไป"


เทศน์ที่บ้านอนุสาวรีย์
๔ มิถุนายน ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว