กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-09-2010, 10:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ทำตนให้เป็นภาระน้อยที่สุด

ญาติโยมรุ่นเก่า ๆ พวกเรามักจะไม่ค่อยรู้จัก สมัยที่อาตมาออกจากวัดไปใหม่ ๆ เขาก็ตามไปช่วยสงเคราะห์ โดยเฉพาะในส่วนของคณะบายศรี จริง ๆ แล้วก็คือกลุ่มบายศรีของวัดท่าซุง เพียงแต่ว่าพอคนรู้มากขึ้น ตัวเองก็เหนื่อยน้อยลง ท้ายสุดก็เกษียณ ไปนั่งดูงานเฉย ๆ

สมัยแรก ๆ ทำบายศรีต้องใช้เวลาสองวัน พอคนรู้วิธีทำมากขึ้น เพราะใครไปเราก็ไม่เคยหวงวิชา จับขึ้นครูทำหมดทุกคน ก็กลายเป็นว่าแทนที่จะทำสองวันเสร็จ ก็เหลือวันหนึ่ง..เหลือทำเช้าเสร็จสี่ทุ่ม..ทำเช้าเสร็จสองทุ่ม..ทำเช้าเสร็จหกโมงเย็น จนกระทั่งท้ายสุด ทำเช้าบ่ายสามก็เสร็จแล้ว คนทำเป็นมีเยอะขึ้น ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ก็เสร็จเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

วิชาการต่าง ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านจึงไม่ปิดบังใคร แม้กระทั่งหลักการปฏิบัติท่านก็บอกหมดทุกอย่าง เพราะคนทำได้มากเท่าไร นอกจากจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าปฏิบัติแล้วมีผลจริงแล้ว เมื่อคนเขาทำได้ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปดูแลสงเคราะห์เขาอีก เราก็เหนื่อยน้อยลงไปด้วย

สมัยก่อนตอนเข้าวัดใหม่ ๆ ยังไม่เข้าใจวิธีการสอนของหลวงพ่อท่าน ว่าคนแต่ละจริตนิสัย ท่านจะมีวิธีการสอนไม่เหมือนกัน คนหยาบอย่างอาตมา จำเป็นต้องโดนโขก โดนสับ โดนด่า ไม่อย่างนั้นมักจะไม่ค่อยรู้เรื่องกับใคร

พอโดนโขกโดนสับเยอะ ๆ ก็ไม่เข้าใจ เห็นหลวงพ่อเรียกคนนั้นก็ลูก คนนี้ก็หลาน ท่านพูดดีกับเขาทั้งนั้น แต่ทำไมทีอาตมามีแต่ด่าอย่างเดียว พอมาตอนหลังจึงเข้าใจว่า จริง ๆ แล้วพวกที่ท่านยังใช้วาจาดี ๆ ด้วย ส่วนใหญ่ยังเอาตัวไม่รอด ก็คือ ยังต้องคอยประคองอยู่ แต่ถ้าคนไหนที่ท่านสับแรง ๆ แปลว่าเดินเองได้แน่ ถึงเวลาถ้าเดินช้าท่านก็ถีบส่งเลย..!

ในเรื่องของครูบาอาจารย์ที่เรายึดท่านเป็นที่พึ่ง ถ้ายึดมากเกินไป นอกจากตัวเองจะไปไม่รอดแล้ว ยังทำให้ท่านมีภาระมาก ก็มีอยู่อย่างเดียว ก็คือ ต้องตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ คือ ทำตนให้เป็นภาระสำหรับท่านให้น้อยที่สุด นอกจากตัวเราจะก้าวหน้าในการปฏิบัติ เพราะว่าขวนขวายทำอย่างจริงจังแล้ว ครูบาอาจารย์ก็ยังไม่ต้องรับเราเป็นภาระ ขณะเดียวกันในเมื่อเราไม่เป็นภาระ ท่านเองก็สามารถสงเคราะห์คนอื่นได้มากขึ้น เป็นความดีหลายส่วนด้วยกัน



พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงสาย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2015 เมื่อ 17:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:54



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว