กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-10-2019, 08:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ จากการที่วันนี้มีญาติโยมถามคำถามถึงหลักการปฏิบัติ โดยที่กล่าวว่าสามารถดับภพดับชาติได้หมดแล้ว ต่อไปต้องทำอย่างไร ? อาตมาก็ตอบไปว่า ถ้าดับภพดับชาติได้หมดแล้วก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะว่าเข้าพระนิพพานแน่ ๆ แต่สิ่งที่ญาติโยมทำนั้นไม่ใช่การดับภพดับชาติ เป็นแค่กำลังสมาธิของเราที่เกิดขึ้น แล้วก็ไปกด รัก โลภ โกรธ หลง ทุกอย่างให้นิ่งลงไปชั่วคราว ให้ดับลงไปชั่วคราว แล้วเราก็คิดไปว่าดับภพดับชาติได้แล้ว

ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราจะพบเจอมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสก็ดี แม่ชีก็ดี ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสงฆ์ของเรา นิยมในการเปิดบ้านเพื่อสอนคนให้ปฏิบัติธรรม ซึ่งจะว่าไปแล้วตรงจุดนี้มีทั้งประโยชน์และโทษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-10-2019, 08:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประโยชน์ก็คือ บุคคลที่อาศัยสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นบทเรียน ก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นมีประโยชน์จริงหรือไม่ แล้วขณะเดียวกัน ถ้าสอนดี สอนถูก ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก ต่อให้เราไม่ได้อะไรเลย บุคคลที่มีวาสนาบารมีซึ่งรับเอาคำสอนไปปฏิบัติ ก็จะเกิดผลดีแก่ตัวเอง

ส่วนข้อเสียก็คือ การไปเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเจ้าสำนัก เท่ากับเป็นผู้ใหญ่ในสถานที่ ก็จะไม่มีใครกล้าตักเตือนว่ากล่าว กว่าที่เราจะรู้ตัว บางทีโดนกิเลสกินเกือบตายไปแล้วก็มี แล้วในส่วนของท่านทั้งหลายที่ไปเปิดบ้านสอน ก็จะเกิดปรากฏการณ์อย่างที่ญาติโยมถามมา คือ พยายามใช้คำพูดให้ดูสูงส่ง ให้ดูเหมือนได้อะไรเยอะมาก อย่างเช่นการปฏิบัติแค่ทรงสมาธิขั้นต้นได้ ก็กล่าวว่าดับภพดับชาติได้หมดแล้ว เป็นต้น ซึ่งโอกาสที่จะทำให้คนเป็นมิจฉาทิฐิ เพราะการสอนผิดพลาดก็จะมีสูงมาก

ถ้าแต่ละสำนักรู้จักสังเกต จะเห็นว่าในเบื้องต้นคนจะมากันมาก แต่พอนานไป ๆ ก็จะค่อย ๆ ลดน้อยถอยลง ยิ่งถ้าหากว่าไม่มีการที่ศึกษาเพื่อที่จะเพิ่มพูนความรู้ เพราะคิดว่าตนเองอยู่ในจุดที่สูงแล้ว เป็นครูบาอาจารย์ของเขาแล้ว โอกาสที่จะพาลูกศิษย์ออกนอกลู่นอกทางก็จะมีมาก โทษใหญ่ก็จะเกิดขึ้นแก่ตัวเราเอง เพราะว่าไปสอนคนให้เป็นมิจฉาทิฐิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 21-10-2019, 08:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ญาติโยมสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับพระไตรปิฎกก็ได้ คัมภีร์วิสุทธิมรรคก็ได้ หรือแม้กระทั่งหนังสือคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุง อย่างกรรมฐาน ๔๐ หรือว่าคู่มือปฏิบัติกรรมฐานก็ได้ ถ้าสอนผิดไปจากนั้น โอกาสที่ออกนอกลู่นอกทางก็จะมีสูงมาก

นักปฏิบัติที่ดีจึงต้องกล่าวโทษโจทย์ตนเองอยู่เสมอ อย่าเผลอไปคิดว่าเราบรรลุแล้ว เราได้แล้ว ทั้ง ๆ ที่กำลังสมาธิสามารถแค่กดกิเลสได้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็จะเสียประโยชน์ใหญ่ ก็คือโอกาสที่จะเข้าถึงมรรคผลพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ เพราะว่าไปหลงเข้าใจผิดคนตามบุคคลที่สอนเรา โดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้จริงว่าเราได้มรรคได้ผลแล้ว จึงไม่ดิ้นรนขวนขวายอะไรเพิ่มเติม ตายไปก็จะเกิดอาการที่อาตมาเรียกว่าเสียชาติเกิด..!

โอกาสดีที่สุดก็คือ การได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ศึกษาธรรม แล้วน้อมนำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเรา แต่ว่าเมื่อมีโอกาสครบถ้วนแล้ว เราไม่สามารถที่จะทำให้ดีได้ เพราะว่าไปเจอแนวทางที่ผิด เจอคำสอนที่ผิด ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่เวรแต่กรรมของแต่ละคน ถ้าหากว่าตามที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านกล่าวก็คือ บุคคลที่สร้างบารมีมาดีก็ย่อมได้รับครูบาอาจารย์ที่ดีเอง เป็นต้น

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านบ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว