กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 29-10-2009, 22:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default โลกธรรม

จริง ๆ แล้วเราจะได้เห็นว่า กิเลสมารมีความสามารถมาก เขาสามารถใช้โลกธรรม ก็คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เป็นเครื่องมือในการครอบงำคนได้อย่างดีที่สุด

อย่างลักษณะที่ว่ามีคนแวดล้อมมาก ๆ พอถึงเวลาคนเหล่านั้นถอยไป แทนที่จะพิจารณาว่าตนเองบกพร่องตรงไหน กลับไปเห็นว่าเขาเป็นศัตรูเพราะไปอยู่กับคนอื่น

คราวนี้ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าเราเห็นแล้ว เราต้องรู้จักระมัดระวังตัวเองด้วยว่า อย่าให้เป็นอย่างนี้ เอาไว้เป็นบทเรียนของตัวเองเลย ระวังไว้อยู่เสมอ ถึงได้เตือนทุกคนว่า จุดมุ่งหมายที่เราก้าวเข้ามาปฏิบัติธรรมเราหวังอะไร ?ตอนนี้เรายังมุ่งตรงไปยังจุดหมายอย่างเดิมหรือเปล่า? มีการเบี่ยงเบนบ้างหรือไม่? ปัจจุบันยืนอยู่ที่ไหน? ระยะทางอีกใกล้ไกลเท่าไร ?

ถ้าไม่ทวนอย่างนี้ไว้บ่อย ๆ แล้วเราจะพลาด เพราะมารดึงเราทีละนิดเดียว เราจะเห็นว่าเขาค่อย ๆ ออกไปนิดเดียวนิดเดียว แรก ๆ เราจะเห็นว่าเป็นการทำเพื่อประเทศชาติ แต่ก็ทำให้ช้าและเสียเวลา เพราะมัวแต่ไปทำเรื่องเกี่ยวกับประเทศชาติ มรรคผลของตัวเองจึงไม่ได้สักทีหนึ่ง เวลาในการปฏิบัติน้อยลง มารก็แทรกมากขึ้น ๆ แล้วก็ดึงไกลออกไปเรื่อย ๆ จากพุทธศาสตร์ก็กลายเป็นไสยศาสตร์ไป..!

ถ้าเราเห็นลีลาของมารแล้วจะรู้ จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ดึงมาก เขาดึงนิดเดียว นิดเดียวลักษณะนั้นไม่เป็นไร แต่อย่าลืมว่าถ้าตรงนี้ผิดไปครึ่งองศา อีกร้อยกิโลเมตรข้างหน้าเราห่างเป้าไปเท่าไร ลองนึกดู..ถ้าเราขีดเส้น ห่างแนวไปแค่ครึ่งองศาเท่านั้น แล้วลากยาวไปสิ ยิ่งไปไกลเท่าไรก็ยิ่งห่างเท่านั้น จึงต้องระมัดระวังสุดชีวิต

ทบทวนอยู่เสมอ ๆ พระพุทธเจ้าท่านให้ท่าไม้ตายไว้แล้ว วิมังสา หมั่นไตร่ตรองทบทวนไว้เสมอ ๆ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ฝรั่งก็เอาไปใช้งานเป็นปกติ เขาบอกว่าให้สรุปและประเมินผล แล้วเราที่เป็นนักปฏิบัติ พระพุทธเจ้ามอบให้เราแท้ ๆ แทนที่จะเชื่อพระพุทธเจ้า..ดันไปทำตามแบบฝรั่ง ก็เจ๊งสิ เพราะเขาเก็บเอาความรู้ของพระพุทธเจ้าไปแท้ ๆ

ดังนั้น..เราต้องรู้จักสรุปและประเมินผล ไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำอะไร เพื่ออะไร และยังตรงต่อจุดมุ่งหมายเดิมหรือไม่ กำลังใจปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไร จะรีบตีคืนมาในแง่ไหนมุมไหน ก็คือว่าตอนนี้เรายืนอยู่ที่ไหน และจะต้องก้าวต่อไปทางใดถึงจะถูกต้องตามจุดหมายเดิมของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2013 เมื่อ 11:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-10-2009, 07:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นี่เป็นเรื่องอันตรายที่สุด เพราะว่าถ้าอย่างพวกเรามีคนแวดล้อมประมาณนี้หรือมากกว่านี้ในแต่ละครั้ง ลักษณะที่เขาเรียกว่าได้ยศ ก็คือมีคนคอยยกย่องให้ใหญ่กว่า เราก็จะไปหลงตาม พระดี ๆ เสียมาเยอะต่อเยอะแล้ว โดยเฉพาะเสียตรงที่เริ่มคัดลูกศิษย์แล้ว คนนี้ยศใหญ่เอา คนนี้รวยเอา คนนี้เป็นดาราเอา คนนั้นจนไม่เอา ขี้เหร่ไม่เอา..ไปเรื่อย..เป็นอย่างนั้นจริง ๆ แล้วท้ายสุดแทนที่จะช่วยยังพระศาสนาให้เจริญ ก็กลายเป็นประจบเอาใจโยม โดนอาบัติรับประทานอยู่ทุกวันเพราะประจบคฤหัสถ์

แต่เวลาที่ท่านยืนอยู่ตรงจุดนั้นท่านมองไม่เห็น แล้วยิ่งถ้าเป็นใหญ่มาก ๆ คนที่จะกล้าเตือนก็ไม่มีด้วย พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่ากัลยาณมิตรแทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของนักปฏิบัติ โดยเฉพาะกัลยาณมิตรที่เป็นครูบาอาจารย์

รู้ไหม กัลยาณมิตรประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง ?
๑) ปิโย มีความน่ารักน่าเชื่อถือ น่าคบหา น่าเข้าใกล้

๒) ครุ มีความหนักแน่น คืออารมณ์ใจมั่นคง ไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ ประเภทเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ใครอยากจะเข้าใกล้

๓) ภาวนีโย เป็นผู้ใฝ่หาความเจริญก้าวหน้าอยู่เสมอ ๆ ไม่ปล่อยตัวเองให้เป็นน้ำนิ่งแล้วก็กลายเป็นน้ำเน่า

๔) วตฺตา รู้จักใช้ในคำพูดคำกล่าว ก็คือรู้กาลเทศะ ว่าจังหวะไหนควรจะสอนอย่างไร ไม่ใช่ถึงเวลาก็ใส่ให้มั่ว ผิดตรงนั้น ล่อตรงนั้นเลยก็ไม่ได้ ต้องดูเหตุการณ์ด้วย อย่างของที่วัดท่าขนุน ถ้ารู้ตั้งแต่ตอนกลางคืนว่าเขาทำอะไรไป แต่จะไปด่าตอนกลางคืนก็ไม่ได้ ตอนช่วงเช้าทำวัตรเสร็จก็ด่าไม่ได้ เพราะว่าเพิ่งทำกรรมฐานมา กำลังใจกำลังทรงตัว ถ้าหากว่าออกไปบิณฑบาต ชาวบ้านจะได้บุญมาก แต่ถ้าเราด่ากระจายเสียตั้งแต่ตรงนั้นเท่ากับเราไปทำลายความดีของเขา จะจัดการตอนเย็นก็ไม่ได้ เพราะช้าเกินไป แก้ไขเหตุการณ์ไม่ทัน ก็ต้องจัดการเสียในระหว่างวันคือตอนเพล อย่างนี้เป็นต้น

๕)วจนกฺขโม อดทนต่อวาจาได้ ลูกศิษย์จะงี่เง่าเศร้าซึมขนาดไหน นินทาว่าร้ายขนาดไหนก็ต้องปล่อยหูทวนลม ต้องเป็นคนหูหนัก ไม่เป็นคนหูเบา

๖) คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา สามารถอธิบายขยายความข้อธรรมที่ลึกซึ้งได้ ไม่ใช่ได้แต่ผิว ๆ ลูกศิษย์ได้ฌาน ๔ อาจารย์ยังแค่ฌาน ๒ ก็เจ๊ง อธิบายเขาไม่ถูก

๗) ข้อสุดท้ายสำคัญมาก ๆ โน จฏฺฐาเน นิโยชเย ไม่ชักนำศิษย์ไปในทางที่เสียหาย เขาได้ดีก็โมทนาด้วย มีแต่ส่งเสริม ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วก็ฟันเขาทิ้ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2013 เมื่อ 11:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 30-10-2009, 07:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้มากล่าวถึงในเรื่องของพระด้วยกันต่อ ถ้าหากว่าเรายังเลือกในการสงเคราะห์คน ยังเลือกลูกศิษย์อยู่ พวกเราคงจะเจอมาแล้วหลายที่ ถ้าลักษณะนั้นแสดงว่าจิตใจยังเข้าไม่ถึงอัปมัญญาพรหมวิหาร ยังเลือกที่รักมักที่ชัง กำลังใจของตัวเองนอกจากจะแย่แล้ว ยังเป็นการทำลายศาสนาโดยไม่รู้ตัว เพราะเท่ากับเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวกไปเลย คนนี้รวยฉันคบ คนนี้จนฉันไม่คบ พวกนี้สักวันมันจะเป็นเศรษฐีขาดไฟ สำนวนโบราณว่าเศรษฐีขาดไฟก็คือ ให้คุณรวยสักแค่ไหนก็ตาม สักวันหนึ่งจะต้องมีเรื่องอะไรที่จะต้องไปพึ่งของที่นึกไม่ถึง แม้จะเล็กน้อยก็ตาม

แบบเดียวกับเราสร้างวัด เอ้า....โยมคนนั้นบริจาคมาแสนหนึ่ง เอ้า...เป็นเจ้าภาพนะ สร้างประตูโบสถ์ โยมคนนั้นก็สร้างหน้าต่างห้าหมื่น แต่ตอนที่ยกเสาโบสถ์เขามาช่วยยกไหม ? คนที่ถือหลุยส์วิตตองมันจะยกให้ไหม ? ใส่ปิแอร์การ์แดง ผูกเน็กไทมาอย่างดีเลย เขาจะมาแบกเสาให้เราไหม..? ไม่มี..ก็ต้องอาศัยชาวบ้านทั่วไป อาศัยคนข้างวัดที่ทำบุญทีละห้าบาทสิบบาทนั่นแหละ

แล้วเรานึกดูว่า คนเราทุกคนต้องการความดี มีโอกาสในการเข้าถึงธรรมทั้งหมด ไม่ใช่ว่าคนรวยแล้วจะเข้าถึงธรรม คนจนเข้าไม่ถึง ถ้าเราไปทำลักษณะอย่างนั้น ก็เป็นการไปตัดความดีของคนอื่นเขา โทษจะหนักมาก แล้วขณะเดียวกันก็ไม่สามารถจะยังศาสนาให้เจริญได้ เพราะว่ากำลังที่มีอยู่ในมือ ไม่สามารถทำงานได้หลากหลายทุกเรื่องได้ ท้ายสุดพอ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เข้ามามาก ๆ ก็เป๋ พอถึงเวลาไป ๆ มา ๆ แทนที่จะปฏิบัติธรรม ก็ชักจะไม่อยากจะทำแล้ว อยากมีครอบครัวแล้ว จะห่างความดีไปเรื่อย

เราจึงต้องรู้ตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าทำอะไรเพื่ออะไร เป็นที่น่าเสียดายว่า พระที่เริ่มต้นตั้งกำลังใจไว้ในด้านดีเป็นจำนวนมาก ท้ายสุดดูตัวเองไม่เป็น ก้าวถลำลึกไปเรื่อย ๆ แล้วในที่สุดก็ต้องหลุดออกจากวงโคจร สึกหาลาเพศไป แล้วขณะเดียวกัน บางท่านที่ยังฝืนใจอยู่ ก็รังแต่จะทำให้ตัวเองตกต่ำไปทุกวัน สร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่ตนเองและผู้อื่นมากขึ้นทุกวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2013 เมื่อ 11:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 63 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 30-10-2009, 07:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีใครเคยเจอบ้างไหม ? คุณหญิงคุณนายไปช่วยล้างชามก้นครัว คงไม่มีนะ หรือไม่ก็ประเภทขี่เบนซ์ มาถึงก็ช่วยเทปูนเลย หาไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้น..จะทำอะไรคิดให้ดี ๆ เราเองไม่สามารถจะยังศาสนาให้เจริญได้ ก็อย่าทำให้ศาสนาต้องพังลงไปเพราะมือเรา

เคยเตือนญาติโยมหลายต่อหลายรายที่มีฐานะดี เวลาเขามาทำบุญมาก ๆ ก็ดุเอา ปรากฏว่าโยมเขาก็งง ๆ โยมเขาบอกว่าปกติวัดอื่นมีแต่อยากได้เงินเยอะ ๆ ก็บอกไปว่าตรงนี้ไม่อยากได้เยอะ เพราะได้มาแล้วไม่ได้เป็นส่วนตัว ในเมื่อเป็นของส่วนรวม ต้องไปทำบุญให้เขาก็เหนื่อยมาก แล้วขณะเดียวกัน ลักษณะอย่างของพวกคุณ อย่าเผลอไปทิ้งที่อยู่หรือว่าเบอร์โทรศัพท์ไปให้ที่วัดไหนง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วจะรู้ว่าพรรคพวกของอาตมาแสบขนาดไหน ท่านตามยันบ้านจริง ๆ ไม่ได้กฐิน..ไม่ได้ผ้าป่าไม่เลิก ถึงเวลาวัดมีงาน ต้องใช้คำว่าโทรจิก โยมต้องมาเป็นประธานนั่นให้นิด เป็นประธานนี่ให้หน่อย สร้างเสาสักต้น สร้างประตูสักบาน หรือไม่ก็ไปเป็นประธานยกช่อฟ้าสักตัว ราคาไม่แพงหรอกโยม แสนห้าก็พอ ระวังไว้..จะเจออย่างนี้

ถาม : เจออย่างนี้ไม่ทำบุญด้วย ผิดไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ทำก็ไม่ผิด แต่ว่าเขาไม่เลิกตื๊อ แล้วในที่สุดเราก็จะทนรำคาญไม่ไหว แล้วก็ต้องยอมจนได้

ถาม : แต่ก็ได้บุญใหญ่ไม่ใช่หรือครับ ?
ตอบ : ได้ แต่มันประกอบด้วยเจตนาบริสุทธิ์ไหม ? เพราะว่าบุญจะเต็ม ๑๐๐% ต้องประกอบด้วยเจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ บริสุทธิ์โดย ๔ ส่วน ไม่ใช่เราบริสุทธิ์อยู่ฝ่ายเดียว


เทศน์ก่อนทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2013 เมื่อ 11:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:05



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว