กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 23-07-2010, 23:53
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ไปธุดงค์เพื่ออะไร

พระเณรบางกลุ่มหลังจากออกพรรษาแล้ว นิยมพากันออกเที่ยวธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ
มีการตระเตรียมบริขาร หรือชุดธุดงค์กันอย่างครบเครื่อง แต่ในการไปนั้น
มีอยู่หลายรูปที่ไปแบบผิดเป้าหมาย เช่น ทรงเครื่องกัมมัฏฐานไปรถทัวร์บ้าง รถไฟบ้าง
เที่ยวไปเยี่ยมเพื่อนฝูงตามสำนักต่าง ๆ บ้าง

หลวงปู่จึงกล่าวท่ามกลางคณะสงฆ์ว่า

"การกระทำตนเป็นพระธุดงค์รูปงามนั้น ย่อมไม่ควร ผิดวัตถุประสงค์ของการเดินธุดงค์ ทุกองค์พึงสำเหนียกให้มากว่า
การประพฤติธุดงคกัมมัฏฐานนั้น มุ่งการฝึกฝนขัดเกลาจิตใจให้ปราศจากกิเลสประการเดียวเท่านั้น
การไปธุดงคกัมมัฏฐานแต่ตัวส่วนใจไม่ไปนั้น ไม่เป็นการประเสริฐเลย"

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2010 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 27-07-2010, 21:37
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ละเอียด

หลวงพ่อเบธ วัดป่าโคกหม่อน ได้เข้าสนทนาธรรมกับหลวงปู่ถึงการปฏิบัติสมาธิภาวนา
โดยท่านเล่าว่า สามารถทำให้จิตเข้าถึงอัปปนาสมาธิได้เป็นเวลานาน ๆ
ครั้นถอยออกมาจากสมาธิ บางทีก็เกิดความสุขอิ่มเอิบอยู่เป็นเวลานาน
บางทีก็เกิดความสว่างไสวสามารถเข้าใจสรรพางค์กายได้อย่างครบถ้วน
แล้วจะมีสิ่งใดต้องปฏิบัติต่อไปอีก

หลวงปู่ว่า

"อาศัยพลังอัปปนาสมาธินั่นแหละมาตรวจสอบจิต แล้วปล่อยวางอารมณ์ทั้งหมดอย่าให้เหลืออยู่"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 27-07-2010, 21:49
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ว่าง

ในเวลาต่อมา หลวงพ่อเบธพร้อมด้วยพระสหธรรมิกอีกสองรูป และคฤหัสถ์อีกหลายคนเข้านมัสการหลวงปู่
หลังจากหลวงปู่ได้แนะนำข้อปฏิบัติแก่ผู้ที่เข้ามาใหม่แล้ว หลวงพ่อเบธได้ถามถึง
ข้อปฏิบัติที่หลวงปู่แนะนำเมื่อคราวที่แล้วว่า การปล่อยวางอารมณ์นั้น ทำได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว
หรือชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ไม่อาจรักษาให้อยู่ได้เป็นเวลานาน

หลวงปู่ว่า

"แม้ที่ว่าปล่อยวางอารมณ์ได้ชั่วขณะหนึ่งนั้น ถ้าสังเกตจิตไม่ดี หรือสติไม่สมบูรณ์เต็มที่แล้ว
ก็อาจเป็นได้ว่า ละจากอารมณ์หยาบไปอยู่กับอารมณ์ละเอียดก็ได้ จึงต้องหยุดความคิดทั้งปวงเสีย
แล้วปล่อยจิตให้ตั้งอยู่บนความไม่มีอะไรเลย"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 27-07-2010, 21:59
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

อุบายคลายความยึด

เมื่อกระผมทำความสงบให้เกิดขึ้นแล้ว ก็พยายามรักษาจิตให้ดำรงอยู่ในความสงบนั้นด้วยดี
แต่ครั้นกระทบกระทั่งกับอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง จิตก็มักจะสูญเสียความสงบที่พยายามทรงไว้นั้น

หลวงปู่ว่า

"ถ้าเช่นนั้น แสดงว่าสมาธิของตนเองยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ถ้าเป็นอารมณ์แรงกล้าเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะอารมณ์ที่เป็นจุดอ่อนของเราแล้ว ต้องแก้ด้วยวิปัสสนาวิธี
จงเริ่มต้นด้วยการพิจารณาสภาวธรรมที่หยาบที่สุด คือ กาย แยกให้ละเอียดพิจารณาให้แจ่มแจ้ง
ขยับถึงพิจารณานามธรรมอะไรก็ได้ทีละคู่ ที่เราเคยแยกพิจารณามา
ก็มีความดำความขาว ความมืดความสว่าง เป็นต้น"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 31-07-2010, 21:39
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ความหลังยังฝังใจ

ครั้งหลวงปู่ไปพักผ่อนที่วัดป่าโยธาประสิทธิ์ มีพระเณรจำนวนมากมากราบนมัสการหลวงปู่
เพื่อขอฟังโอวาทจากหลวงปู่ หลวงตาพลอย ผู้ที่มาบวชเมื่อแก่ได้ปรารภถึงตนเองว่า
"กระผมบวชมาก็นานพอสมควรแล้ว ยังไม่อาจตัดอารมณ์ห่วงอาลัยในอดีตได้
แม้จะตั้งใจอย่างไรก็เผลอจนได้ ขอทราบอุบายวิธีอย่างอื่นเพื่อปฏิบัติตามแนวทางนี้ต่อไปด้วยครับกระผม"

หลวงปู่ว่า

"อย่าให้จิตแล่นไปสู่อารมณ์ภายนอก ถ้าเผลอ เมื่อรู้ตัวให้รีบดึงกลับมา
อย่าปล่อยให้มันรู้อารมณ์ดีหรือชั่ว สุขหรือทุกข์ ไม่คล้อยตาม และไม่หักหาญ"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 31-07-2010, 21:49
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

หยุดต้องหยุดให้เป็น

มีนักปฏิบัติกราบเรียนหลวงปู่ว่า กระผมพยายามหยุดคิด หยุดนึกให้ได้ตามที่หลวงปู่เคยสอน
แต่ไม่เป็นผลสำเร็จสักที ซ้ำยังเกิดความอึดอัดแน่นในใจ สมองมึนงง
แต่กระผมก็ยังศรัทธาว่าที่หลวงปู่สอนไว้ย่อมไม่ผิดแน่ ขอทราบอุบายวิธีต่อไปด้วยครับ

หลวงปู่ว่า

"ก็แสดงถึงความผิดพลาดอยู่แล้ว เพราะบอกให้หยุดคิดหยุดนึก
ก็กลับไปคิดที่จะหยุดคิดเสียอีกเล่า แล้วอาการหยุดจะอุบัติขึ้นได้อย่างไร
จงกำจัดอวิชชาแห่งการหยุดคิดหยุดนึกเสียให้สิ้น เลิกล้มความคิดที่จะหยุดคิดเสียก็สิ้นเรื่อง"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 31-07-2010, 22:07
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

เมื่อกล่าวถึงสัจธรรมแล้ว ย่อมลงสู่กระแสเดียวกัน

มีหลายท่านชอบถามว่า คำกล่าวหรือการเทศน์ของหลวงปู่ ดูคล้ายนิกายเซ็น
หรือคล้ายมาจากสูตรเว่ยหล่างเป็นต้น อาตมาเรียนถามหลวงปู่ก็หลายครั้ง ในที่สุดหลวงปู่ก็กล่าวว่า

"สัจธรรมทั้งหมดมีอยู่ประจำโลกอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสรู้สัจธรรมนั้นแล้ว
ก็นำมาสั่งสอนสัตว์โลก เพราะอัธยาศัยของสัตว์ไม่เหมือนกัน หยาบบ้าง ประณีตบ้าง
พระองค์จึงเปลืองคำสอนไว้มากถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
เมื่อมีนักปราชญ์ฉลาดสรรหาคำพูดให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อจะอธิบายสัจธรรมนั้น
นำมาตีแผ่เผยแจ้งแก่ผู้มุ่งสัจธรรมด้วยกัน เราย่อมจะต้องอาศัยแนวทางในสัจธรรมนั้น
ที่ตนเองไตร่ตรองเห็นแล้วว่าถูกต้อง และสมบูรณ์ที่สุดนำแผ่ออกไปอีก
โดยไม่ได้คำนึงถึงคำพูด หรือไม่ได้ยึดติดในอักขระพยัญชนะตัวใดเลยแม้แต่น้อยเดียว"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 04-08-2010, 20:52
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

มีอยู่จุดเดียว

ในนามสัทธิวิหาริกของหลวงปู่ มีพระมหาทวีสุขสอบเปรียญ ๙ ประโยคได้เป็นรูปแรก
ทางวัดบูรพารามจึงจัดฉลองพัดประโยค ๙ ถวาย

หลังจากพระมหาทวีสุขถวายสักการะแก่หลวงปู่แล้ว หลวงปู่ได้ให้โอวาทว่า

"ผู้ที่สามารถสอบเปรียญ ๙ ประโยคได้นั้น ต้องมีความเพียรอย่างมาก และมีความฉลาดเพียงพอ
เพราะถือว่าเป็นการจบหลักสูตรฝ่ายปริยัติ และต้องแตกฉานในพระไตรปิฎก
การสนใจทางปริยัติเพียงอย่างเดียวพ้นทุกข์ไม่ได้ ต้องสนใจปฏิบัติทางจิตต่อไปอีกด้วย

พระธรรมทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นั้น ออกไปจากจิตของพระพุทธเจ้าทั้งหมด
ทุกสิ่งทุกอย่างออกจากจิต อยากรู้อะไรค้นได้ที่จิต"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 04-08-2010, 21:05
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

โลกกับธรรม

วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงปู่ไปพักผ่อนอยู่ที่วัดถ้ำศรีแก้ว ภูพาน สกลนคร
ค่ำวันสุดท้ายที่หลวงปู่จะเดินทางกลับ ท่านอาจารย์สุวัจ พร้อมพระเณรในวัด
ได้เข้าไปกราบหลวงปู่เพื่อเป็นการอำลาหลวงปู่

หลวงปู่กล่าวว่า "พักผ่อนอยู่ที่นี่สบายดี อากาศก็ดี ภาวนาก็สบาย นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ เมื่อสมัยเที่ยวธุดงค์"

แล้วหลวงปู่ก็ได้กล่าวธรรมโอวาทมีความตอนหนึ่งว่า

"สิ่งใดซึ่งสามารถรู้ได้ สิ่งนั้นเป็นของโลก สิ่งใดไม่มีอะไรจะรู้ได้ สิ่งนั้นคือธรรม
โลกมีของคู่อยู่เป็นนิจ แต่ธรรมเป็นของสิ่งเดียวรวด"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 05-08-2010, 21:16
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ละอย่างหนึ่งติดอีกอย่างหนึ่ง

ลูกศิษย์ฝ่ายคฤหัสถ์ผู้ปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง เข้านมัสการหลวงปู่
เพื่อรายงานผลการปฏิบัติให้หลวงปู่ฟังด้วยความภาคภูมิใจว่า

"ปลื้มใจอย่างยิ่งที่ได้พบหลวงปู่วันนี้ ด้วยกระผมปฏิบัติตามที่หลวงปู่เคยแนะนำ
ก็ได้ผลไปตามลำดับ คือ เมื่อลงมือนั่งภาวนาก็เริ่มละสัญญาอารมณ์ภายนอกหมด
จิตก็หมดความวุ่น จิตรวม จิตสงบ จิตดิ่งสู่สมาธิ หมดอารมณ์อื่น เหลือแต่ความสุข
สุขอย่างยิ่ง เย็นสบาย แม้จะให้อยู่ตรงนี้นานเท่าไหร่ก็ได้"

หลวงปู่ยิ้มแล้วพูดว่า

"เออ ก็ดีแล้วที่ได้ผล พูดถึงความสุขในสมาธิมันก็สุขจริง ๆ จะเอาอะไรมาเปรียบไม่ได้
แต่ถ้าติดอยู่แค่นั้น มันก็ได้แค่นั้นแหละ ยังไม่เกิดปัญญาอริยมรรคที่จะตัดภพชาติ ตัณหา อุปาทาน ได้
ให้ละสุขนั้นเสีย แล้วพิจารณาขันธ์ห้าให้แจ่มแจ้งต่อไป"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 05-08-2010, 21:28
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ปรารภธรรมเปรียบเทียบ

"จิตของพระอริยเจ้าชั้นโลกุตตระนั้น แม้จะยังอยู่ในโลกคลุกคลีกับสิ่งแวดล้อมโดยสถานใด
ก็ไม่อาจจูงจิตของท่านให้ไขว้เขวเจือปนกับสิ่งเหล่านั้นได้ คือ โลกธรรมไม่อาจครอบงำจิตได้เลย
คือ จิตไม่กลับกลายไปเป็นจิตปุถุชนได้อีก ไม่อาจกลับไปอยู่ใต้อำนาจของกิเลสตัณหาได้อีก

เปรียบเหมือนกะทิมะพร้าวที่คั้นออกมาแล้ว
เอาไปสำรอกหรือเคี่ยวด้วยความร้อนจนเป็นน้ำมันออกมาได้แล้ว
ย่อมไม่กลับกลายไปเป็นกะทิเหมือนเดิมอีก แม้จะเอาไปปะปนระคนกับกะทิอย่างไร
ก็ไม่อาจทำให้น้ำมันนั้นกลายเป็นกะทิเหมือนเดิมได้"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 05-08-2010, 21:44
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ภายนอกกับภายใน

เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔ หลังจากหลวงปู่กลับจากราชพิธีในพระราชวัง
กำลังพักผ่อนอยู่ที่พระตำหนักทรงพรต วัดบวรนิเวศฯ
มีท่านเจ้าคุณซึ่งเป็นนักปฏิบัติรูปหนึ่งได้เข้าไปเยี่ยมสนทนาธรรมกับหลวงปู่
โดยขึ้นต้นด้วยคำถามว่า "เขาว่าคนที่เป็นยักษ์ในชาติปางก่อน
กลับมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้นั้น เรียนคาถาอาคมอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์ไปทุกอย่าง เป็นความจริงแค่ไหนครับผม"

หลวงปู่ลุกขึ้นนั่ง แล้วตอบว่า

"ผมไม่เคยได้สนใจเรื่องอย่างนี้เลย ท่านเจ้าคุณเคยภาวนาถึงตรงนี้ไหม
หสิตุปบาท คือ กิริยาที่จิตยิ้มเอง โดยปราศจากเจตนาที่จะยิ้ม
เกิดในจิตของเหล่าพระอริยเจ้าเท่านั้น ไม่มีในสามัญชน
เพราะพ้นเหตุปัจจัยแห่งการปรุงแต่งแล้ว เป็นอิสระด้วยตัวมันเอง"

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มายา : 01-06-2011 เมื่อ 20:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 16-08-2010, 20:56
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

หวังผลไกล

เมื่อมีแขกหรืออุบาสกอุบาสิกาไปกราบนมัสการหลวงปู่ แต่หลวงปู่มีปกติไม่เคยถามถึงเรื่องอื่นใด
มักจะถามว่า "ญาติโยมเคยภาวนาบ้างไหม" บางคนตอบว่าเคย บางคนตอบว่าไม่เคย
ในจำนวนนั้นมีอยู่คนหนึ่งฉะฉานกว่าใคร เขากล่าวว่า
"ดิฉันเห็นว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องมาวิปัสสนาอะไรให้มันลำบากลำบนนัก
เพราะปีหนึ่ง ๆ ดิฉันก็ฟังเทศน์มหาชาติจบทั้ง ๑๓ กัณฑ์ตั้งหลายวัด
ท่านว่าอานิสงส์การฟังเทศน์มหาชาตินี้จะได้ถึงศาสนาพระศรีอาริย์
ก็จะพบแต่ความสุขความสบายอยู่แล้ว ต้องมาทรมานให้ลำบากทำไม"

หลวงปู่ว่า

"สิ่งอันประเสริฐที่มีอยู่เฉพาะหน้าแล้วไม่สนใจ กลับไปหวังไกลถึงสิ่งที่เป็นแต่เพียงการกล่าวถึง
เป็นลักษณะของคนไม่เอาไหนเลย ก็ในเมื่อมรรค ผล นิพพานในศาสนาสมณโคดมในปัจจุบันนี้
ยังมีอยู่อย่างสมบูรณ์ กลับเหลวไหลไม่สนใจ เมื่อถึงศาสนาพระศรีอาริย์ ก็ยิ่งเหลวไหลมากกว่านี้อีก"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 16-08-2010, 21:11
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติธรรมนั้นเพื่ออะไร

หลวงพ่อเบธ ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดของหลวงปู่ อยู่ที่วัดโคกหม่อน แม้ท่านจะบวชเมื่อวัยชรา
แต่ก็เคร่งครัดต่อการปฏิบัติธุดงคกัมมัฏฐานอย่างยิ่ง หลวงปู่เคยยกย่องว่าปฏิบัติได้ผลดี
วันหนึ่งท่านอาพาธหนักใกล้จะมรณภาพแล้ว ท่านปรารภว่า อยากเห็นหลวงปู่เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อลาตาย
เมื่อหลวงปู่ไปถึงแล้ว หลวงพ่อเบธลุกกราบหลวงปู่แล้วล้มตัวนอนตามเดิมโดยไม่ได้พูดอะไร
แต่มีอาการยิ้ม และสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด

ขณะนั้น สุรเสียงอันชัดเจนและนุ่มนวลของหลวงปู่ก็มีออกมาว่า

"การปฏิบัติทั้งหลายที่เราพยายามปฏิบัติมา ก็เพื่อจะใช้ในเวลานี้เท่านั้น
เมื่อถึงเวลาที่จะตาย
ให้ทำจิตให้เป็นหนึ่ง แล้วหยุดเพ่งปล่อยวางทั้งหมด"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 16-08-2010, 21:24
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ไม่เคยเห็นหวั่นไหวในเหตุการณ์อะไร

เวลา ๔ ทุ่มผ่านไปแล้ว เห็นหลวงปู่ยังนั่งพักผ่อนอยู่ตามสบาย
จึงเข้าไปกราบเรียนว่า "หลวงปู่ครับ หลวงปู่ขาวมรณภาพเสียแล้ว"

หลวงปู่แทนที่จะถามว่า ด้วยเหตุใด เมื่อไร ก็ไม่ถามกลับพูดต่อไปเลยว่า

"เออ ท่านอาจารย์ขาว ก็หมดภาระการแบกหามสังขารเสียที
พบกันเมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมาเห็นลำบากสังขาร ต้องให้คนอื่นช่วยเหลืออยู่เสมอ
เราไม่มีวิบากของสังขาร เรื่องวิบากสังขารนี้ แม้จะเป็นพระอริยเจ้าชั้นไหน
ก็ต้องต่อสู้จนกว่าจะขาดจากกันได้ ไม่เกี่ยวข้องกันอีก แต่ตามปกติสภาวะของจิตนั้น
มันก็ยังอยู่กับสิ่งเหล่านี้เอง เพียงแต่จิตที่ฝึกดีแล้วเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นย่อมละและระงับได้เร็ว
ไม่กังวล ไม่ยึดถือ หมดภาระเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้น มันก็แค่นั้นเอง
"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 01-06-2011, 20:58
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

จริงตามความเป็นจริง

สุภาพสตรีชาวจีนคนหนึ่ง ถวายสักการะแด่หลวงปู่แล้วกราบเรียนว่า
ดิฉันจะต้องไปอยู่ที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อทำมาค้าขายและอยู่ใกล้ชิดกับญาติทางโน้น

ทีนี้บรรดาญาติ ๆ ก็เสนอแนะว่า ควรจะขายของชนิดนั้นบ้าง ชนิดนี้บ้าง ตามแต่เขาจะเห็นดีว่าอะไรขายได้ดี
ดิฉันยังมีความลังเลใจ ตัดสินใจเองไม่ได้ว่าจะเลือกขายของอะไร
จึงให้หลวงปู่ช่วยแนะนำด้วยว่า จะให้ดิฉันขายอะไรจึงจะดีเจ้าคะ

หลวงปู่ว่า

"ขายอะไรก็ดีทั้งนั้นแหละ ถ้ามีคนซื้อ"

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มายา : 01-06-2011 เมื่อ 21:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 01-06-2011, 21:07
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

ไม่ได้ตั้งจุดหมายไว้

เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๒ คณะนายทหารประมาณ ๑๐ กว่านาย
เข้านมัสการหลวงปู่เมื่อเวลาค่ำแล้ว ในคณะของนายทหารเหล่านั้น มียศพลโทสองท่าน
หลังจากสนทนากับหลวงปู่เป็นเวลาพอสมควรแล้ว ก็ถอดเอาพระเครื่องจากคอของแต่ละท่าน
รวมใส่พานถวายให้หลวงปู่ช่วยอธิฐานแผ่เมตตาจิตให้ ท่านก็อนุโลมตามความประสงค์แล้วก็มอบคืนให้ไป
มีนายพลท่านหนึ่งถามหลวงปู่ว่า ทราบว่ามีเหรียญหลวงปู่ออกมาหลายรุ่นแล้ว
อยากถามหลวงปู่ว่ามีรุ่นไหนดังบ้าง

หลวงปู่ตอบว่า

"ไม่มีดัง"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 01-06-2011, 21:19
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

หลวงปู่กับเกจิอาจารย์

เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๕๒๐ หลวงปู่รับนิมนต์ไปร่วมพิธีกรรมที่วัดธรรมมงคล สุขุมวิท
ในงานนี้ ท่านรับนิมนต์เข้าไปนั่งปรกในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลด้วย
เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ออกมานั่งพักที่กุฏิเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง สนทนากับเหล่าศิษยานุศิษย์
ที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียนอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นจำนวนหลายรูป
และมีพระรูปหนึ่งคงไม่เคยเห็นการเข้าพิธีพุทธาภิเษกมาก่อน
เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรก จึงถามหลวงปู่ว่า นั่งปรกเขาทำอย่างไร

หลวงปู่จึงว่า

"อาจารย์องค์อื่น ๆ เขานั่งปรกนั่งพุทธาภิเษกอย่างไร เราไม่รู้
ส่วนตัวเรานั่งสมาธิอย่างเดียว ตามแบบฉบับของเรา"

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2011 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 19-10-2011, 21:08
มายา มายา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 81
ได้ให้อนุโมทนา: 15,599
ได้รับอนุโมทนา 6,649 ครั้ง ใน 159 โพสต์
มายา is on a distinguished road
Default

อยากเรียนเก่ง

หนูได้ฟังคุณตาสรศักดิ์ กองสุข แนะนำว่า
ถ้าใครต้องการเรียนเก่งและฉลาด ต้องหัดนั่งภาวนาทำสมาธิให้ใจสงบเสียก่อน
หนูอยากจะเรียนเก่งเรียนฉลาดอย่างเขา จึงพยายามนั่งภาวนาทำใจให้สงบ
แต่ใจมันก็ไม่สงบสักที บางทีก็ยิ่งทวีความฟุ้งซ่านมากขึ้นก็มี
เมื่อใจไม่สงบเช่นนี้ ทำอย่างไรจึงจะเรียนเก่งเจ้าค่ะ

หลวงปู่ว่า

"เรียนอะไร ก็ให้มันรู้อันนั้น เดี๋ยวก็เก่งเองแหละ
ที่ใจไม่สงบก็ให้รู้ว่ามันไม่สงบ เพราะอยากสงบ มันจึงไม่สงบ
ขอให้พยายามภาวนาเรื่อย ๆ ไปเถอะ สักวันหนึ่งก็จะได้สงบตามต้องการ"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มายา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:30



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว