กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 26-10-2009, 15:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของตะกรุดมหาสะท้อน หลวงพ่อกล่าวว่า "ที่เขาห้ามให้เด็กใช้ เพราะว่ามหาสะท้อนมันย้อนกลับหลายอย่าง แล้วมันย้อนกลับหลายเท่า ถ้าเราเผลอไปตีเด็ก มันจะโดนอะไรที่หนักกว่านั้นคืน เขาเลยห้ามไม่ให้เด็กใช้ และห้ามเข้าไปในที่ที่คนหรือสัตว์กำลังคลอด เพราะมันจะคลอดไม่ออก มันจะย้อนกลับหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 26-10-2009, 15:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องการทำบุญหลวงพ่อได้เตือนโยมคนหนึ่งว่า "ทำอะไรอย่าให้เกินกำลัง ถ้าไม่ไหวก็ทำแต่น้อย ในเรื่องของทานบารมีมันไม่ได้อยู่ที่น้อยหรือมาก มันอยู่ที่สละออก ไม่ใช่เราจะทำขึ้นมา เสร็จแล้วก็ไม่ได้ดูรอบข้าง อาจจะมีคนเดือดร้อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 26-10-2009, 15:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "ตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นที่ปั๊ม เราจะทำพิธีตอนเจ็ดโมงครึ่ง ของมันมาถึงตอนหกโมงครึ่ง เราไม่มีโอกาสตรวจสอบอะไรเลยสักอย่างเดียว ตั้งใจว่าไม่เอาแล้ว แต่โยมเขาบอกให้รับไว้

ตอนแรกตั้งใจทิ้งหมด ทิ้งมัดจำด้วย จะไม่จ่ายเงินที่เหลือด้วย ตอนแรกตกลงกับเขาว่าจะบรรจุหลอดให้ มันกลายเป็นว่าเขาไปทำห่วงหัวท้ายแทน เพราะมันถูกกว่า และห่วงที่เขาทำก็ไม่ได้เรื่อง แต่มันกลายเป็นเอกลักษณ์ไปในที่สุด ไม่มีใครเลียนแบบได้ เพราะมันห่วยได้ไม่เท่า กลายเป็นจุดตายในการพิจารณา เขาเรียกว่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ของแท้ต้องห่วย !"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 26-10-2009, 15:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "หลวงปู่จันทร์ กุสโล ท่านเจ้าคุณพุทธพจน์วราภรณ์ วัดเจดีย์หลวง สมัยที่ท่านยังเป็นพระเทพกวี อยู่วัดป่าดาราภิรมย์ อาตมาเคยไปกราบท่าน ท่านบอกว่า ถ้าเมตตาเกินประมาณจะเจอแต่คนพาลทั้งเมือง

คนสมัยนี้มันมีแต่หน้าด้านใจดำ เขาไม่กลัวความดีกัน เขากลัวแต่คนที่ชั่วกว่า ถ้าเราแสดงออกให้เห็นว่าเขี้ยวเรายาวกว่า มันถึงจะยอม นึกถึงพวกสัตว์เดรัจฉาน อย่างพวกลิง เวลาลิงมันขู่ มันจะแยกเขี้ยวใส่ ถ้าเราแยกเขี้ยวใส่มัน มันเห็นเขี้ยวเราใหญ่กว่า มันจะหนี ก็แปลว่า ในการทำมาหากินในปัจจุบันมันเอานิสัยของสัตว์เดรัจฉานมาใช้เยอะ เขาเลยไม่กลัวความดี กลัวแต่ความรุนแรงมากกว่า กลัวแต่คนที่ชั่วกว่า

คิดดูก็น่าอนาถใจว่า เรื่องของศีลธรรมจรรยามันตกต่ำขนาดนั้นเชียวหรือ และนี่มันแค่กลางศาสนาเท่านั้น ยังไม่ใช่ปลายศาสนาเลย ถ้าเรามาดูในยุคนี้ การทำมาค้าขายมันเป็นในเรื่องของคนกินคน ปลาใหญ่กลืนปลาเล็กไปหมด กิจการใหญ่ฮุบกิจการเล็กไปหมด ในลักษณะเทกโอเวอร์ กลายเป็นผู้ที่เข้มแข็งกว่าจึงอยู่ได้ นี่มันกลายเป็นสไตล์ของสัตว์เลย สัตว์ที่ตัวแข็งแรงกว่ามันจะอยู่รอด

ในเมื่อแค่กลาง ๆ ศาสนายังกินขนาดนี้แล้ว ตอนปลายศาสนาที่เขาเรียกว่ามิคสัญญี มันจะรุนแรงมาก (มิคสัญญี = หมายว่าเป็นเนื้อ) เห็นอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเหยื่อ เขาบอกว่าลงจากบ้านก็ไม่จำหน้ากันแล้ว ไม่ชอบใจก็คว้าอาวุธฆ่ากันเลย ขออย่าให้ไปเกิดช่วงนั้นเลยนะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-10-2009 เมื่อ 13:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 27-10-2009, 18:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "เรื่องของพระ....มันแปลก มันมักจะตรงกันข้ามกับฆราวาส ข้าวของอย่างอื่นพอมันเก่ามันแก่ มันมักจะหมดราคา โดยเฉพาะเมีย แต่พระยิ่งแก่ยิ่งเก่า...คนยิ่งชอบ ประเภททั้งอุ้มทั้งจูงไป อายุ ๙๐ หรือ ๑๐๐ นี่คนชอบกันจริง เรานี่อยากจะเป็นลม ตอนหนุ่ม ๆ มีเรี่ยวแรงไม่ใช้หรอก ไปใช้เอาตอนหมดแรงแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-10-2009 เมื่อ 18:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 27-10-2009, 18:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่หลวงพี่บอกตอนต้นเดือนที่แล้ว....
ตอบ : จริง ๆ แล้วมันอยู่ที่การขวนขวายของเราจ้ะ พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้ชัดว่า สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน บุคคลหนึ่งจะทำให้อีกบุคคลหนึ่งบริสุทธิ์หาได้ไม่ แม้กระทั่งท่านเองยังบอกว่า อกฺขาตาโร ตถาคตา ตถาคตเป็นได้แต่เพียงผู้บอก เพราะฉะนั้นอยู่ที่เราขวนขวายและเร่งทำ อย่างไรก็ขอให้ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเห็นทางก็ไม่ยากแล้ว

ถาม : กราบขอบพระคุณหลวงพี่ด้วย ไม่รู้ไอ้ตัวท้าย
ตอบ : ไม่เห็นต้องรู้อะไร แค่เราไม่เอาก็จบ ขึ้นชื่อความเกิดนี้เราไม่เอาอีกแล้ว ขึ้นชื่อว่าร่างกายที่มีความทุกข์เช่นนี้เราไม่เอาอีกแล้ว ขึ้นชื่อว่าโลกที่ทุกข์ยากเร่าร้อนเช่นนี้ไม่เอาอีกแล้ว เมื่อถอนใจของเราออกมา กติกาของความเป็นพระอริยเจ้า มีกี่ข้อเราก็ทำไป รักษาศีลให้บริสุทธิ์ไม่ล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง ๆ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ตั้งใจอยู่เสมอว่าตายเมื่อไหร่เราไปนิพพาน เสร็จแล้วก็จับภาพพระให้เป็นปรกติ นึกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหน ท่านอยู่พระนิพพาน เราเห็นท่านคือเราอยู่กับท่าน เราอยู่กับท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน แล้วก็จับตัวสุดท้าย

ถาม : ไม่ค่อยไปนึกถึง
ตอบ : พยายามนึก ช่วยได้เยอะ ถ้าเราอยู่กับท่าน มันจะเจ็บจะป่วยอะไร ไม่สนใจ ไม่รู้สึกหรอก เป็นการระงับเวทนาได้ดีมาก ๆ

ถาม : ฟังเทศน์มาแล้วเขาบอกว่า ต้องเข้าฌานสี่แล้วถอยออกมาฌานหนึ่ง มาพิจารณาอะไรอีก
ตอบ : เสียเวลา ได้แค่ไหน ทำแค่นั้นเถอะ ได้แล้วค่อยมาคิด ถ้ามันอยากนิ่งก็ให้มันนิ่ง ถ้ามันอยากคิดแล้วค่อยให้มันคิด อารมณ์ใจแต่ละช่วงมันไม่เหมือนกัน บางช่วงมันอยากนิ่ง มันอยากสงบก็ให้มันสงบ จะเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี ก็ให้มันนิ่งไป เพราะตอนที่มันนิ่งรัก โลภ โกรธ หลง มันเกิดไม่ได้

ขณะเดียวกันมันไม่นิ่ง มันเริ่มอยากคิด ก็หาวิปัสสนาญาณให้มันคิด จะดูให้เห็นทุกข์ก็ได้ จะดูให้เห็นไตรลักษณ์ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ก็ได้ จะดูให้เป็นวิปัสสนาญาณ ๙ ตั้งแต่การเกิดการดับ ไปจนถึงสังขารุเปกขาญาณ ปล่อยวาง เห็นเป็นธรรมดาก็ได้ เลือกเอาว่าจะเอาอันไหน ไม่อย่างนั้นแล้วมันจะใช้กำลังอย่างที่บอก ฟุ้งซ่านได้ดีมาก เพราะเราไปเพาะกำลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-10-2009 เมื่อ 09:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 27-10-2009, 18:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมมติว่าเราไม่รู้ว่าเราสัญญาอะไรกับพระไว้ แล้วมีคนมาบอกว่าเราสัญญากับพระ ว่าจะช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วเราบอกว่าไม่เอา
ตอบ : ถึงเวลามันก็เป็นไปตามสัญญาเอง

ถาม : แต่หนูก็ทำให้พวกนี้นะคะ
ตอบ : อย่าไปฟุ้งซ่านกับมัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 27-10-2009, 18:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่ครับถ้าจะฝึกกรรมฐาน ดูจิตอย่างไรครับ
ตอบ : ตอนแรกดูลมหายใจก่อน ถ้าตามลมหายใจทันแล้วค่อยดูอย่างอื่น ถ้าหากลมหายใจยังตามไม่ทัน เผลอเมื่อไหร่คิดถึงแฟน เผลอเมื่อไหร่คิดถึงเพื่อนอย่างนี้ ยังใช้ไม่ได้จ้ะ เอาลมหายใจให้ทัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 27-10-2009, 18:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่คุยเกี่ยวกับเรื่องการทำลานธรรม ที่วัดท่าขนุน หลวงพ่อท่านก็ได้กล่าวว่า "ต้องไปดูข้างบน (มุมที่สูง) แล้วจะเห็นว่าสิ่งที่พระท่านชี้มันลงตัวเป๊ะ ๆ เลย เหมือนกับเราตั้งใจเขียนแผนที่ไว้ก่อน แล้วค่อยไปทำ แต่จริง ๆ ไม่ใช่หรอก ท่านชี้บอกให้ทำไปเป็นจุด ๆ มันเป็นสถาปนึกล้วน ๆ ท่านมองลงมาท่านเห็น เพราะฉะนั้นท่านบอกตรงไหนก็ต้องเอาตรงนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 27-10-2009, 19:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม: อยากถามเรื่องของเวลาอสงไขย มันเกี่ยวข้องกับการเกิดดับของกาแลกซี่หรือไม่ครับ
ตอบ : ถามว่ามีความสัมพันธ์ไหม...ก็มี มันเป็นส่วนหนึ่งของอายุขัย อสงไขย แปลตามศัพท์ว่า นับไม่ได้ ที่นับไม่ได้นี่คือคนนับไม่ได้ แต่พรหม เทวดา หรือท่านผู้ได้อภิญญาท่านกำหนดนับได้

ที่คนนับไม่ได้ ท่านเปรียบเอาไว้ว่า แค่ระยะเวลา ๑ กัป ถ้าสมมติว่ามีถังเหล็กใบหนึ่งรูปสี่เหลี่ยม กว้างยาวด้านละหนึ่งโยชน์ ( ๑๖ กิโลเมตร) ร้อยปีเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดใส่ไปเม็ดหนึ่ง เมล็ดพันธุ์ผักกาดนั้นเต็มถังเมื่อไหร่ ระยะเวลา ๑ กัป ยังยาวนานกว่านั้น

ระยะเวลานั้น หนึ่งรอบของอันตรกัป ๖๔ รอบ = ๑ อสงไขยกัป
๔ อสงไขยกัป = ๑ มหากัป

ดังนั้นคำว่าอสงไขย ที่นับไม่ได้ คือ พวกเรานับไม่ได้ เพราะอย่างอายุเรา เม็ดแรกก็ไม่มีสิทธิ์หย่อนแล้ว ถ้าไม่ถึง ๑๐๐ ปี ตายเสียก่อนจะไปนับอย่างไร

ถาม : แล้วมันสัมพันธ์กับเอกภพหรือเปล่า
ตอบ : ทุกอย่างมันสัมพันธ์กันหมด เพียงแต่ว่าระยะของพวกมันบางทีก็ยาวกว่า บางทีก็สั้นกว่า เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันไม่ได้ดับไปเฉย ๆ ถึงวาระที่สมควรมันก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ เรื่องพวกนี้รู้ไปก็บ้าเสียเปล่า ๆ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าไปคิดหาเหตุผล พึงมีส่วนของความเป็นบ้า อุมมัตตกะภาโค ยังดีนะแค่มีส่วนเป็นบ้า ไม่ใช่บ้าเลย ถ้ามัวแต่คิดอยู่ เสียเวลาเปล่า ไม่มีโอกาสทำความดี

ถาม : มีผู้กล่าวไว้ว่า ถ้าเราสามารถประมาณระยะเวลา ๑ อสงไขยได้ จะมีผลดีสำหรับผู้บำเพ็ญพระโพธิญาณ จะได้ประมาณเวลาสำหรับการทำบารมี จริงหรือไม่อย่างไร
ตอบ : ผิดแน่นอน ผู้ที่บำเพ็ญพระโพธิญาณไม่ได้สนใจว่าระยะเวลาจะเท่าไหร่ สนใจแค่ว่าได้ทำหรือเปล่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2019 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 27-10-2009, 19:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม: พระที่เราจะเอาไปให้คนเขาเวียนมาถวายสังฆทาน เราจะต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถทำอย่างนี้ได้ ?
ตอบ : ก็ไปตลาด แล้วเอาเงินให้เขา (ไปบูชามา)

ถาม : อยู่ดี ๆ เราจะเอามาใช้ได้เลยหรือว่าต้องอธิษฐานอย่างไรหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่ต้อง พระที่ผ่านพิธีแล้ว เทวดาท่านรักษา ยกขึ้นยกลงบางทีท่านไม่ชอบใจเหมือนกัน ก็ต้องใช้พระท้องตลาด ไม่ผ่านพิธีเป็นดีที่สุด เพราะว่าพระทั้งหลายเหล่านั้นแม้จะมีเทวดารักษา แต่เขาไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นใคร

ถาม : พอดียังมีพระต่างจังหวัดหลายวัด ที่ยังไม่มีพระพุทธรูปสำหรับทำสังฆทาน ถ้าจะทำไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ตอบ : ก็เอาไปถวายท่าน

ถาม : แล้วอานิสงส์ ?
ตอบ : อานิสงส์ก็ได้สังฆทาน มีพระพุทธรูปก็เป็นพุทธบูชา มีผ้าไตรก็เป็นวรรณะ มีอาหารก็เป็นกำลัง ถ้าถวายความสะดวกให้เขา ก็ได้รับความสะดวกด้วย เป็นไวยาวัจจมัยด้วย เป็นปัตตานุโมทนามัยด้วย เพราะถ้าไม่ยินดีก็ไม่เอาไปถวายหรอก

ถาม : ควรหรือเปล่าที่จะเป็นสมเด็จองค์ปฐม ?
ตอบ : อะไรก็ได้ ให้เป็นพระพุทธรูปก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2019 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 28-10-2009, 10:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำสมาธิแล้วเกิดอาการปวดเมื่อย
ตอบ : ถ้าเราสนใจอยู่กับร่างกายมันจะปวด มันจะชา แต่ถ้าเราไม่สนใจ อยู่กับลมหายใจเข้าออกจริง ๆ อยู่กับภาพพระจริง ๆ มันจะลืมตรงส่วนนี้ไปเลย แล้วจะนั่งนานแค่ไหนก็แล้วแต่ ลุกปุ๊บมันเดินได้เลย มันไม่มีการปวดการเมื่อยอะไรเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 28-10-2009, 10:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พ่อแม่ป่วยอยู่ที่บ้าน แล้วมีคนบอกให้ชะลอการทำบุญ เพราะว่าการที่ออกไปนอกบ้าน เป็นการทิ้งพ่อทิ้งแม่ไว้ที่บ้าน
ตอบ : มีคนอื่นช่วยดูแลไหมจ๊ะ ตอนที่เราไปทำบุญ

ถาม : ไม่มีค่ะ
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่มี ให้บอกพ่อแม่ด้วยว่าเราไปทำบุญแล้วบอกให้ท่านอนุโมทนาบุญด้วย แต่ถ้าหากเราไปตะลอน ๆ ทิ้งให้ท่านอยู่ ไม่มีใครดูแล ปรนนิบัติรับใช้ อันนั้นก็แย่

ถาม : พ่อแม่ก็ยังสามารถดูแลตัวเองได้
ตอบ : ถ้าหากว่าท่านยังสามารถดูแลตัวเองได้ เราก็ปลีกตัวไปได้ แต่ก็อย่ามากจนเกินไป จนกระทั่งกลายเป็นว่าท่านเองต้องอยู่กับบ้านตลอด แต่เราไปไกลเลย

ถาม : แล้วการที่เราไปทำบุญให้ท่าน ท่านได้ไหมคะ
ตอบ : ได้จ้ะ บอกแล้วว่าก่อนไปให้บอกท่านด้วย กลับมาก็มาบอกท่านซ้ำอีกที

เรื่องของการทำความดีต้องอยู่ในลักษณะโลกไม่ช้ำ ธรรมไม่เสีย ทั้งนี้ทางโลกของเราถ้าทำดีแล้ว ในส่วนของทางธรรมก็ทำด้วย ในความเป็นลูกเรามีหน้าที่อย่างไร ถ้าตามที่พระพุทธเจ้าท่านบอก พ่อแม่เลี้ยงเรามา เราเลี้ยงท่านเป็นการตอบแทน ให้รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเอาไว้ ทำตนเป็นคนดีให้เหมาะสมเพื่อที่จะได้รับมรดก ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มความสามารถ ท้ายสุดแม้บิดามารดาล่วงลับไปแล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เหล่านี้เป็นต้น ถ้าหากเราทำหน้าที่ของเราเต็มที่แล้ว ระยะเวลาที่เหลือ เราจะพลิกตัวไปทำบุญที่ไหนก็ได้ ตามที่เขาทักท้วงมา เขารู้สึกว่าเราใช้เวลาไปในการทำบุญมากกว่าการอยู่บ้าน เราก็แบ่งเวลาเสียใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-10-2009 เมื่อ 10:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 28-10-2009, 10:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างเวลาไปทำบุญ จะมีอุปสรรค เจ็บไข้ได้ป่วย เช่น ปวดท้อง ไม่รู้จะแก้อย่างไร
ตอบ : ไม่ต้องแก้ อันนั้นเขาเรียกว่าทดสอบกำลังใจ เพราะว่าการทำอะไรก็ตาม จะมีการทดสอบอยู่ตลอด แล้วลักษณะในการทดสอบก็จะทำให้เราเข้าใจผิดได้ อย่างเช่น เพราะว่าเราทำความดี....เราจึงได้เจอเหตุแบบนี้ จึงได้เป็นแบบนี้ บางคนเลิกทำความดีไปเลยก็มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2019 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 29-10-2009, 12:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมัยหลวงพ่อฤๅษีท่านสร้างพระ ..
ตอบ : อันนั้นพระท่านบอก แต่ละอย่างพระท่านจะบอกว่าใช้งานในด้านไหนได้บ้าง แต่ท่านบอกไว้เสมอว่าวัตถุมงคลของท่านให้หารุ่นสุดท้ายไว้ ถ้าพระเคยสงเคราะห์เท่าไหร่ครั้งต่อไปจะไม่มีต่ำกว่านั้น มีแต่ว่าถ้าเพิ่มอะไรมาแล้วท่านจะบอก เพราะฉะนั้นวัตถุมงคลสายหลวงพ่อวัดท่าซุงรุ่นสุดท้ายดีที่สุด จะว่าไปก็คือสั่งสมมาเรื่อย

อาตมานี่เอาไม่มาก ถึงเวลาทำพุทธาภิเษกก็อธิษฐาน สมัยหลวงพ่ออยู่ท่านสงเคราะห์แค่ไหน...ผมเอาแค่นั้น ขอนิดเดียวสั้น ๆ ไม่เคยอธิษฐานเยอะแยะกับเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 29-10-2009, 13:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กกล่าวว่า "ตอนช่วงนี้บรรดาสหายศึก เพื่อนร่วมรบเก่า ๆ เขามาช่วยงานพระศาสนากันมาก ก็คือบรรดาเพื่อนที่เคยไปรบทัพจับศึกตั้งแต่สมัยไหนยุคไหน สิ่งที่มันผูกพันอยู่กับหน้าที่มันล็อกตัวเองอยู่ ทำให้ไม่สามารถจะไปเกิดได้ ในเมื่อปลดออกมา ปล่อยออกมา ก็เลยเอามาช่วยงานกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 29-10-2009, 13:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บนท่านท้าวมหาราชให้ได้เป็นพระโสดาบัน
ตอบ : ท้าวมหาราช....ท่านให้พรไว้ว่าบุคคลใดก็ตามถ้าตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านจะตามคุ้มครองตลอดชีวิต มันดันไปกลายเป็นว่าบนท่านท้าวมหาราชให้เป็นพระโสดาบัน ถ้าเป็นอย่างนี้ตูจะรีบบนเลย

นาน ๆ ไปมันเละได้ขนาดนั้น เขาเรียกว่าอิทธิพลสื่อที่บิดเบือน บอกมันด้วยว่า ท่านบอกไว้อย่างนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 29-10-2009, 13:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กกล่าวว่า "บุคคลที่เป็นพระโพธิสัตว์บารมีเข้มเท่านั้นที่ร่างกายจะมีพระรัศมี คราวนี้อย่างหลวงพ่อท่านบอกว่า ท่านมีแค่ ๔ สี ก็แสดงว่าท่านสร้างบารมีมาเยอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 29-10-2009, 13:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กกล่าวว่า "พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าถ้ามรรคแปดยังมีอยู่ครบถ้วน สมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ก็จะมีอยู่ในศาสนานี้ เพราะฉะนั้นของสี่หมื่นแปดพันพระธรรมขันธ์ยังครบ ไม่ใช่แค่มรรคแปด

ก็เลยอยู่ที่ว่าพวกเราจะมีความพยายามสักเท่าไหร่ที่จะทำแล้วให้เกิดผล ไม่ใช่ว่าเจอลำบากเสียหน่อยก็ท้อแล้ว ท้อไม่ได้ ถ้าท้อก็ห้ามท้อบ่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 29-10-2009, 13:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่เราสวดมนต์อย่างที่โหลดเอ็มพีสามที่เป็นเพลงสวดมนต์ แล้วเราร้องเป็นเพลงจะได้ไหมคะ
ตอบ : จริง ๆ มันสำคัญที่ว่าใจเราเป็นสมาธิหรือเปล่า ถ้าใจเราเป็นสมาธิต่อให้ร้องเพลงก็ได้ เพียงแต่ว่าให้มันจดจ่ออยู่ตรงหน้าอย่าไหลตามไป อย่างเช่นเวลาเราร้องเพลง ถ้าหากว่าใจเรานิ่งอยู่ตรงหน้า มันจะไม่ไหลตามเนื้อเพลง แต่ถ้าหากว่าใจเราไม่นิ่งอยู่ตรงหน้า มันจะไปคิดตามเนื้อเพลง

ถ้าหากว่าจิตเป็นสมาธิอยู่ตรงหน้า ต่อให้ร้องเพลงมันก็เป็นกุศล แต่ถ้าหากว่าไม่เป็นสมาธิตรงหน้า จิตมันจะปรุงแต่งตามเนื้อเพลงแล้วมันจะไหลตามกระแสไปเรื่อย ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นโทษ
ฉะนั้นเราเองจะสวดมนต์ในลักษณะอย่างสรภัญญะหรืออะไรก็ได้ทำนองเพราะ ๆ ก็ได้ ไม่มีใครว่า อย่างเมืองจีนเขาก็เคาะป๊อก ๆ ๆ บางอันก็มีดนตรีประกอบ

ถาม : แล้วอย่างหนูจะสวดชินบัญชร หนูจำไม่ได้ หนูก็เลยใช้วิธีร้องเพลงเอาได้ใช่ไหมคะ
ตอบ : ได้

ไม่ยากหรอกนะ เพราะที่ให้ไปเป็นสิ่งที่ดี ฟังบ่อย ๆ ก็ติดหู ชินบัญชร ๙ จบ กว่าจะจบอย่างน้อยก็ต้องจำคาถาได้เป็นบรรทัดแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว