กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-03-2010, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ท่องคาถาจนได้อภิญญา

ตอนนี้พวกทหารจากกองร้อยเฉพาะกิจนราธิวาส จะโทรมาปรึกษาเป็นประจำ ครั้งล่าสุดที่เขาโทรมาเกิดจากว่า มีอิสลามคนหนึ่ง เขาท่องคัมภีร์อัลกุรอานแบบกลับหลังแล้วเกิดอภิญญาขึ้นมา เพียงแต่ว่าเขากลายเป็นบ้า ๆ บอ ๆ แล้วไปก่อคดีตามแรงบ้าของเขา ตำรวจทหารจะไปจับเขาก็จับไม่ได้ เพราะถึงเวลาเหมือนกับเขาหายไปเฉย ๆ พ้นวงล้อมตำรวจไปแล้วถึงได้เห็นตัวอีกที

พอโจรรายนี้เข้าไปในเขตของ ผบ.ร้อยท่านนี้ เขาก็ต้องออกไปปิดล้อมและตรวจค้นว่าผู้ร้ายอยู่ที่ไหน พอรู้ว่าโจรมันหนีเข้าไปในสวนยาง เขาก็โทรมาถามอาตมาว่า "ผมจะทำอย่างไรดี ?" อาตมาถามเขาว่า "ในตัวของเอ็งมีอะไรบ้าง ?" เขาบอกว่า "มีพระกริ่งพิชัยสงครามกับตะกรุดมหาสะท้อน"

"เอ็งอาราธนาตามวิธีที่ให้ไปเลยนะ คาถามีกี่บทว่าให้หมด ขอบารมีพระท่านแค่ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ต้องสำเร็จ" ไม่ขออย่างอื่น พอเขาวางกำลังล้อมเสร็จ เขาก็อธิษฐานขอให้ปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จ ปรากฏว่าไอ้โจรบ้านั่นเดินออกมาเฉย ๆ เดินออกมาให้จับตัวเลย เดินออกมาเห็น ๆ ด้วย เขาคงจะเดินออกมาลักษณะแบบที่ฝ่าวงล้อมคนอื่น แต่คนอื่นไม่เห็น อย่างที่เคยทำได้ทุกที แต่ครั้งนี้เขาเห็น ก็เลยจับตัวได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าป่านนี้เขาเอาไปไว้ที่ไหน ?

ถาม : แล้วเขาจะหลุดจากกรงไหมนี่ ?
ตอบ : ไม่แน่ใจ

บางเวลาท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะโทรมา พอเขาโทรมาจะเวลาไหนก็ตาม อาตมาต้องสละเวลาให้เขา เพราะว่าถ้าไม่ฉุกเฉินจริง ๆ เขาก็ไม่โทรมาหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2014 เมื่อ 14:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-03-2010, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่องคัมภีร์อัลกุรอานอย่างไรครับ ?
ตอบ : ที่จะพูดถึงคือเรื่องนี้ แม้แต่คนอิสลามก็ตาม เขาท่องคัมภีร์ตามความเชื่อถือของเขา ท่องบ่นด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาและจริงจัง ก็ยังเกิดอภิญญาได้ แล้วของเราเอง..ศาสนาพุทธ วิธีสร้างอภิญญามีนับไม่ถ้วน สู้เขาไม่ได้นี่น่าขายหน้านะ..!

ลองไปท่องกลับหลังบ้าง อันดับแรกเอาอิติปิ โสฯ ถอยหลังก่อน ถึงเวลาก็ท่องอิติปิ โส ภะคะวาฯ แล้วเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ ตอนลงบันไดระวังให้ดี ถ้าถอยผิดจังหวะจะตกบันได..!

เรื่องนี้อาตมาเคยแกล้งรุ่นน้องที่วัดท่าซุงมาแล้ว รุ่นน้องบวชใหม่ไฟแรง ตอนที่เขาเป็นนาค อาตมาเป็นพระพี่เลี้ยงให้เขา

เขาก็ถามว่า "หลวงพี่ครับ...ทันทีที่บวชเสร็จ เราจะทำอย่างไรจึงจะได้อานิสงส์สูงสุดครับ ?" ก็เลยบอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณเดินออกจากโบสถ์แล้ว ให้ตั้งใจเดินถอยหลัง สวดอิติปิ โสฯ ไปเรื่อย ๆ คุณเคยได้ยินไหม ? อิติปิ โสฯ ถอยหลัง"

"เคยได้ยินครับ" "เออ..นั่นแหละ เดินสวดอิติปิ โสฯ ถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนถึงกุฏิ ใครทักห้ามพูดอย่างเด็ดขาด ถ้าสมาธิเคลื่อนเดี๋ยวคุณจะได้บุญน้อย"

ถาม : ใจร้าย..!
ตอบ : ไม่ได้ใจร้ายเว้ย อยากจะรู้ว่าเขามีประสบการณ์แค่ไหน..!

ถาม : แล้วเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : เขาก็ทำจริง ๆ

ถาม : ถึงกุฏิหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่รู้ถึงหรือเปล่า เพราะอาตมาเผ่นไปก่อน..!

อิติปิ โสฯ ถอยหลังของอาตมาเป็นอย่างนี้ ต้องใช้สมาธิมาก เพราะถ้าเผลอ..จะไปชนอย่างอื่นเข้า ต้องระวังทุกอย่าง บุญก็จะมากไปด้วย อธิบายให้น่าเชื่อ เพื่อน ๆ ก็เชื่อกันหมด น้องเขาก็เชื่อด้วย

ถาม : จะให้ได้อานิสงส์เยอะ ก็ต้องนั่งสวดอิติปิ โส ฯ ถอยหลัง ?
ตอบ : ก็ลองดู ไถไปกว่าจะถึงกุฏิ สบงอาจจะขาดไปแล้ว บางอย่างก็เกิดจากความซนเก่า ๆ ที่กลับมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2014 เมื่อ 14:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-03-2010, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องก็ หลวงพี่สุธน ท่านสึกไปแล้ว ตอนอยู่วัดท่านปฏิบัติดีมาก สึกไปเพราะว่าทางบ้านขอร้องให้กลับไปช่วยทำมาหากิน

วันนั้นท่านฉันอาหารแล้วก้างปลาติดคอ มาเจอกันตอนทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว ราว ๆ ทุ่มครึ่ง เห็นหลวงพี่สุธนลูบคอ อาตมาก็ถามว่า "หลวงพี่เป็นอะไรครับ ?" ท่านก็บอกว่า "ก้างปลาติดคอตั้งแต่เช้าแล้ว ผมแก้ทุกวิธีก็แก้ไม่ได้ บางคนก็บอกให้ปั้นข้าวกลืนบ้าง กลืนกล้วยทั้งลูกบ้าง เอาแมวมาข่วนบ้าง บีบมะนาวใส่บ้าง ลองทำดูหมดแล้ว ไม่หายสักที"

อาตมาก็บอกว่า "อ๋อ...มีอีกวิธีครับหลวงพี่ เขาบอกให้ดื่มน้ำร้อน" อาตมาก็หันไปกดน้ำร้อนใส่แก้วให้ ตอนกดก็ว่าคาถาสะเดาะก้าง แล้วก็ส่งแก้วน้ำร้อนให้ไป บอกว่า "ฉันได้เลย น้ำร้อนจะทำให้กระดูกอ่อน แล้วก็หลุดออกมา" พี่เขาก็กลืนเอื๊อก "ลองกลืนน้ำลายดู" "เอ๊ะ..หายจริง ๆ" "ก็หายจริง ๆ สิครับ ผมมั่นใจ..เพราะน้ำร้อนทำให้กระดูกอ่อนแล้วหลุดออกมา" ต่อไปถ้าพี่เขาก้างติดคออีก ก็คงกินน้ำร้อนหมดเป็นกา..!

ถาม : ยาวไหมครับคาถาสะเดาะก้าง ?
ตอบ : คาถาบทนี้ได้จากหลวงปู่มหาอำพัน แต่แปลกมากเลย แปลกตรงที่อาตมาได้มาไม่เหมือนคนอื่นเขา คาถาว่า พญานกออก ช่วยบอกพญานกเป็ดน้ำ ขอนขวางอยู่ในถ้ำ สะวะหะ สะวะหาย สะวะหะ สะวะหาย สะวะหะ สะวะหาย

แต่คนอื่นได้จากหลวงปู่ แม้กระทั่งลายมือหลวงปู่เขียนว่า "พญานกกรด" แต่อาตมาเป็น "พญานกออก" และไม่ได้จดด้วย ฟังครั้งเดียวจำเลย ก็เลยสงสัยว่าของอาตมาใช้ได้ผลเพราะคำว่า "ออก" หรือเปล่า ?

ลองไปใช้ดู บางทีฉุกเฉินขึ้นมาจะไปมาหาหมอกลางดึกก็ลำบาก สำคัญตรงที่ว่า เรื่องของคาถานั้น ห้ามลังเลสงสัยเด็ดขาด ใส่ไปเต็ม ๆ ด้วยความมั่นใจเลยถึงจะได้ผล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2014 เมื่อ 14:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-03-2010, 14:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคาถาแก้สะอึกไหม ?
ตอบ : อมน้ำตาลปีบ ควักน้ำตาลปีบมาก้อนหนึ่ง ใส่ปากอมเลย ทันทีที่น้ำตาลแตะลิ้น ไม่เกินสามวินาที จะหายสะอึก

ถาม : หลอกหรือเปล่า ?
ตอบ : นี่เรื่องจริง..ไม่ได้หลอก ลองดู..หายแน่นอน ถ้าหลอกต้องให้อมบอระเพ็ดแทน ตอนแรกเขาบอกมาก็ไม่เชื่อ พอลองดูเองแล้วหาย เลยต้องเชื่อ

ในเรื่องที่เขาท่องคัมภีร์อัลกุรอานแล้วเกิดอภิญญาขึ้นมาได้ เราจะเห็นว่าเกิดจากความเชื่อมั่นและศรัทธาของเขา ในตัวศรัทธาเชื่อมั่น เป็นส่วนหนึ่งของเวสารัชชกรณธรรม ธรรมที่ทำให้คนเกิดความกล้า เพราะว่ามีสิ่งที่ให้ยึดถือ

มีเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย ก็คือ เชื่อมั่นในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เชื่อมั่นในสิ่งศักดิสิทธิ์ เป็นเครื่องรางของขลังอะไรก็ได้ที่ตนเองมีอยู่ เชื่อมั่นในผู้นำ ถ้าผู้นำเก่ง มีความสามารถ ทำอะไรประสบความสำเร็จทุกอย่าง มีประสบการณ์สูง บอกแล้วเราไปทำสำเร็จ สองครั้ง..สามครั้ง..สี่ครั้ง..ครั้งที่ห้าก็เชื่อว่าสำเร็จ จะเกิดความมั่นใจ และท้ายที่สุดก็จะเชื่อมั่นในตนเอง

ถ้าใครมาถึงจุดเชื่อมั่นในตนเองได้ ทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง เพียงแต่ว่าต้องเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์จริง ๆ อย่าไปกั๊กไว้ ถ้าหากว่ามีความเชื่อมั่นในลักษณะนี้ ความดีที่เราทำ จะเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา ก็จะไม่ใช่ของยาก เพราะคนที่เชื่อมั่นก็จะทำไป ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมัวแต่ลังเลสงสัยอยู่ เอ๊ะ..จะจริงไหม ? จะได้ไหม ? กลายเป็นว่าคนหนึ่งข้าวอยู่ตรงหน้า กินได้ก็ลุยเลย อีกคนหนึ่งมัวแต่สงสัย จะกินได้ไหม ? จะเป็นพิษหรือเปล่า ? จะปวดท้อง จะถ่ายท้องไหม ? ก็ไม่ต้องกินสักที

เพราะฉะนั้น..ใครที่มัวแต่ลังเลอยู่ว่า ในส่วนของ ศีล สมาธิ และปัญญา จะช่วยให้เรามีความเจริญก้าวหน้า จนกระทั่งสามารถตัดกิเลสเข้าสู่พระนิพพานได้จริงหรือเปล่า ? ขอให้เลิกสงสัยได้แล้ว นักปฏิบัติอย่างพวกเราทั้งหมด ในเรื่องตัวสงสัยจริง ๆ จะเหลือน้อยมาก เพราะถ้าหากมีอยู่เราก็จะไม่มาทำ เพียงแต่ว่าเราทำ แต่ยังไม่เกิดผลเป็นที่ประจักษ์แก่ตา ก็ยังมีความสงสัยตะขิดตะขวงใจเล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่ใช่ตัวสังโยชน์ใหญ่ที่แท้จริง แต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น

ประเภทมาเช้า มากลางวัน มาเย็น ตัวลังเลสงสัยมีน้อยแล้ว ก็เหลืออยู่อย่างเดียว ขอสามตัวเจ๋ง ๆ ทีเถอะ แหม..ถ้าบอกได้บอกไปนานแล้ว หลวงพ่อวัดท่าซุงไม่น่ามาตัดทางทำกินเลย ถ้าไม่โดนท่านสั่งห้ามนี่ การสร้างบ้านวิริยบารมี งวดสองงวดก็ได้แล้ว ท่านบอกว่ารู้ ๆ อยู่แล้วไปทำ เท่ากับไปช่วยเขาปล้น ท่านจะปรับปาราชิกขาดความเป็นพระไปเลย เป็นพระรูปเดียวในวัดที่โดนอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกห้ามให้หวย เรื่องที่สองก็คือห้ามบอกว่าคนตายแล้วไปไหน


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงก่อนทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-01-2015 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว