กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 09-09-2018, 21:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวันก่อนไปงานหล่อพระที่วัดสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม วัดนี้แต่เดิมมาก็มีหลวงปู่เต๋แล้วก็หลวงปู่แย้มเป็นเจ้าอาวาสต่อเนื่องกันมา

ทางวัดสามง่ามเขาโด่งดังเรื่องการสร้างกุมารทอง แต่สมัยหลวงปู่เต๋ท่านไม่ได้เรียกกุมารทอง ท่านเรียกว่าตุ๊กตาทอง กุมารทองหลวงพ่อเต๋ ช่วยในเรื่องของการดูแลรักษาบ้าน ค้าขาย สร้างความเจริญรุ่งเรือง ฯลฯ ต่อมารุ่นหลวงปู่แย้มที่เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดก็ยังคงสร้างกุมารทอง

พอท่านเจ้าคุณสมัย (พระศรีธีรวงศ์) ไปเป็นรักษาการเจ้าอาวาสก็สืบสายต่อมา แต่ท่านสร้างมากกว่านั้น ท่านสร้างพระพุทธเจ้าองค์น้อย โดยใช้ชื่อว่า อภิมหากุมารสิทธัตถะ ทำทั้งทีต้องทำให้ใหญ่...ใช่ไหม ? ก็เป็นกุมารเหมือนกัน แต่เป็นอภิมหากุมาร

ท่านเจ้าคุณอาจารย์นิมนต์อาตมาไปนั่งปรก ท่านบอกว่าท่านเป็นมือใหม่หัดขับ ไม่เคยเป็นเจ้าอาวาส ไม่เคยหล่อพระเอง ท่านก็นิมนต์ไปนั่งปรก ๘ รูปด้วยกัน ท่านไล่ชื่อว่ามี ปุ่น ปั่น ยิ้ม แย้ม หนุน ดวง กำไล ไพโรจน์ อาตมาก็มาคิดว่า...แล้วกูอยู่ตรงไหนวะ ? ปรากฏว่าพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน กลายเป็นหลวงพ่อหนุน !??

คราวนี้อาตมานั่งคู่อยู่กับพระครูไพโรจน์ วัดสระพัง ก็ทำตามแบบของตัวเองคือขึ้นไปกราบพระ พระท่านสั่งให้ทำอย่างไร ให้ภาวนาอย่างไรก็ทำตามนั้น ปรากฏว่างานนี้พระท่านให้ตั้งธาตุ ๔ แล้วหนุนธาตุด้วย

เรื่องของธาตุ ๔ นี่แปลว่าเราต้องตั้งธาตุก่อน เมื่อหนุนธาตุได้สมบูรณ์ แล้วใส่อาการ ๓๒ ลงไป บรรดาวัตถุรูปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นพยนต์ เป็นกุมาร หรือว่ารูปสิงสาราสัตว์อะไร อย่างเช่น ควายธนูก็ตาม ก็จะขลังเหมือนกับมีชีวิตขึ้นมาเอง อาตมาพอตั้งธาตุหนุนธาตุเสร็จเรียบร้อย ทางด้านโน้นพระสงฆ์ก็เจริญชัยมงคลคาถาจบ

กำลังจะเริ่มเรื่องของอาการ ๓๒ ท่านเจ้าคุณอาจารย์ซึ่งถือไมค์ฯ อยู่ก็ขึ้น อัตถิ อิมัสมิง กาเยฯ พอดีเลย อ้าว...แล้วไหนบอกว่าท่านเป็นมือใหม่หัดขับ ? อาจจะเป็นเพราะว่าท่านศึกษาตำรามาแล้วก็เข้าใจก็ได้ว่าต้องใช้อาการ ๓๒ ด้วย โดยเฉพาะการสร้างรูปพระพุทธเจ้าองค์น้อย แต่ว่าไม่น้อยนะ เพราะว่าสูงถึง ๗ เมตร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-09-2018 เมื่อ 04:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 09-09-2018, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ท่านแบ่งการหล่อออกเป็น ๓ ครั้ง ประมาณเดือนธันวาคมนี้จะหล่อกลางองค์ วันวิสาขบูชาปีหน้าค่อยหล่อช่วงบนสุด อาตมาก็คงไปให้ท่านได้ไม่เกินครั้งหน้า เพราะว่าวันวิสาขบูชาที่วัดเรามีงานอยู่แล้ว

พอท่านเจ้าคุณอาจารย์ขึ้นอาการ ๓๒ พระที่ชยันโตฯ ก็นั่งเอ๋อกันหมด ท่านก็เลยต้องหยุด “เอ้า...นิมนต์ขึ้นอาการ ๓๒ หรือไม่ก็รับตามผมด้วยแล้วกัน” แล้วท่านก็ อัตถิ อิมัสมิง กาเย เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ มังสังฯ ปรากฏว่าท่านสวดเสีย ๗ จบ อาตมาก็เลยกราบพระแล้วกลับขึ้นรถเลย ไม่ต้องห่วงท่านแล้ว ไปได้แล้ว

ต้องบอกว่าครูบาอาจารย์ท่านสร้างตุ๊กตาทอง สร้างกุมารทอง ท่านเจ้าคุณอาจารย์สร้างอภิมหากุมารสิทธัตถะ ใช้คำว่าอภิมหากุมารสมปรารถนา เพราะคำว่าสิทธัตถะ แปลว่า สำเร็จประโยชน์ทุกประการ ก็คือคิดอะไรก็สมปรารถนา ท่านบอกที่ท่านสร้างสูง ๗ เมตร เพราะว่าพระพุทธเจ้าประสูติออกมาก็เดินได้ ๗ ก้าว เผยแผ่พระพุทธศาสนาไป ๗ แคว้น เสวยวิมุติสุขอยู่ ๗ x ๗ = ๔๙ วัน

ความจริงถ้าสร้างใหญ่กว่านั้นก็ไม่ไหวนะ เพราะว่าสร้างองค์พระแล้วต้องสร้างอาคารด้วย ถ้าไม่สร้างใหญ่อาคารหลังใหญ่ก็จะไม่มีที่ให้ตั้ง หรือไม่ก็ต้องจ่ายแพงมาก แต่คนไปกันเยอะน่าชื่นใจ แล้วท่านทำงานรอบคอบ ซองที่พวกเราใส่เพื่อร่วมกันหล่อพระ ท่านรับแล้วยังให้คนถ่ายรูปเอาไว้ด้วย พูดง่าย ๆ ว่ากรรมการวัดเบี้ยวไม่ได้เลย

มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ อากาศร้อนมากตอนหล่อพระ เนื่องจากว่าอาตมาขึ้นนั่งก่อนงานประมาณชั่วโมงหนึ่ง เข้าสมาธิยาวไปเลยจึงไม่รู้สึกอะไร พอคลายสมาธิ โอ้พระเจ้า...ทำไมถึงร้อนได้ขนาดนี้ อาจจะเกิดจากอากาศอบอ้าวแบบฝนจะตก และเตาหลอมก็อยู่ใกล้ แต่ตอนเข้าสมาธิอยู่ไม่รู้เรื่อง มารู้ตอนคลายออกมาแล้ว ก็เลยคิดว่าถ้าอยู่ต่อคงได้สลบไสลต่อหน้าชาวบ้านแน่ เพราะว่าอาตมาความดันค่อนไปทางต่ำ อากาศร้อนมาก ๆ บางทีเดินเซเลย อากาศร้อนทำให้เส้นเลือดขยายตัวมาก ก็ยิ่งทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-09-2018 เมื่อ 04:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 10-09-2018, 08:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าไปวัดสามง่ามเปิด Google Map บางทีก็ไม่หาให้ เขาจะพาไปวัดสามง่ามที่นนทบุรีแทน ให้พิมพ์คำว่า วัดอรัญญิการาม (สามง่าม) ถึงจะไปได้ถูก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-09-2018 เมื่อ 10:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 10-09-2018, 08:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทางสำนักพุทธฯ ออกระเบียบมาชัดเจนว่าพระที่สึก เจ้าอาวาสจะยึดบัตรประชาชนที่เป็นพระไม่ได้ เขาบอกว่าบัตรประชาชนออกให้ใครก็เป็นสมบัติของคนนั้น ทางวัดไม่มีสิทธิ์ไปยึด สรุปง่าย ๆ ว่ายึดได้แต่หนังสือสุทธิเหมือนเดิม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-09-2018 เมื่อ 13:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 10-09-2018, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้ทองผาภูมิฝนตกทั้งวันทั้งคืน ถ้าวันไหนไม่สบายไม่อยากเปียกก็ต้องโวยวายกัน แล้วก็จะเว้นให้ตอนบิณฑบาตพักหนึ่ง ปกติแล้วอาตมาจะปล่อย อยากเปียกก็เปียกไป แต่บางวันอาการไข้ทำให้ไม่ไหวจริง ๆ ก็ต้องโวยกันบ้าง ตกทั้งวันทั้งคืน พอไปที่อื่นที่แห้ง ๆ แล้วรู้สึกดีจริง ๆ เลย

เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ประชุมเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล แล้วก็เลขานุการ ตอนนั่งคุยกันก่อนเวลา เจ้าคุณวีระท่านบอกว่า ผมอุตส่าห์ทำหนังสือยื่นไป ๒ ครั้ง ๓ ครั้งแล้ว ของบประมาณมาขุดคลองส่งน้ำ แต่ทางราชการไม่เคยให้งบสักที กลับขุดคลองส่งน้ำของเราเข้าอู่ทองไปให้สุพรรณบุรีใช้ เขาบอกว่าท่านบรรหารขอไว้ แต่ของอำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญกลับไม่มีน้ำจะใช้กัน

เขาเอาน้ำจากอ่างเก็บน้ำไป แทนที่จะส่งมาให้ทางด้านห้วยกระเจา-เลาขวัญ ดันส่งไปสุพรรณบุรี ถ้ามีคลองซอยในพื้นที่ น้ำก็จะไปได้ทั่วถึง แต่คราวนี้คลองซอยพอได้งบประมาณมาดันทำไปให้สุพรรณบุรี ต้องบอกว่าอิทธิพลของท่านบรรหารนี่สุดยอด

ท้ายสุดอาตมาก็เลยบอก เอาอย่างนี้สิ พวกเราพระสังฆาธิการทั้งหมดของกาญจนบุรี ช่วยกันสร้างคลองสักสายให้ระบือลือลั่นไปเลย ปรากฏมีคนคัดค้านว่า ไม่มีทางครับ ขออนุญาตใครเขาก็ไม่ให้หรอก เพราะว่าถ้างบประมาณมา เขาก็ต้องเอาเป็นของเขา ไม่ใช่ของพระ เรื่องที่เขาจะได้งบประมาณ เขาไม่มีทางปล่อยให้พระทำหรอก เราจะทำเราก็ต้องขออนุญาตเพื่อที่จะทำผ่านพื้นที่ของแต่ละอำเภอ เขาไม่อนุญาตหรอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 08:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 10-09-2018, 19:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เจ้าคุณวีระบอกว่า เดี๋ยวผมจะปลุกระดมชาวบ้านเดินขบวน ก็เลยบอกท่านว่า ถ้าทำอย่างนั้นในตอนนี้จะเป็นการซ้ำเติมรัฐบาลนะ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ ของเราเดี๋ยวจะโดนพิจารณา ท่านบอกว่า ถ้าไม่ทำอย่างนั้นข้าราชการเขาก็ไม่สนใจ เขาเอาแต่ตัวเขาเอง ไม่ได้สนใจเลยว่าชาวบ้านเดือดร้อน

คราวนี้อาตมาไปนึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ งานทุกอย่างที่พระองค์ท่านทำ ก็คือแก้เรื่องปากท้องและความเดือดร้อนของชาวบ้าน แต่ข้าราชการนี่ทำทุกอย่างเพื่อปากท้องของตัวเอง ทำอย่างไรถึงจะมีงบประมาณมาแบ่งกัน

เราต้องเสียสละเวลาสัก ๓๐ ปีเพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ ก็คืออาจจะต้องถึงขนาดเขียนหลักสูตรใหม่เลย ไล่ตั้งแต่เด็กอนุบาลขึ้นมาเลย ทำอย่างไรที่จะให้เขามีจิตสาธารณะ เสียสละเพื่อคนอื่น เสียสละเพื่อส่วนรวม ก็คือ "โครงการโตไปไม่โกง" นี่แหละ แต่ไม่ใช่มาประเภทกรอกหูคนโต ต้องเล่นตั้งแต่เล็ก ๆ ตั้งแต่บ้านเลย ไม่ใช่พอถึงเวลา เอ้า...ถ้าเด็กสูงไม่ถึง ๑๒๐ เซนติเมตรไม่ต้องจ่ายค่าตั๋ว พอไปถึงพ่อแม่ก็บอกว่า "ลูกย่อตัวลงหน่อยสิ" อ้าว...บรรลัยแล้ว พ่อแม่สอนลูกโกงตั้งแต่เล็กแล้ว

ถ้าเป็นไปตามหลักสูตร อย่างน้อยรุ่นแรก ๆ ก็ต้องดัดจริตเป็นคนดีให้ได้ หลังจากพื้นฐานแต่ละรุ่นดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ของเราถ้าไม่เริ่มก็ไม่มีทางที่จะดีได้ เพราะว่าคนไทยเรามีนิสัยทำอะไรตามใจคือไทยแท้ แล้วตามใจนี่ส่วนใหญ่ก็ไม่ดูกาลเทศะด้วย เมื่อวานนี้ก็เกือบจะเกิดอุบัติเหตุ ขับรถอยู่ ๆ เขาก็หักขวับเข้ามาในเลนของเราหน้าตาเฉย แล้วระยะกระชั้นชิดด้วย ไฟเลี้ยวก็ไม่เปิด ของเราก็ประเภทบีบแตรลั่นไปสิ คือถ้ามาด้วยความเร็วเท่ากันก็พอทน นี่เข้ามาแล้วมาคลานตรงหน้า ต่อให้ของเราวิ่งมาแค่ ๘๐ ก.ม./ช.ม. ก็จะโดนชน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 08:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 10-09-2018, 19:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ประเทศเราไม่เคยชินกับการทำตามระเบียบวินัย ประเภทคนรวยย่อมมีสิทธิ์ ที่เขาคุยกันว่า ถ้าผ่านด่านตำรวจให้เปิดกระจกลงไป แล้วตะโกนใส่หน้าตำรวจ บอกว่า “กูรวยนะ” ก็จบ คนที่พูดแบบนี้นี่ดูถูกตำรวจมาก

ระยะหลังนี่เวลาขับรถผ่านด่านตรวจ ส่วนใหญ่แล้วเขาจับความเร็ว ของอาตมาน้อยครั้งที่จะโดน เพราะว่าวิ่งไม่เคยเกิน ๑๐๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ ๘๐-๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง พอถึงเวลาก็เห็นตำรวจเขามีโพย
ถืออยู่ แสดงว่าพวกวิทยุมาบอกแล้วว่า เลขทะเบียนไหนขับเร็ว ถ้าเจอเมื่อไรนี่ตำรวจเขาชี้มือให้ออกข้างไปเลย ไปให้ปรับเสียดี ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 08:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 10-09-2018, 20:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สำหรับพระอื่นถ้าได้รับเงินที่ระบุว่าส่วนตัว ก็คาดว่าส่วนใหญ่ท่านคงจะรู้สึกดี แต่อาตมานี่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนตั้งแต่วันแรกที่บวช ท่านบอกว่า "ได้รับเงินมาอย่าคิดว่าเป็นส่วนตัว เพราะว่าเราได้รับมาในฐานะของพระสงฆ์ จะใช้ในสิ่งที่สมควรแก่สมณสารูป อย่างเช่นว่า เป็นค่ารถ ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล หรือช่วยเหลือผู้ที่ตกระกำลำบาก ถ้าส่วนที่เหลือก็ผลักเข้ากองกลาง เพื่อเพิ่มบุญให้กับคนถวายเขาด้วย"


ก็เลยกลายเป็นว่าเงินส่วนตัวสำหรับอาตมาใช้ยาก เงินสงฆ์ใช้ง่ายกว่า สร้างอะไรก็คว้าเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 08:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 10-09-2018, 20:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนพุทธาภิเษกเหรียญท้าวเวสสุวรรณ ท่านบอกว่าภัยธรรมชาติจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าโลกจำเป็นต้องปรับสมดุลให้กับตัวเอง สมดุลเมื่อไรก็จะสงบไประยะหนึ่ง จนกว่าที่จะเสียสมดุล ภัยธรรมชาติก็จะเริ่มแรงขึ้นมาอีก นี่แสดงว่าช่วงท้าย ๆ กัปที่โดนทำลายนั่น สมดุลธรรมชาติต้องเสียหายรุนแรงมาก

ท่านก็เลยบอกว่า งานนี้จะกันพวกภัยพิบัติจากธรรมชาติโดยตรง ถ้าหากว่าวาระหนักมากก็จำเป็นที่จะต้องให้ทรัพย์สินเสียหายบ้าง แต่จะไม่ให้เสียชีวิต คาดว่ารอดไปได้ก็คงหาใหม่ได้นะ

ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่า งานอะไร ๆ ก็ไปหมกให้ท่าน อาตมาเองยังพกเหรียญติดตัวเลย เดี๋ยวจะหาว่าสร้างแล้วไม่ใช้เอง พอดีเป็นเหรียญเงินเหรียญแรกที่เขาทำเป็นตัวอย่างให้ดู ก็เลยรับมาแล้วบอกเขาว่าไม่คืนนะ เอาติดตัวไปเข้าพิธีเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 08:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 10-09-2018, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช้างเป็นสัตว์แต่ทำไมจึงดูสง่า ?
ตอบ : สัตว์ใหญ่ส่วนใหญ่แล้วก็มาในลักษณะของพระโพธิสัตว์ โดยเฉพาะว่ามีเทวดาหรือมีผีคอยรักษา ก็ต้องไว้สง่าของตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 08:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 10-09-2018, 20:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไถไม้ดอกทิ้ง ต้องไปปลูกใหม่)
ตอบ : จะปลูกขึ้นหรือเปล่า? เพราะว่ายังไม่มีใครปลูก ที่มีอยู่นั่นขึ้นเป็นธรรมชาติอย่างเดียว ดันทะลึ่งไปไถออก คือต้นนี้เขาเรียกว่าเทียนกาญจน์ มีอยู่เฉพาะที่กาญจนบุรีแห่งเดียว และแห่งเดียวที่มีก็คือวัดท่าขนุน ดันไปไถทิ้งทั้งแผงเลย ไม่ได้สั่งแต่ไปทำ บอกว่าจะทำที่จอดรถสำหรับคนที่ขึ้นไปไหว้พระเจดีย์ อาตมาบอกว่าไม่ต้องทะลึ่งเลย

เทียนกาญจน์เป็นไม้ประจำถิ่น พวกนักพฤกษศาสตร์เข้าไปตรวจสอบแล้ว เขายืนยันว่ามีที่เดียว ไม้บางอย่างถ้าออกไปผิดที่แล้วก็ไม่ขึ้น สิ่งแวดล้อมไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ ก็เลยเพิ่มงานโดยใช่เหตุ ไปไถออก อาตมาก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ออกแล้วก็แล้วกัน คราวนี้ทางนั้นเขาอุตส่าห์ไปปลูกคืน ซึ่งก็ไม่แน่หรอกว่าปลูกแล้วจะขึ้นหรือเปล่า ?

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 09:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 10-09-2018, 20:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ใช่มีดหมอหลวงปู่บุญไหมครับ ?
ตอบ : เก่าดี แต่หาความเด่นไม่ได้เลยว่าเป็นของสำนักไหน รอยจารก็ไม่ใช่ของหลวงปู่บุญ มีดหมอหลวงปู่บุญส่วนใหญ่ถ้าไม่ทำเป็นด้ามฤๅษี ก็เป็นด้ามท้าวเวสสุวรรณ แต่นี่เป็นพรหมสี่หน้า พรหมสี่หน้าส่วนใหญ่เป็นสายอยุธยา อย่างหลวงพ่อกลั่น แต่หลวงพ่อกลั่นก็ไม่เคยได้ยินว่าทำมีดหมอ คือของอย่างนี้จะต้องเอาเป็นสากลนิยม ก็คือคนทั่วไปเขารับได้ ไม่ใช่ใช้วิธีจับพลังหรือทิพจักขุญาณ แบบนั้นคนอื่นเขารับไม่ได้

เรื่องของวัตถุมงคลต้องแท้สากลนิยม คือเอาไปให้ใครดู ผู้ที่มีความชำนาญเขาจะบอกอย่างเดียวกัน ไม่ใช่แท้ของเราคนเดียว ถ้าแท้ของเราคนเดียวนั่นไปเล่นที่ไหนก็ไม่ได้หรอก เก็บไว้ภูมิใจคนเดียวก็แล้วกัน แต่ว่าเล่มนี้เก่าแน่นอน เพราะว่าไม้แห้งจนหมดยางเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 09:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 10-09-2018, 21:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตะกรุดของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม มีแบบไหนบ้างครับ ?
ตอบ : มีหลายอย่าง มีมหาปราบ มีมหาระงับ ฯลฯ ที่เขาหาเขาหามหาระงับกัน

มีอยู่คนหนึ่งเขาแซวมาว่ามีตะกรุดกันตำรวจไหม ? ก็เลยบอกถ้าอยากจะได้ประเภทนั้น คุณต้องศึกษาประวัติหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม วัตถุมงคลของหลวงพ่อคงลูกศิษย์ได้ไปก็มักจะไปเป็นโจร เพราะว่ากันตำรวจได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 09:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 11-09-2018, 16:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ทองผาภูมิของอาตมา น้ำในเขื่อนใกล้จะเต็ม ๑๐๐ % แล้ว ทางเขื่อนเทน้ำทิ้งยาวมาเลยเป็นอาทิตย์ ๆ แล้ว มีแต่เพิ่มไม่มีลด แปลว่าน้ำที่ลงอ่างมากกว่าน้ำที่เปิดทิ้งไป

ช่วงที่ผ่านมาประมาณไม่ถึง ๒๐ วัน มีรัฐมนตรีท่านหนึ่งไปตรวจเขื่อน แล้วก็ไปสั่งผู้อำนวยการเขื่อนว่า ต้องเปิดน้ำทิ้งเท่านั้นเท่านี้ ยังดีที่ผู้อำนวยการเขื่อนท่านไม่บ้าจี้ ไม่ใช่ประเภทเห็นว่ารัฐมนตรีสั่งก็ทำตาม ทางเขื่อนเขาวางแผนระบายน้ำของเขาอยู่ ก็ทำตามแผนของเขาไป

ถ้าโยมยังจำปี ๒๕๕๔ ได้ อันนั้นที่น้ำท่วมเกิดจากรัฐมนตรีสั่ง เพราะฉะนั้น...อะไรที่ไม่รู้จริงแล้วไม่ใช่ความชำนาญ ต่อให้ใหญ่แค่ไหนอย่าทะลึ่งไปทำ ถ้าหากว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ฉลาด ก็จะขอดูแผนบริหารจัดการของเขา ถ้าหากว่าไม่มั่นใจก็ขอคำอธิบายเพิ่มเติมหน่อย ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ถูกควรอย่างไรหรือไม่ แล้วหลังจากนั้นก็ปล่อยให้เขาทำ อย่าไปล้วงลูก เพราะว่าล้วงสิ่งที่เราไม่มีความเข้าใจ ไม่มีความชำนาญ โอกาสที่พลาดจะมีสูงมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 17:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 11-09-2018, 16:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปี ๒๕๕๔ ของเรานั้นพลาดหลายส่วนด้วยกัน ส่วนแรกก็คือไม่มีความเข้าใจสภาพรับน้ำของเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนที่ประหลาดมาก เป็นเขื่อนที่อยู่ในพื้นที่ที่เขาเรียกว่าเงาฝน มรสุมมาจะปะทะเทือกเขาถนนธงชัยแล้วเหินลอยไปลงที่อื่นหมด เพราะฉะนั้น...น้ำของเขื่อนภูมิพลนี่กักไปเถอะ ชาตินี้ทั้งชาติจะเต็มหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?

ที่เห็นว่าใกล้เต็มแล้วรัฐมนตรียุคนั้นสั่งให้ระบายทิ้งแบบไม่บันยะบันยัง นั่นเขาเก็บมาหลายสิบปี แปลว่าอีกหลายปีก็ยังไม่เต็ม จากวันนั้นจนวันนี้ก็ยังไม่เต็ม ป่านนี้เขื่อนภูมิพลก็อยู่ที่ประมาณ ๖๐% นั่นคือการที่ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ แล้วไปสั่งการ

ประการที่สองก็คือ แทนที่จะปล่อยน้ำให้ไหลผ่านกรุงเทพฯ พรวดเดียวไปเลย อย่างเก่งก็ท่วมสูงสักศอกหนึ่ง หรือไม่เกิน ๒ ศอก ไม่นานก็หมด เราดันไปกั้นไว้ไม่ให้น้ำเข้า ลองคิดดูว่าโดยธรรมชาติแล้วน้ำจะต้องหลากผ่านกรุงเทพฯ เพื่อลงทะเลโดยเฉพาะลงที่บางขุนเทียน เป็นความกว้างหลายกิโลเมตร แล้วโดนบังคับให้ลงคลองเล็ก ๆ จะไม่ให้ท่วมนานเป็นเดือนก็เป็นไปไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 17:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 11-09-2018, 17:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ประการต่อไปคุณบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับไปแล้ว รักคนสุพรรณมาก โดยเฉพาะชาวนาสุพรรณห้ามน้ำท่วมอย่างเด็ดขาด ดังนั้น..คลองซอยหรือว่าแม่น้ำทุกสายที่เข้าสู่สุพรรณบุรี ประตูน้ำถูกปิดหมด

ในเมื่อไม่สามารถอ้อมเข้าทางสุพรรณบุรี เพื่อลงแม่น้ำท่าจีน-แม่กลองได้ ไม่สามารถลงเจ้าพระยาแล้วระบายออกได้ คนกรุงเทพฯ ก็รับเละ ได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีก

ธรรมชาติเขาให้คล้อยตาม ไม่ใช่ให้ไปปิดกั้น ถ้าไปปิดกั้นแล้วมนุษย์จะรู้ว่าธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเขื่อนยักษ์ที่ประเทศจีน ถ้าเอาไม่อยู่เมื่อไรก็ฟ้าถล่มดินทลาย เพราะว่าปริมาณน้ำที่กักเอาไว้นี่ประมาณ ๑ ใน ๑๐ ของโลก

บ้านเราส่วนใหญ่แล้วนักการเมืองไม่ได้ทำงานเพื่อชาวบ้าน มักจะทำเพื่อพวกพ้องและตัวเอง ก็เลยไม่มีการวางแผนระยะยาวในการบริหารประเทศ อย่าบอกนะว่าเรามีแผนยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี แผนยุทธศาสตร์ ๒๐ ปีที่วางเอาไว้นั่นวางเพื่อให้ตัวเองหรือพรรคพวกอยู่ ไม่ได้วางไว้บริหารเพื่อให้ชาวบ้านเขาอยู่ดีกินดี

ขนาดอาตมาไม่ค่อยมีเสียงพูดเท่าไร ยังให้ร้ายรัฐบาลอยู่เรื่อยเลย สมควรโดนปรับทัศนคติ...! ก็ในเมื่อรัฐบาลเขายืนยันว่าทุกอย่างดีหมด เศรษฐกิจเลิศหรูสุด ๆ ไม่เห็นหรือว่ารัฐมนตรีรวยทุกคน เพิ่งเช่าซื้อรถประจำตำแหน่งกันไปหยก ๆ แล้วจะมาบ่นว่าบริหารไม่ดีได้อย่างไร ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 17:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 11-09-2018, 17:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อวันก่อนนั่งแท็กซี่ รถติดมาก ถามถึงสาเหตุเขาบอกว่าเป็นเพราะสร้างรถไฟฟ้าหลายสายพร้อมกัน ก็เลยถามแท็กซี่ว่า ถ้าสร้างรถไฟฟ้าหลายสายพร้อมกัน แล้วถ้าเกิดเสร็จพร้อมกันนี่แท็กซี่จะเดือดร้อนไหม ? เพราะว่าคนไปขึ้นรถไฟฟ้ากัน

แท็กซี่บอกว่า "คนอื่นคิดอย่างไรไม่รู้นะ แต่สำหรับผมแล้วไม่เดือดร้อนหรอก" แท็กซี่บอกว่า "คนไทยติดหรู ติดสบาย รถไฟฟ้าไม่สามารถส่งถึงบ้านได้ รถอะไรที่ส่งถึงบ้านเขาก็เรียกรถอันนั้นแหละ" ถามว่าโยมกล้าฟันธงขนาดนั้นเลยหรือ ? "กล้าครับ..ก็ขนาดกู้เงินเขามาเพื่อที่จะเอามาใช้ แล้วก็ถ่ายรูปไปลง Facebook อวดชาวบ้านเขายังเอา" เขาว่าอย่างนั้น

"เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องห่วงแท็กซี่อย่างพวกผมหรอก รับประกันว่าไม่ตกงาน ต่อให้สร้างรถไฟฟ้าให้ทั่วกรุงเทพฯ ผมก็ไม่ตกงาน เหตุที่ไม่ตกงานนอกจากคนไทยจะติดสบายแล้ว ค่ารถไฟฟ้ายังแพงมาก เขาบอกว่าถ้าสัก ๒-๓ คนนี่นั่งรถแท็กซี่คุ้มกว่าเยอะ แล้วรถแท็กซี่ส่งถึงบ้านด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2018 เมื่อ 17:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 11-09-2018, 19:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ระยะแรก ๆ เลยที่อาตมาปฏิบัติธรรม ไม่รู้จักพระนิพพาน ช่วงนั้นทางบ้านสอนให้อธิษฐานว่า ถ้าเกิดใหม่ขอให้สวย ๆ ขอให้รวย ๆ ขอให้ได้พบพระศรีอาริย์ อาตมาก็อธิษฐานตามเขาอยู่หลายปี เพราะว่าผู้ใหญ่สอน คราวนี้พอรู้จักหลวงปู่หลวงพ่อที่เคารพนับถือ แต่ละท่านก็มาสายอภิญญากันหมด

ช่วงนั้นวัดแถวที่ใกล้บ้าน ถ้าไปทางบ้านแม่ก็จะมีหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ถ้ามาทางบ้านพ่อก็มีหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างกาญจนบุรีก็มี หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า ก็เลยกลายเป็นว่าปฏิบัติธรรมระยะแรก ๆ อาตมาไม่ได้ต้องการพระนิพพาน เพราะว่าไม่รู้จักพระนิพพานเลย ปฏิบัติธรรมเพราะอยากเก่ง เหมือนกับหลวงปู่หลวงพ่อที่ทางบ้านเขาเคารพนับถือกัน แล้วสมัยนั้นการไปขอวัตถุมงคลจากหลวงปู่หลวงพ่อแต่ละท่านก็ไม่ใช่ง่าย ๆ เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือที่จะผลิตทีละมาก ๆ แบบสมัยนี้ก็ไม่มี ถึงเวลาไปขอตะกรุดท่านสักดอกหนึ่ง เบี้ยแก้สักตัวหนึ่งก็รอกันไปเถอะ จนกว่าจะหาวัสดุได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2018 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 11-09-2018, 19:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยนั้นอาตมาเรียน ป.๕ หรือ ป.๖ ก็มีใบบอก สมัยนี้เรียกว่าโบรชัวร์ งานหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ใบบอกมีวัตถุมงคลให้ทำบุญ ราคาแพงสุด ๆ ก็คือองค์ละ ๒๐ บาท สมัยนี้ราคาเป็นแสนหรือหลาย ๆ แสน เพื่อนทั้งห้องช่วยกันเรี่ยไรเงินทำบุญ ได้พระมา ๒ องค์ ต้องมาจับสลากกัน จะว่าไปราคาสมัยนั้นก็ไม่ได้ถูก เพราะอาตมาจำได้ว่าก๋วยเตี๋ยวชามละบาทเดียว พระองค์หนึ่ง ๒๐ บาทสมัยนั้นก็ก๋วยเตี๋ยว ๒๐ ชามสมัยนี้ ก็ประมาณ ๔๐๐ บาท

กิตติศัพท์เกียรติคุณในสมัยนั้นต้องยกให้หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ดังที่สุดทางด้านนครปฐม หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ดังที่สุดของสุพรรณบุรี

คำว่า ดัง ในสมัยโน้นของอาตมาหมายความว่าเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ เนื่องจากว่าหลวงปู่หลวงพ่อวัดข้าง ๆ บ้านเลย ก็เห็นท่านเก่งเสียจนกระทั่งอาตมาคิดว่า ถ้าบวชพระนี่ต้องเก่งแบบนี้ทุกรูป เพราะว่าทุกท่านล้วนแต่มีความรู้ความสามารถ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน เพียงแต่ว่าอาจจะดังเฉพาะในถิ่นของตัวเอง แต่ถ้าหากว่าอย่างหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่ามนี่ท่านดังทั่วประเทศ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2018 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 11-09-2018, 19:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,975 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"กว่าที่อาตมาจะรู้จักคำว่าพระนิพพานก็โน่น ปี ๒๕๑๘ ตอนนั้นกำลังเป็นวัยรุ่นอายุ ๑๖ ปี โยมพ่อตาย ด้วยความที่ดูแลโยมพ่อมา ๖ ปีเต็ม ๆ พี่ชายกลัวว่าจะเสียใจที่พ่อตาย ก็เลยเอาหนังสือประวัติหลวงพ่อปานกับคู่มือปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อวัดท่าซุงไปให้

นั่นแหละถึงได้รู้จักว่าพระนิพพานเป็นอย่างไร ก็เพิ่งจะรู้ว่าในโลกนี้มีคำว่า "พระนิพพาน" ด้วย แล้วพระที่บวชก็ควรที่จะมุ่งพระนิพพานกัน แต่เนื่องจากว่าอาตมาเองอยู่ในบริเวณที่พระเจ้าท่านค่อนข้างจะเคร่งครัด เพราะว่ามีพระวัดป่าสายหลวงปู่มั่นอยู่ด้วย แล้วก็หลวงปู่อินทร์ วัดสระพัง ท่านก็ดุมาก พระบวชเข้าไป ถ้าทำตัวไม่เหมือนพระ ท่านตีด้วยหางกระเบนขนาดต้องกระโดดหน้าต่างหนีเลย

เด็กสมัยนี้ไม่รู้ฤทธิ์ว่าหางปลากระเบนตีแล้วสะใจขนาดไหน หางกระเบนก็คือหางของปลากระเบน ปลาทะเลนี่แหละ ตัดหางมาตากแห้งไว้ หางปลาจะสาก ๆ เหมือนกับมีทรายโรยอยู่ ตีเมื่อไรเนื้อแตกเมื่อนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2018 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว