กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-07-2024, 20:03
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,579
ได้ให้อนุโมทนา: 218,381
ได้รับอนุโมทนา 761,611 ครั้ง ใน 37,251 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-07-2024, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,259
ได้ให้อนุโมทนา: 153,666
ได้รับอนุโมทนา 4,438,690 ครั้ง ใน 34,863 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ หวังว่าคงไม่มีใครเจ็บไข้ได้ป่วย สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ดูแลหลวงปู่มหาอำพัน - ท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) ที่วัดเทพศิรินทราวาส ถ้าท่านเปียกฝนกลับมา ท่านจะเอาน้ำล้างศีรษะทุกครั้ง ท่านบอกว่าพ่อแม่สอนเอาไว้ คล้ายกับว่าถ้าล้างน้ำฝนออกไปแล้วจะไม่เป็นหวัด..ประมาณนั้น ส่วนกระผม/อาตมภาพเอง ถนัดในเรื่องกลับมาเปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อนที่เปียกแล้วก็ฉันยามากกว่า

สำหรับวันนี้ที่เดินทางไปก็คือไปเยี่ยมการปฏิบัติธรรมของพระนวกะในอำเภอต่าง ๆ มีของอำเภอหนองปรือ จัดที่วัดห้วยหวาย หมู่ที่ ๓ ตำบลหนองปลาไหล อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนของคณะสงฆ์อำเภอพนมทวน อำเภอบ่อพลอย อำเภอท่ามะกา อำเภอเลาขวัญ และอำเภอห้วยกระเจา จัดรวมกันที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์

ความจริงในแต่ละสถานที่เขามีพระวิปัสสนาจารย์คอยให้คำแนะนำ และนำในการปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ว่าบรรดาพระวิปัสสนาจารย์นั้น ส่วนใหญ่แล้วจบปริญญาโท หรือปริญญาเอกสาขาวิปัสสนาภาวนามา ก็มักจะ "แก่วิชา" ก็คือบรรยายเนื้อหาวิชาการที่พระใหม่ฟังไม่รู้เรื่อง พูดง่าย ๆ ว่าถ้าไม่โดนบังคับให้มาปฏิบัติธรรม ก็คงจะหนีกลับวัดกันหมดแล้ว..! ที่กระผม/อาตมภาพไป ก็เพื่อที่จะพูดให้พระใหม่เขาเข้าใจว่า การปฏิบัติธรรมนั้นมีอานิสงส์อย่างไร เราที่เป็นพระใหม่ ถ้าปฏิบัติไปแล้วจะได้อะไรบ้าง โดยใช้ภาษาง่าย ๆ และยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน

เรื่องพวกนี้จะโทษบรรดาพระวิปัสสนาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่ได้ แม้กระทั่งตอนที่ยังสอนหนังสืออยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดีก็ดี วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิก็ตาม กระผม/อาตมภาพต้องรับหน้าที่ประธานพระวิปัสสนาจารย์ทุกครั้ง ซึ่งความจริงถ้าตามตำแหน่งที่แต่งตั้งไว้ก็คือรองประธานพระวิปัสสนาจารย์ โดยมีท่านเจ้าคุณอาจารย์พระศรีวิสุทธิวงศ์, ดร. (สุวิทย์ ปวิชฺชญฺญู ป.ธ.๙) เป็นประธานในการนำปฏิบัติธรรม แต่ท่านมักจะถวายหน้าที่ให้กระผม/อาตมภาพทำแทน

เนื่องเพราะว่าบรรดาผู้ที่เข้าปฏิบัติธรรมนั้นก็คือนิสิต ไม่ว่าจะเป็นระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท จนถึงปริญญาเอก เขาทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาเพราะหลักสูตรบังคับ ไม่ได้มาเพราะความศรัทธาในการปฏิบัติโดยตรง ส่วนบรรดาพระวิปัสสนาจารย์นั้นไปเรียนปริญญาโทวิปัสสนาภาวนา หรือว่าเรียนปริญญาเอกวิปัสสนาภาวนาด้วยความศรัทธาเฉพาะตัว แล้วก็เอากำลังใจของตัวเองไปเทให้กับนิสิตที่โดนหลักสูตรบังคับมา พูดง่าย ๆ ว่าทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะยากได้ เหมือนกับที่ตัวเองโดนมา แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าบรรดานิสิตทั้งหลายจะยอมทำตามโดยดีหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2024 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-07-2024, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,259
ได้ให้อนุโมทนา: 153,666
ได้รับอนุโมทนา 4,438,690 ครั้ง ใน 34,863 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลายครั้งที่กระผม/อาตมภาพมีธุระ ทำให้ไปถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมช้า พอไปถึงครูบาอาจารย์ก็แห่มาฟ้องว่าบรรดานิสิตดื้อแบบนั้น ดื้อแบบนี้ นิสิตก็แห่มาล้อมครูบาอาจารย์ไว้อีกชั้นหนึ่ง บอกว่าครูบาอาจารย์สอนผิดวิธี ไม่เหมือนกับที่พระอาจารย์เล็กสอน ก็คือสอนให้ยากที่สุดเท่าที่จะยากได้ บางครั้งกระผม/อาตมภาพรำคาญ ก็ไล่เตลิดเปิดเปิงไปทั้งอาจารย์ทั้งลูกศิษย์ บอกว่าเดี๋ยวจะ "เคลียร์" ให้เอง..!

โดยเฉพาะวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมินั้น กระผม/อาตมภาพบางทีก็ไปวางแบบให้เขาเป็นเวลา ๓ วัน ๔ วัน แล้วก็ให้เขาปฏิบัติกันเอง ก็คือให้พระวิปัสสนาจารย์ที่เหลืออยู่ทำตามแบบที่กระผม/อาตมภาพได้วางเอาไว้ แล้วตนเองก็เดินทางไปงานของตน ยังไปได้ไม่เท่าไรเพื่อนฝูงก็โทรมา บอกว่า "ตอนนี้เละเป็นขี้แล้วครับ นิสิตลุกขึ้นด่าพระวิปัสสนาจารย์กลางศาลาปฏิบัติธรรมเลย..!" ถามว่า "ทำไม ?" เขาบอกว่า "อาจารย์ผู้รับผิดชอบ แทนที่จะทำตามที่พี่เล็กวางแบบไว้ กลับไปโทรศัพท์ขออาจารย์จากส่วนกลางที่จบปริญญาโทวิปัสสนาภาวนามานำ ก็บรรลัยละครับท่าน..!"

หลายท่านที่เคยปฏิบัติธรรมในส่วนที่กระผม/อาตมภาพนำนิสิตปฏิบัติธรรม จะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพไม่เคยบังคับให้นิสิตมาตามเวลา เริ่มปฏิบัติธรรมตี ๓ ก็ลงไปตั้งแต่ตี ๒ ครึ่ง เล่าประสบการณ์ปฏิบัติธรรมไปเรื่อย ๆ คนที่อยากฟังก็ค่อย ๆ มาเอง พอถึงเวลาปฏิบัติธรรมตอนตี ๓ ทุกคนมาพร้อมแล้ว ไม่เห็นต้องไปบังคับให้มาเลย

หลังจากนั้นพอเริ่มกรรมฐาน ก็จะใช้วิธีการสอนแบบที่นำผู้ปฏิบัติธรรมที่วัดเรา เพราะว่าช่วงเช้าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ถ้ากำลังใจสงบระงับลงได้ก็จะอยู่สบายไปทั้งวัน ในเมื่อทุกคนรับไปเต็มที่ในช่วงเช้า เวลาที่เหลือก็จะมีความสุขอยู่กับอารมณ์ใจของตนเอง ใครจะเป็นครูบาอาจารย์นำปฏิบัติตอนนั้น เขาก็ไม่ว่าแล้ว

เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพก็ทำให้ดูหลายต่อหลายปี โดยบอกกล่าวกับท่านทั้งหลายเหล่านั้นอย่างชัดเจนว่า กระผม/อาตมภาพไม่มีเวลามาดูแลให้ทุกปี ให้ศึกษาแนวทางแบบนี้เอาไว้แล้วทำตาม ก็จะได้ผลเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าแต่ละท่านถนัดแต่วิธีการและแนวทางของตนเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เวรกรรมก็ไปตกอยู่กับนิสิต แต่ว่าบรรดานิสิตก็ยังดี โดยเฉพาะปริญญาตรีอย่างน้อยก็เรียนอยู่ ๔ ปี พูดง่าย ๆ ว่าผ่านกรรมฐานประจำปีมาหลายหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2024 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-07-2024, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,259
ได้ให้อนุโมทนา: 153,666
ได้รับอนุโมทนา 4,438,690 ครั้ง ใน 34,863 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่บรรดาพระนวกะเพิ่งจะบวช แล้วก็ไม่ได้บวชด้วยศรัทธา บวชตามประเพณีบ้าง บวชแก้บนบ้าง บวชด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันไป บรรดาพระเถระทั้งหลายก็เห็นว่า "บวชมาแล้วอย่าให้เสียเปล่า" จึงจัดให้มีโครงการอบรมกรรมฐานขึ้นมา แล้วก็ไปเจอพระวิปัสสนาจารย์แบบโหดที่ว่า แล้วคิดว่าบรรดาพระนวกะจะได้ประโยชน์อะไรจากการปฏิบัติธรรม ? นอกจากมองโลกในแง่ร้าย ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาทนทำเรื่องพวกนี้ด้วย

โดยเฉพาะต้องมาทนฟังสารพัดเรื่อง ที่เป็นภาษาซึ่งตนเองไม่เข้าใจ อย่างเช่นว่าอารมณ์อัพยากฤตเป็นอย่างไร ? นามรูปปริจเฉทญาณเป็นอย่างไร ? ปัจจยปริคคหญาณเป็นอย่างไร ? กระผม/อาตมภาพฟังเองยังจะบ้า..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ที่ต้องลำบากเดินทางไปไกล ๆ ทีหนึ่ง ๒๐๐ กว่ากิโลเมตร ไปกลับก็ ๔๐๐ - ๕๐๐ กิโลเมตร ก็เพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์บรรดาพระใหม่ อย่างน้อย ๆ ก็ได้แนวทางที่ถูกต้องไป ถ้ารู้จัก "เอาหูไปนาเอาตาไปไร่" พระวิปัสสนาจารย์จะสอนอย่างไร เราก็ปฏิบัติตามแนวทางที่ได้ไปก็จบแล้ว..!

ดังนั้น..บางท่านจะเห็นว่า แม้จะเปียกปอนมาจากการบิณฑบาต ถ้าไม่มาลาเรียขึ้นก็ตะคริวจะรับประทาน แต่กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบเดินทางไปหลังจากที่เปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อนเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าแต่ละอำเภอมีพระบวชใหม่ไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าเขาทั้งหลายเหล่านั้นสามารถอยู่ต่อได้ ต่อให้มีสัก ๕ เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี
ท่านทั้งหลายเหล่านี้เมื่อได้แนวทางที่ถูกต้องไป ปฏิบัติแล้วมีผล เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบวชต่อขึ้นมา เราก็จะได้พระภิกษุสงฆ์เอาไว้สืบทอดพระพุทธศาสนา แต่ถ้ารำคาญแทบจะหนีกลับวัดตั้งแต่วันแรก ก็แปลว่าโครงการต่าง ๆ ที่ทุ่มเทงบประมาณลงไปนั้น ทำไปก็ไร้ประโยชน์ แถมยังทำให้เขามองในแง่ร้ายอีกด้วย..!

เรื่องพวกนี้ถ้ามีโอกาส กระผม/อาตมภาพก็จะพูดในที่สัมมนา หรือว่าได้รับนิมนต์ให้ไปบรรยายก็จะกล่าวถึงเสมอ แต่ว่ากระทบกระทั่งผู้อื่น บางครั้งลงมากราบพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ว่าขออภัยที่พูดแรงแล้วกระเทือนถึง ท่านบอกว่า "มึงรู้จริงก็พูดไป แต่อย่าให้กระเทือนเจ้านายมากนัก"

จะว่าไปแล้ว ผู้บังคับบัญชาอย่างหลวงพ่อเจ้าคุณแย้มท่านไม่ได้หาง่าย ๆ ก็คือทำอะไรกระทบกระเทือน ท่านโกรธท่านก็ด่าตรงนั้นแล้วก็จบเลย ไม่มีการมาอาฆาตแค้นกัน ลงมาขอขมาตรงนั้นก็เป็นอันว่าจบกัน ไอ้ที่มึงด่ากูก็ "เจ๊า" กันไป ถ้ามีผู้บังคับบัญชาระดับนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังพอที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคณะสงฆ์ในเรื่องปฏิบัติธรรมได้อีกมาก แต่ถ้าเปลี่ยนตัวเมื่อไร ก็ไม่รู้ว่าจะโดน "แป้ก" ถอดออกจากตำแหน่งเมื่อไร..?!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2024 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว