 
| 
 | |||||||
| เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป | 
|  | 
|  | คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
			 
			#21  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			ระยะนี้มีคำถามประเภทมักง่าย  อย่างเช่น..ถ้าทำอย่างนี้ต้องวางกำลังใจอย่างไร ?  ถ้าไปที่โน่นจะต้องวางกำลังใจอย่างไร  ? ความจริงอยากจะบอกว่า  ให้ตั้งใจว่าไปตายซะ...!  พระพุทธเจ้าสอนให้ปฏิบัติใน ศีล  สมาธิ  ปัญญา  วางกำลังใจอย่างไรให้อยู่ในกรอบของ ศีล  สมาธิ  ปัญญา  ก็ใช้ได้แล้ว  ฉะนั้น..ไม่ต้องไปเสียเวลาถามคนอื่นว่าทำถูกหรือทำผิด  ถ้าอยู่ในกรอบก็ถูก  ถ้าไม่อยู่ในกรอบก็ผิด...แค่นั้นเอง   โดยเฉพาะครูบาอาจารย์ที่แนะนำศิษย์ให้ไปถามแบบนี้ ยิ่งโคตรมักง่ายเข้าไปใหญ่..! ถ้าครูบาอาจารย์คนไหนแนะนำมาลักษณะนั้นให้ไปถามคนนั้น ไม่ใช่มาถามอาตมา เรื่องของการปฏิบัติธรรม ถ้าเราทำจริง ๆ เราจะได้คำตอบเองอยู่แล้ว อาตมาขอยืนยัน ในระหว่างที่เราทำอยู่ ถ้าไม่ได้ติดขัดจริง ๆ อย่าไปเที่ยวถาม เพราะว่าถ้าถามถูก เราก็จะฟุ้งซ่านว่าเราจะต้องทำให้ได้อย่างนั้น โอกาสที่จะเข้าถึงก็ยาก แต่ถ้าถามแล้วได้คำตอบที่ผิด ก็จะออกนอกลู่นอกทาง ออกทะเลไปเสียอีก เพราะฉะนั้น..ให้ใช้ความเพียรพยายามทำไป คำตอบจะอยู่ในตัวทุกครั้ง ขอเพียงอย่างเดียว อย่าอยากมากจนเกินไป และอย่าใจร้อน การปฏิบัติธรรมไม่ใช่บะหมี่สำเร็จรูป ลวก ๓ นาทีจะได้กินได้..! 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2018 เมื่อ 00:54 | 
| สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#22  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			หลายคนตั้งคำถามในลักษณะจะให้อาตมารับรองว่าเป็นการกระทำที่ถูกแล้ว  เป็นการปฏิบัติที่ถูกแล้ว    แล้วก็เอาไปคุยเกทับคนอื่นในเฟซบุ๊กบ้าง  ในไลน์บ้าง   ถ้าลักษณะนี้จะเห็นว่าอาตมาจะตะแบงข้างเสมอ  เพราะว่าตอบไปแล้วนอกจากไม่เกิดประโยชน์  ยังจะเกิดโทษอีกต่างหาก   ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม พอไปถึงจุดหนึ่ง เรากำลังจะได้ดี ก็จะโดนชักให้เสีย ด้วยการอยากพูด อยากบอก อยากสอนคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เรียนไม่จบ ขอยืนยันว่ายังเรียนไม่จบ ไปสอนคนอื่นมีผลเสียมากกว่าผลดี เพราะว่าเราอาจจะพาคนอื่นหลงเตลิดเปิดเปิงไปอีกหลายชาติ กว่าจะกลับทางเดิมได้ 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2018 เมื่อ 16:21 | 
| สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#23  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			หลายอย่างที่ได้ยินได้ฟังมาก็โปรดค้นหาแหล่งความรู้เพื่อยืนยันด้วย  อย่างเช่นมีข้อห้ามในการภาวนาคาถาเงินล้านขึ้นมา  อาตมาทำมาครึ่งค่อนชีวิตไม่เคยได้ยินว่ามี   สมัยนี้เรื่องของสื่อโซเชียลทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ไปเร็วมาก เราก็ควรที่จะระมัดระวังเอาไว้ด้วย อย่างเมื่อวานนี้มีการแชร์เกี่ยวกับการแต่งกลอนที่อ้างว่าเป็นลายมือของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อาตมามองก็รู้ว่าไม่ใช่ลายพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน แต่เขาก็แชร์กันไป จนกระทั่งทางการต้องออกมาบอกเองว่าไม่ใช่ แม้กระทั่งคำสอนที่บอกว่าพ่อสอนลูก เป็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ สอนพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อ่านดูก็รู้ว่าเนื้อหาเหล่านั้นแปลมาจากต่างประเทศ แต่ก็แชร์กันไปจนคนส่วนมากทุกวันนี้ก็เชื่อว่าใช่ ปัจจุบันนี้มีพระราชบัญญัติเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โอกาสที่เราแชร์อะไรแล้วผิดพลาดหาคุกหาตะรางใส่ตัวมีมาก โปรดระมัดระวังด้วย 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2018 เมื่อ 16:23 | 
| สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#24  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "วันนี้เจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลเรื่องวัตถุมงคลรับเอายันต์เกราะเพชรมาส่ง  เพื่อจะเอาเข้าพิธีตอนอาตมาเข้ากรรมฐานสามวันก่อนที่จะออกมารับกฐิน    ยันต์เกราะเพชรรุ่นนี้เป็นโลหะ มีทั้งทองคำ เงิน ทองแดง ทองเหลือง ทองทิพย์ มี ๒ ขนาด คือใหญ่กับเล็ก ขนาดเล็กกว้างประมาณ ๑ นิ้วฟุต ขนาดใหญ่ก็กว้างกว่านั้นเล็กน้อย ไม่ได้กว้างมาก ที่ทำเป็นยันต์เกราะเพชรโลหะ ก็เผื่อว่าท่านใดจะเลี่ยมแขวนติดตัวในลักษณะของพระก็ได้ เพราะว่าไม่ใหญ่มาก ใครอยากจะม้วนเป็นตะกรุดก็ได้ ให้ไปลงมือทำเอาเอง แต่ส่วนที่อาตมาตั้งใจก็คือ ระยะหลังคนมาขอชนวนเพื่อเอาไปหล่อพระหรือสร้างวัตถุมงคลเยอะมาก อาตมาเบื่อที่จะจารแล้ว ก็เลยคิดว่าถ้าเราทำยันต์เกราะเพชรเป็นโลหะเอาไว้ ถึงเวลาใครมาขอชนวน ส่งไปให้คนละแผ่นก็จบ ซึ่งตรงนี้หลังจากเข้าพิธีแล้วก็ต้องดู ถ้าเจ้าหน้าที่มีความพร้อมก็อาจจะจำหน่ายต้นเดือนหน้าเลย ขอยืนยันว่าราคาไม่แพง ระยะหลังนี้มีญาติโยมจำนวนมากที่มาปรารภในเรื่องของไสยศาสตร์ว่า ตนเองและครอบครัวโดนบ้าง เพื่อนฝูงญาติพี่น้องคนรู้จักโดนบ้าง ถ้าหากท่านทั้งหลายพกยันต์เกราะเพชรไว้ หากมีการภาวนาสวด อิติปิ โสฯ สามห้องเป็นปกติ สามารถอธิษฐานเพื่อป้องกันไสยศาสตร์ได้" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-10-2018 เมื่อ 08:25 | 
| สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#25  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			"แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่มาแล้วบอกว่าโดนไสยศาสตร์  แล้วอาตมาไล่ให้ไปหาหมอแผนปัจจุบันเพราะว่าอยู่ในวัยทอง  เป็นอาการของคนฮอร์โมนพร่อง  ไม่ใช่อาการของคนโดนไสยศาสตร์  เพราะฉะนั้น...ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ให้ไปหาหมอแผนปัจจุบันก่อน   ถ้าหมอรักษาไม่ได้ค่อยไปหาอาตมา  ไม่ใช่ถึงเวลาก็มาบ่นว่าโดนไสยศาสตร์อย่างนั้นอย่างนี้   ทั้งบ้านโดนกันหมด ไปนึกถึงเมื่อหลายปีก่อน มีญาติโยมพาลูกสาวตัวเองมา บอกว่าโดนไสยศาสตร์ หนีไปอยู่กับผู้ชาย กว่าจะตามกลับมาได้แทบล้มประดาตาย บอกว่าโดนผีเข้าโดนผีคุม อาตมาบอกว่าไม่มีอะไรเลย ผีกิเลสคุมให้อยากไปหาผู้ชายเท่านั้น เรื่องของผู้หญิงผู้ชายจะเป็นไปในลักษณะของธรรมชาติ คือดึงดูดกันโดยธรรมชาติ แล้วยังมีเรื่องของวาระกรรมมาเสริมด้วย ฉะนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็เป็นเรื่องปกติ แต่คราวนี้คนเป็นพ่อแม่ก็ไม่เข้าใจว่า เลี้ยงลูกมาเป็นสิบปียี่สิบปี เจอไอ้บ้านั่น ๕ นาทีทำไมไปรักเขามากกว่าพ่อแม่ ? รายนั้นอาตมาเองก็เอาน้ำราดโครมไป ๑ ถังเพื่อความสบายใจของพ่อแม่ ซึ่งลูกสาวก็ชอบใจมาก บอกว่าพ่อแม่จะได้หายบ้าเสียที แต่อาตมาก็บอกเขาไปว่าเดี๋ยวลูกคุณก็ไปอีก" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-10-2018 เมื่อ 08:27 | 
| สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#26  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			"เมื่อเกิดเหตุพวกนี้ขึ้นมา เราก็มักจะวิ่งไปหาหมอ  โดยเฉพาะหมอไสยศาสตร์ หรือไม่ก็พวกทรงเจ้าเข้าผี  โอกาสที่จะได้ของแถมมีเยอะมาก  โปรดระมัดระวังด้วย วิธีแก้ไขของเขาแต่ละอย่าง ล้วนแล้วแต่ทำให้พวกเราต้องสิ้นเปลืองมาก  ต้องเรียกว่าเรา แส่ ไปหาเขาเอง  ถ้าไม่ไปก็ไม่เดือดร้อน   หลายสำนักที่ไม่ได้หลอกลวง แต่มีความสามารถจริง ๆ อาตมาก็ขอบอกว่า เขาสามารถเอาไสยศาสตร์ออกจากเราได้ เขาก็สามารถใส่กลับเข้าไปได้ ถ้าเขาไม่มีศีลไม่มีธรรมพอ ไม่มีหลักยึดตามครูบาอาจารย์พอ เราก็จะโดนผูกไว้ กลายเป็นตัวทำเงินให้เขา ซึ่งเราไม่ต้องไปโทษใครเลย เพราะว่าเราตะกายไปหาเขาเอง เรื่องของไสยศาสตร์ถ้าเราภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว ไม่ต้องมาก แค่อุปจารสมาธิขั้นปลาย ไม่ต้องถึงปฐมฌาน ไสยศาสตร์ก็ทำอันตรายไม่ได้แล้ว เพียงแต่อย่าเผลอหลุดจากสมาธิเท่านั้น ในส่วนนี้ครูบาอาจารย์ตั้งแต่หลวงปู่ปานหรือหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านจึงได้แนะนำให้มีวัตถุมงคลติดตัว และอาราธนาป้องกันไว้ เพราะว่าวัตถุมงคลถ้าทำถูกต้องตามพิธีกรรมจริง ๆ แต่ละชิ้นจะมีเทวดาช่วยรักษา เราเผลอได้ แต่เทวดาอยู่ในความเป็นทิพย์ ท่านไม่เผลอ แต่ขออย่างเดียวว่าให้อาราธนาไว้ทุกวัน ไม่ใช่แขวนขึ้นคอเฉย ๆ ทั้งปีทั้งชาติไม่ได้นึกถึงเลย ถ้าทำอย่างนั้นเทวดาท่านยอมรับกฎของกรรมมากกว่าเรา ท่านก็จะนั่งมองเฉย ๆ เหมือนกัน" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-10-2018 เมื่อ 20:26 | 
| สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#27  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "เรื่องกายภาพบำบัดต้องอาศัยความเพียรระดับดื้อเลย  ทำไมใช้คำว่า ดื้อ ? ถ้าไม่ดื้อไม่ด้านพอทำไม่สำเร็จหรอก  อย่างอาตมาทั้งมือกระดิกได้แค่หัวแม่มือข้างเดียว  ทำอย่างไรที่จะกลับมาใช้ได้ดีทั้ง  ๕  นิ้ว  ถ้าใช้ภาษาปฏิบัติคือความมุ่งมั่น  ไม่ย่อท้อ  ก็คือการที่เรามี จิตตะ กำลังใจปักมั่น  มี วิริยะ พากเพียรไม่ท้อถอย  ดูตัวอย่างครูบาเหนือชัยในปัจจุบัน  ตอนนี้ท่านถ่วงถุงทราย  เคลื่อนไหวโดยมีถุงทรายผูกอยู่  ต่อไปถ้าเอาถุงทรายออกจะเคลื่อนไหวได้สะดวกกว่า  ต้องดื้อในระดับนั้นจึงจะแก้ได้   เป็นพวกเราเส้นโลหิตใหญ่ในสมองแตก  ยอมนอนเป็นอัมพาตดีกว่า...ใช่ไหม  ?   หลายคนกำลังไม่พอ ถามว่ากำลังอะไร ? กำลังสมาธิ ฉะนั้น...ใครที่ดื้อด้านมาก ๆ ในอดีตเคยทำสมาธิได้ดีมาก่อน ถ้าสมาธิไม่ดีดื้อไม่ขึ้นหรอก ที่อาตมาเคยใช้คำพูดว่า การปฏิบัติธรรมต้องหน้าด้าน คือลักษณะอย่างนี้ ถ้าไม่สำเร็จไม่เลิก" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-10-2018 เมื่อ 08:30 | 
| สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#28  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ปัจจุบันคนอ่านหนังสือมากขึ้น  แต่เป็นการอ่านในสมาร์ทโฟน แต่จะมีอะไรที่ผิดพลาดเยอะมาก  สมัยนี้ต่อให้ตั้งใจพิมพ์ให้ถูก  บางทีนิ้วก็ไปจิ้มผิดตัว   บางคนก็ไปตั้งใจพิมพ์ให้ผิด  ซึ่งจะมีสำนวน  มีคำพูด อยู่ในลักษณะว่าเป็นที่เข้าใจกันว่าคำนี้หมายถึงอะไร  ลักษณะเดียวกับศัพท์แสลงในสมัยก่อน  ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ตายเกลี้ยงไปแล้ว  น่าจะเหลือแต่คำว่า “กิ๊ก”  กระมัง ?"  
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2018 เมื่อ 03:42 | 
| สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#29  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "เดือนตุลาคมนี้วัดท่าขนุนมี ๒ งาน งานบำเพ็ญกุศลถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีการบวชเนกขัมมะและสวดพระพุทธมนต์ตามที่สำนักพุทธฯ เขามีคำสั่ง  อีกงานหนึ่งก็คือกฐินกับตักบาตรเทโวฯ ที่เป็นวันเดียวกัน คือ วันที่  ๒๕ ตุลาคม  พอดีว่าบันไดใหม่ที่ทำขึ้นพระพุทธเจติยคีรี บนยอดเขาของวัดท่าขนุนเรียบร้อยแล้ว แต่จะรอเปิดวันตักบาตรเทโวฯ คราวนี้ขึ้นไม่ยากแล้ว ก่อนหน้านี้ขั้นบันไดใหญ่และชันมาก บางคนต้องก้าวถึง ๓ ก้าวกว่าจะได้หนึ่งขั้นบันได เดี๋ยวนี้ทำเป็นขั้นเล็กขึ้นง่าย ๆ แล้วความลาดชันประมาณ ๓๐ องศาเท่านั้น เลยขึ้นง่ายหน่อย อาตมาใช้เวลาแค่ ๓-๔ นาทีเองถึงยอดแล้ว ญาติโยมก็เอาสัก ๒๐ นาทีก็พอ อย่าเยอะมาก" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2018 เมื่อ 03:43 | 
| สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#30  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "สถานการณ์บ้านเมืองของเราก็ไม่ค่อยปกติ บางอย่างรู้ก็พูดไม่ได้ เมื่อรู้ถึงคนหมู่มากก็เป็นการไปยุ่งเกี่ยวกับวาระกรรม เขาก็ถือว่าฝืนกฎของกรรม ฝืนกฎของกรรมเมื่อไรตัวอาตมาก็จะเละเอง"
		 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-10-2018 เมื่อ 15:04 | 
| สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#31  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ปัจจัยทอดกฐินของญาติโยม ถ้าไม่ได้ระบุชัดว่าเป็นกฐินวัดท่าขนุน  อาตมาก็จะเอาลงเป็นกฐิน ๒ วัด  น่าจะปีนี้เหลือสองวัดเพราะว่าให้เกาะพระฤๅษียืนด้วยตัวเองไปแล้ว แล้วปีหน้าก็จะเหลือแค่วัดเดียว อยากจะให้บรรดาท่านเจ้าอาวาสที่ส่งไปท่านยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ถ้าหากว่ามัวแต่พึ่งพาส่วนกลางจะยืนด้วยตัวเองไม่ได้เสียที ต้องบอกว่าอาตมาเลี้ยงลูกแบบธรรมชาติ เราจะเห็นว่าพวกสัตว์เลี้ยงลูกนี่ ถ้าลูกไม่แข็งแรงจะปล่อยตายไปเลย เพราะฉะนั้น..อาตมาก็ต้องเลี้ยงแบบธรรมชาติ ถ้ายืนหยัดด้วยตัวเองไม่ได้ก็ปล่อยตายไปเลย ที่วัดพอตอนเย็น ๆ แม่ไก่ก็จะบินขึ้นไปนอนบนต้นไม้ ถ้าลูกไก่ตามมาไม่ได้แม่ก็จะลงมาบินขึ้นให้ดู ๒-๓ เที่ยว ถ้ายังตามไม่ได้อีกแม่ก็ทิ้งเลย เอาตัวรอดเองก็แล้วกัน พรุ่งนี้เช้าเจอกัน ส่วนใหญ่ญาติโยมที่วัดจะไม่เข้าใจว่า อาตมาปล่อยต้นไม้รก ๆ ไว้ทำไม กิ่งล่าง ๆ เอาไว้ให้ลูกไก่บินขึ้น ถ้าบินถึงก็สามารถบินต่อไปกิ่งบนได้ บางคนไปตัดข้างล่างเสียหมด ลูกไก่ก็ขึ้นไม่ได้" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-10-2018 เมื่อ 21:26 | 
| สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#32  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			"ปีนี้กฐินถ้าใครจะไปก็ต้องลางานหนึ่งวัน เพราะว่ากฐินไม่ได้ตรงกับวันหยุด เนื่องจากว่าทางวัดท่าขนุนมีตักบาตรเทโวฯ ถ้าอีกไม่กี่วันทอดกฐิน ญาติโยมก็ต้องไปวัด ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง  งานตักบาตรเทโวฯ ที่วัดท่าขนุน ญาติโยมทางทองผาภูมิเขาก็ไปกันเกือบทั้งอำเภออยู่แล้ว จึงทอดกฐินไปเลยให้หมดเรื่องหมดราว จะได้สตางค์น้อยได้สตางค์มากก็ไม่ใช่สาระ สาระสำคัญอยู่ตรงที่ได้ทำบุญ" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2018 เมื่อ 03:46 | 
| สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#33  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "มีใครรำคาญเสียงระฆังบ้างไหม ? ปรากฏว่าคนที่ฟ้องว่าพระตีระฆังก่อความรำคาญเป็นอิสลาม แล้วตัวรองหัวหน้าเขตที่ทำหนังสือถึงวัดเพื่อห้ามการตีระฆังก็เป็นอิสลาม ชัดเจนหรือยังว่าเขาบีบพระเราเข้ามาทุกวิถีทาง ?  ส่วนบรรดานักวิชาการที่ออกมาแสดงความเห็น อย่างเช่นว่าเป็นพระเป็นเจ้าสอนคนอื่นให้มีสติ ทำไมตัวเองขาดสติไปทำเรื่องที่รบกวนชาวบ้าน ? หรือว่าในระหว่างกิจกรรมที่เป็นแค่เปลือก เป็นแค่รูปแบบ ทำไมถึงไม่เน้นการปฏิบัติภายใน ? อาตมาขอยืนยันว่านักวิชาการเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่มือปืนรับจ้างที่ช่วยอิสลามทำลายศาสนาพุทธ ก็แปลว่าเกิดมาโง่จริง ๆ โบราณสมัยก่อนใช้เสียงระฆังเป็นสัญญาณ ทันทีที่ได้ยินเสียงระฆังเราจะต้องนึกถึงวัด นั่นก็คือการระลึกถึงอนุสติใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว สัญญาณระฆังปลุกพระขึ้นมาเพื่อที่จะทำวัตรสวดมนต์เจริญกรรมฐาน ถ้าคนรู้ระบบตรงนี้อนุโมทนาตามไป ก็จะได้บุญกุศลติดตัวโดยไม่ต้องลงแรง กระทั่งวัดของอาตมา ถ้าหากว่าเสียงระฆังดัง หมาจะรีบวิ่งมาเลยเพราะรู้ว่าจะได้กิน เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ที่อาตมาเห็นอยู่ที่วัดก็คือ ถ้าตีระฆังแล้วรำคาญและหอนใส่ก็มีแต่หมาเท่านั้น..! เรื่องนี้ในเมื่อออกมาชัดเจนแล้วว่าที่ฟ้องเขาอยู่ทั้ง ๆ ที่คนทั้งคอนโดไม่มีใครว่า เพราะว่าเป็นอิสลาม แล้วตัวรองหัวหน้าเขตที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นคนทำหนังสือถึงวัดก็เป็นอิสลาม ต้องบอกว่านักสืบโซเชียลสมัยนี้ของเราเก่งมาก ไม่ว่าคุณจะไปทำอะไรที่ไหน อยู่ในรูไหน เขาขุดออกมาหมด ระยะหลังนี่ทำอะไรอย่าออกสื่อ ออกสื่อเมื่อไรเตรียมตัวได้ อาตมาเห็นข่าววันแรก เขาบอกว่า "ช่วยจัดให้หน่อยสิ ไอ้สองคนนี้เป็นใคร" พักเดียวเท่านั้นแหละมาเพียบเลย ต้องบอกว่าสื่อโซเชียลก็ดีอยู่อย่างก็คือ ไม่มีใครที่จะเป็นความลับได้" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-10-2018 เมื่อ 15:03 | 
| สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#34  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน กลางวันแดดเปรี้ยงเลย ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงมาก โปรดระมัดระวังรักษาสุขภาพด้วย ชำรุดขึ้นมาจะซ่อมไม่ไหว  เมื่องานวันที่ ๑๔ กันยายน มีการทำบุญถวายบูรพาจารย์วัดท่าขนุน ก็ขอทางด้านโรงพยาบาลเอาวัคซีนกันไข้หวัดใหญ่ ๑๐๐ ชุด มาฉีดถวายพระที่มาร่วมงาน ปรากฏว่าวัคซีนจริง ๆ แล้วมีกันไข้หวัดหลัก ๆ อยู่ ๒ อย่าง ส่วนอย่างที่ ๓ เป็นไข้หวัดที่เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาลหรือว่าเฉพาะเวลา แต่ละชุดราคาหลายร้อยบาท เพียงแต่ว่าช่วงที่ผ่านมาอาตมาเป็นหวัดไปเดือนกว่า ก็เลยซาบซึ้งว่าถ้าเป็นแล้วแย่ จึงตั้งใจว่ายอมจ่ายเงินเพื่อที่อย่างน้อย ๆ ก็กันไข้หวัดใหญ่ให้กับบรรดาพระที่นิมนต์มา แต่ปรากฏว่าแพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ เป็นคนควักกระเป๋าเอง โดยที่แจ้งว่ามีเพื่อนหลายคนร่วมบุญมาด้วย อาตมาก็เลยไม่รู้ว่าเงิน ๗๐,๐๐๐-๘๐,๐๐๐ บาท ตกลงว่าหมอนวลจันทร์จ่ายเองกี่บาท ? แต่ว่าอาตมาไม่ต้องจ่าย" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2018 เมื่อ 03:49 | 
| สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#35  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			"มีเรื่องหนึ่งที่พวกเราคิดกันไม่ค่อยจะถึง คือ ปัจจุบันนี้การคมนาคมไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เครื่องบิน รถยนต์ สะดวกคล่องตัวมาก โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ  ก็เลยแพร่สะดวกไปด้วย ถึงเวลาโรคระบาดอาจจะอยู่แอฟริกา แต่ท้ายสุดก็นั่งเครื่องบินมาถึงเมืองไทย  สมมติว่าไข้หวัดนกระบาดที่เชียงราย คือทางเหนือจะหนาวก่อน ปรากฏว่าคนเชียงรายนั่งเครื่องบินไปเที่ยวสุไหงโกลก ไข้หวัดก็พลอยนั่งเครื่องบินตามไปด้วย ดังนั้น..การแพร่ระบาดก็จะเร็วขึ้นตามความสะดวกสบายในการคมนาคม เราจะเห็นว่าพอถึงเวลามีโรคระบาด แต่ละสนามบินก็จะมีเขตกักกัน อยู่ในลักษณะตรวจสอบว่าเราเป็นหรือไม่เป็น บางที่ทันสมัยมาก ๆ มีเครื่องวัดอุณหภูมิจากตัวเราด้วย ใครจับไข้ตอนนั้นพอดีก็ซวยไป สมัยก่อนโรคระบาดไปช้า เพราะว่าการเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือไปทางเรือ จากประเทศไทยไปอินเดียก็เป็นเดือน ถ้าจะไปยุโรปอเมริกาก็หลายเดือน" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2018 เมื่อ 03:50 | 
| สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#36  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			ถาม :  ...(โรคซึมเศร้า)... ตอบ : ต้องบอกว่าเกิดจากใจที่ไม่มีเครื่องยึด ฉะนั้น...อยู่ที่ตัวเขาเอง ถ้าสภาพจิตของตัวเองมีเครื่องยึด ไม่มัวไปคิดถึงเรื่องของตัวเองอยู่ก็ไม่เป็นหรอก ถ้าสามารถคิดถึงพระได้ทั้งวันเหมือนกับที่คิดสงสารตัวเองนี่บรรลุไปนานแล้ว โรคซึมเศร้าเป็นสักกายทิฐิอย่างหนึ่ง คิดถึงแต่ตัวเอง รักแต่ตัวเอง สงสารแต่ตัวเอง ห่วงแต่ตัวเอง แต่ว่าคิดผิด รักผิด สงสารผิด เท่านั้นเอง 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-10-2018 เมื่อ 21:27 | 
| สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#37  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			ถาม : ก่อนจะไปงานออกนิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์   ขอพระให้เดินทางโดยปลอดภัย  ปรากฏว่าคืนนั้นฝันเห็นหลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านมาในชุดฆราวาส  ไม่ใช่พระ แต่มีพระมากันอีกเยอะ  อันนี้เป็นนิมิตหมายถึงอะไรครับ  ?  ตอบ : ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์บอกไม่ได้หรอก ต้องอยู่ในเหตุการณ์ด้วยถึงจะบอกได้ เห็นพระถือว่าดีก็แล้วกัน 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2018 เมื่อ 02:39 | 
| สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#38  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์เล่าว่า  "เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีงานศพงานหนึ่งที่อาตมาเป็นเจ้าภาพ  ลูกหลานของงานนั้นน่าจะอายุประมาณ ๕ ขวบ แต่เขาเป็นเด็กดาวน์ซินโดรม เด็กที่ด้อยสติปัญญาจะมีอาการที่แสดงออกมาให้เห็นชัด ๆ ว่าใช่ แต่พออาตมาไปนั่ง  เด็กคนนั้นหน้าตาเปลี่ยนเป็นเฉลียวฉลาดสุด ๆ แปลกมาก..แล้วคว้าจีวรพระไว้ไม่ยอมปล่อยอีกด้วย"
		 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2018 เมื่อ 02:40 | 
| สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#39  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "วัดท่าขนุนพัฒนาให้เข้าสู่ยุคพระพุทธศาสนา ๔.๐ ไปแล้ว  วัดอื่นตามไม่ทัน ตอนนี้ที่วัดกำลังวางระบบติดตั้ง Wifi ฟรีทั่ววัด  กลางวันจะได้ ๑๐๐ เมกะไบต์ กลางคืนได้ ๒๐๐ เมกะไบต์  พูดง่าย ๆ ว่าโหลดหนังเรื่องหนึ่งไม่ถึงครึ่งนาที เสียดาย...พระไม่ได้ดูหนัง แล้วก็ติดตั้งป้ายโฆษณาแบบเคลื่อนไหวที่หน้าวัด  คราวนี้ที่ทำเกิดจาก ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือต้องเห็นประโยชน์ ถ้าพูดแบบ "อวย" ตัวเองก็คือต้องมีวิสัยทัศน์ อย่างที่สองคือต้องมีสตางค์ ไม่อย่างนั้นติดตั้งไม่ได้" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2018 เมื่อ 02:41 | 
| สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#40  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ปีนี้งานออกนิโรธกรรมของครูบาวิฑูรย์เขาจัดได้ดี อาจจะเป็นเพราะว่าปีก่อนมีการผิดพลาด จนกระทั่งหลวงปู่ครูบาบุญยังตกเสลี่ยงบาดเจ็บมาแล้ว ปีนี้ทำการแก้ไขก็เลยจัดงานได้ดี  แต่คราวนี้โฆษกก็คือท่านธีร์นวัช ปรารภถึงเรื่องราวในบ้านในเมืองของเราว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง ท้ายสุดท่านก็ควักเหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณออกมา แล้วท่านก็บอกว่า “ผมไม่กลัวหรอก เพราะว่าผมพกเหรียญนี้แล้ว” อาตมาเองก็ขำ ๆ ว่าไม่น่าจะมาโฆษณากลางงานคนอื่นเขา แล้วอีกอย่างหนึ่งโฆษณาไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะว่าเหรียญนั้นหมดเกลี้ยงไปแล้ว อาตมาขออนุญาตสร้างใหม่ ท่านท้าวเวสสุวรรณก็ไม่อนุญาต ท่านบอกว่าถ้ามากเกินไปจะออกนอกสายที่เคยสร้างบุญร่วมกันมา ซึ่งไม่ใช่ภาระของท่านที่ต้องตามไปดูแลเขา ในเมื่อท่านไม่อนุญาต ใครมีของเก่าก็เฉลี่ย ๆ แบ่งกันไป อาตมาเองก็ไม่ได้บอกเขาหรอกว่า อาตมาเองก็พกอยู่เหรียญหนึ่งเหมือนกัน..!" 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2018 เมื่อ 03:03 | 
| สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|  | 
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| 
 | 
 |