กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 27-08-2019, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านใดที่ลืมแหวนไว้ที่วัด ตอนนี้คนเขาเอามาคืนแล้ว โปรดแสดงหลักฐานมารับคืนด้วย ของแพง ยังเหลืออีกหนึ่งวง ไม่ได้หายวงเดียว ไปเผลอถอดลืมไว้ในห้องน้ำ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ใส่อาบน้ำไปเถอะ..ไม่เป็นไรหรอก ดันไปถอดลืมเอาไว้

มีอยู่ที่เที่ยวหนึ่ง โยมลืมพระไว้ทั้งพวงเลย ๕ องค์ เลี่ยมทองไว้ ๓ องค์ ยังดีว่าของอยู่ที่วัดท่าขนุนแล้วไม่ค่อยหายหรอก คนเขาค่อนข้างที่จะเคร่งครัดต่อศีล ถึงเวลาก็เอามาคืน อาตมาก็รับไว้ ใครของหายก็ไปถามหาที่เลขานุการ ตอนนี้พระเลขาฯ เก็บไว้เป็นกองเลย

กติกาของพระก็คือ ถ้าโยมทำของตกหล่น หรือหลงลืมไว้ที่วัด ต้องเก็บรักษาไว้จนกว่าเจ้าของมาทวงคืน ลำบากตรงนี้แหละ เพราะว่าต้นตำรับเลยคือคุณย่าวิสาขา"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 19:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 27-08-2019, 19:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คุณย่าวิสาขาอายุ ๑๒๐ ปี อายุมาก ๆ แล้วก็เผลอ ถอดเครื่องมหาลดาปสาธน์เอาไว้เพื่อที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ตอนกลับบ้านเลยลืม ลืมได้เหมือนกันนะ..ของแพงขนาดนั้น ถามว่าของขนาดนั้นราคา ๙ โกฏิ ตีเป็นสมัยนี้ก็ ๙๐ ล้านบาท แต่จริง ๆ แล้วถ้านับค่าของเงินของวัตถุ แพงกว่านั้นหลายเท่า

เครื่องมหาลดาปสาธน์เขาบอกว่าสร้างด้วยเงิน ๑,๐๐๐ แท่ง สร้างด้วยทอง ๑,๐๐๐ แท่ง อันนี้เอามารีดเป็นเส้นลวดเฉย ๆ ร้อยแก้วมณี ร้อยแก้วประพาฬ ร้อยแก้วไพฑูรย์ อย่างละ ๒๐ - ๓๐ ทะนาน แก้วมณีนี่เพชรนะ โคตรเพชรอีกต่างหาก เป็นลักษณะเหมือนอย่างกับมงกุฎรูปนกยูงรำแพน แล้วก็มีชายลงมาเป็นเสื้อคลุม น้ำหนักมากจนคนบุญไม่ถึงใส่ไม่ได้ ยกไม่ขึ้น

ในพระไตรปิฎกมีแค่ ๓ ท่านเท่านั้นที่มีเครื่องมหาลดาปสาธน์ ก็คือนางวิสาขามหาอุบาสิกา นางมัลลิกาภรรยาของพันธุลเสนา แล้วก็อีกคนหนึ่งตลกมาก เป็นเมียโจรชื่อเทวนานิยะ แสดงว่าแกทำบุญมาเยอะ แต่ต้องไปเป็นเมียโจร

ผู้หญิงที่จะมีเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นี่ ในอดีตชาติต้องเคยถวายผ้าไตรไว้ในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะได้ถวายต่อพระพุทธเจ้า พวกเรานี่ถ้าไปเกิดใหม่พร้อม ๆ กันนี่ รับรอง..ร้านเพชรได้เจ๊งเลย สร้างเครื่องประดับชิ้นนี้ชิ้นเดียวก็ไม่มีวัตถุดิบแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-08-2019 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 27-08-2019, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปรากฏว่าคุณย่าวิสาขาลืมเครื่องประดับ พระอานนท์ยกไหว เพราะว่ามีกำลัง ๗ ช้างสารเท่ากัน ในเมื่อพระอานนท์ยกไหวก็เอาไปเก็บ จึงกลายเป็นธรรมเนียมว่า ถ้าใครลืมของหรือทำของตกหล่นไว้ในวัด ต้องเก็บรักษาจนกว่าเจ้าของจะมารับคืน

นางวิสาขาพอนึกขึ้นมาได้ ก็บอกสาวใช้ว่าให้กลับไปเอาเครื่องประดับคืนให้ที นางปุณณทาสีก็สร้างบุญไว้ดี มีกำลังเท่ากับเจ้านาย สามารถแบกมาคืนได้ ไปถึงปรากฏว่าพระอานนท์เก็บเอาไว้แล้ว ซึ่งนางวิสาขาท่านก็คาดว่าเป็นอย่างนั้น เลยบอกว่า พระคุณเจ้าเป็นผู้เก็บไว้ เป็นของกึ่งกลางสงฆ์ ไม่ควรที่จะรับคืน ขอถวายท่านไปเลย

คราวนี้ถวายไปแล้วพระจะใช้อย่างไร ? ในเมื่อเป็นของที่กึ่งกลางสงฆ์ไปแล้ว นางวิสาขาก็เลยเอาไปตระเวนขาย ใครซื้อเครื่องประดับชิ้นนี้ จะเอาเงินไปสร้างวัด เอาเครื่องประดับใส่เกวียน ตอนที่สวมนี่สวมเองได้นะ ตอนคนเอาไปขาย ต้องใส่เกวียนไป ตระเวนจนทั่วเมืองไม่มีใครซื้อ เพราะนอกจากราคาแพงแล้ว ยังไม่มีใครสวมได้ แบกไม่ไหว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 27-08-2019, 19:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เราลองนึกถึงเสื้อคลุมมหาราชภูษิตาภรณ์ของในหลวง อันนั้นรวมเส้นทองที่ปักด้วย ๒๐ กว่ากิโลกรัม ไม่แข็งแรงจริง ๆ ไม่ต้องไปใส่หรอก ถึงเวลาเราเห็นรัชกาลที่ ๑๐ ใส่เครื่องทรง เสด็จประพาสทางสถลลมารค กว่าจะจบ..เหนื่อยแทน

นางวิสาขาก็เลยต้องซื้อเอง สรุปก็คือ ซื้อของตัวเองคืน แล้วก็เอาเงินไปสร้างวัดบุพพาราม หมดไป ๙ โกฏิ จัดงานฉลองหมดไปอีก ๙ โกฏิ รวม ๆ แล้วหมดเงินไป ๒๗ โกฏิ ประมาณ ๒๗๐ ล้านในอัตราตัวเลขปัจจุบัน แต่ถ้าเป็นราคาแท้จริงก็น่าจะ ๒,๐๐๐ กว่าล้าน ก็เลยกลายเป็นอีกวัดหนึ่งของพระพุทธศาสนาที่เมืองสาเกต"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 27-08-2019, 20:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมืองสาเกตเป็นเมืองแฝดกับสาวัตถี ใครเคยไปเชียงใหม่จะเห็นว่าเชียงใหม่กับลำพูนอยู่ติดกันเลย โดยเฉพาะถนนเส้นทางลำพูน - สารภี ติดกันจนแยกไม่ออกว่าเมืองไหน

นางวิสาขาเป็นลูกของธนัญชัยเศรษฐี ทางด้านแคว้นโกศล คือกรุงสาวัตถี ไม่มีเศรษฐีเลย อาจจะเป็นเพราะว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลไม่ค่อยอำนวยความสะดวกในการค้าขาย แต่พระเจ้าพิมพิสารอำนวยความสะดวก บรรดาพวกพ่อค้า พวกเศรษฐีใหญ่ ๆ ก็เลยอยู่เต็มแคว้นมคธ ทางแคว้นโกศลไม่มีเลย

ในเมื่อแคว้นโกศลไม่มี พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงทำหนังสือถึงพระเจ้าพิมพิสารว่า ขอเศรษฐีไปอยู่สักท่านหนึ่งเถอะ จะได้ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้น ทุกอย่างจะดีขึ้น เพราะฉะนั้น..ต้องให้นายกฯ ตู่ของเราทำหนังสือขอมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กมาอยู่ประเทศไทย เอาวอร์เร็น บัฟเฟตต์ ดีกว่านะ ดูท่าจะมั่นคงกว่า..ใช่ไหม ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 20:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 27-08-2019, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในเมื่อขอไป พระเจ้าพิมพิสารก็หาอาสาสมัคร ธนัญชัยเศรษฐีที่ถือว่าหนุ่มกว่าเพื่อนก็อาสาสมัครไป ขนทรัพย์สมบัติ ขนข้าทาสบริวารไป ไปถึงบริเวณที่เป็นที่ตั้งเมืองสาเกต เห็นว่าเนื้อที่กว้างขวางใหญ่โตเพียงพอ ก็เลยส่งทูตก็คือตัวแทน เข้าไปหาพระเจ้าปเสนทิโกศล บอกว่าขออนุญาตสร้างเมืองตรงนี้ เพราะว่าถ้าเข้าไปในสาวัตถีจะทำให้เขาเดือดร้อนกันมาก เนื่องจากว่าเฉพาะบริวารที่ท่านพาไปก็สองแสนคนเข้าไปแล้ว..!

เศรษฐีสมัยก่อนส่งกองเกวียนไปค้าต่างเมือง ไปทีหนึ่ง ๓๐๐ เล่ม ๕๐๐ เล่ม เราลองนึกดูว่า ถ้าคนดูแลวัว ๑ คน คนดูแลสินค้า ๑ คน ถ้ากองเกวียนมีแค่นี้ ๕๐๐ เล่มก็ ๑,๐๐๐ คนแล้ว แล้วไหนจะต้องมีกองกำลังส่วนตัวไปป้องกันสินค้าอีก ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนโจรปล้น โดนอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ฉะนั้น...เศรษฐีสมัยก่อนจึงเหมือนอย่างกับมีกองทัพส่วนตัว

พระเจ้าปเสนทิโกศลเห็นด้วย ก็เลยยกที่ตรงนั้นให้ บอกให้ตั้งเมืองได้ตามสบายเลย ธนัญชัยเศรษฐีจึงตั้งเมืองขึ้นมาชื่อว่าเมืองสาเกตอยู่ที่ตรงนั้น นางวิสาขามหาอุบาสิกาสร้างบุพพารามที่เมืองสาเกต นิมนต์พระพุทธเจ้าไปอยู่ประจำ พระพุทธเจ้าประจำอยู่สาวัตถีแล้ว ถ้าหากว่าบิณฑบาต ชาวบ้านก็จะสังเกต ออกประตูทิศเหนือหรือทิศตะวันออก

ถ้าออกประตูทิศเหนือก็ไปวัดเชตวัน ถ้าออกทางทิศตะวันออกก็จะเป็นวัดบุพพาราม ชาวบ้านเขาจะไปฟังธรรมกัน เพราะว่าเดินถึงกันง่าย ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 20:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 27-08-2019, 20:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เพราะฉะนั้นช่วงสุดท้าย ๒๕ พรรษาของพระพุทธเจ้า ประจำอยู่ที่สาวัตถีและบุพพาราม รวมแล้ว ๒๔ พรรษา เขาแบ่งเฉลี่ยว่าไปจำพรรษาที่บุพพาราม ๙ พรรษา อยู่ที่สาวัตถี ๑๕ พรรษา เพราะฉะนั้น ในเมื่ออยู่สาวัตถีมากที่สุด เวลาเราอ่านพระสูตร พระอานนท์ท่านก็

เอวัมเม สุตัง ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้
เอกัง สะมะยัง ในสมัยหนึ่ง
ภะคะวา องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
สาวัตถิยัง วิหะระติ ประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี
เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ในเชตวันมหาวิหาร อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี

ถ้าขึ้นด้วย สาวัตถิยัง วิหะระติ ก็คือจำพรรษาอยู่ที่เมืองสาวัตถี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 20:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 27-08-2019, 20:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนใหญ่แล้วพระพุทธเจ้าเทศน์และพระอานนท์ก็จำมา ในเมื่อเทศน์สอนชาวบ้าน เนื้อหาข้อใหญ่ใจความเป็นอย่างไร ก่อนจะบอกกล่าวก็ต้องมีพาดหัวก่อน ในลักษณะใส่ข้อมูล ให้รายละเอียด เทศน์ที่ไหน เรื่องอะไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 20:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 27-08-2019, 20:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้ความจริงที่วัดท่าขนุนมีพระจำพรรษา ๕๓ รูป แต่คราวนี้ต้องแบ่งปันให้วัดอื่น ไปเป็นเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ลูกวัด ให้ยุ่งไปหมด เลยเหลืออยู่แค่ ๔๐ รูป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 20:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 28-08-2019, 22:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อวานเจ้านายบอกว่า หนูทำงานละเอียดแต่ช้า ต้องทำอย่างไรถึงจะทำงานละเอียดและเร็วคะ ?
ตอบ : สมาธิต้องดีกว่านี้ ถ้าสมาธิดีขึ้น ใจจดจ่ออยู่กับงาน ความละเอียดจะมี แล้วก็เร็วขึ้น

ถาม : ให้จับลมหายใจหรือคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่จับลมหายใจ ถ้าจับลมหายใจ บางทีทำอะไรไม่ได้เลย นั่งแข็งทื่ออยู่นั่นแหละ ให้ซักซ้อมการเข้าออกสมาธิให้คล่องตัว ชนิดที่ว่าต้องการเข้าเมื่อไร ต้องการออกเมื่อไร ต้องได้ทันที

ถาม : สมาธิแบบนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ?
ตอบ : หน้าตาเป็นอย่างไร ? อย่างเช่นว่า รู้ลมหายใจอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับก็รู้เองได้ อย่างนี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 28-08-2019, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลานั่งสมาธิหรือทำอะไรจะปวดหัว ปวดหน้าผากค่ะ ?
ตอบ : นั่งสมาธิแล้วปวดหัว โดยเฉพาะปวดหน้าผาก เกิดจาก ๓ สาเหตุด้วยกัน
สาเหตุที่หนึ่ง คือเราเผลอใช้สายตาเพ่งโดยไม่รู้ตัว
สาเหตุที่สอง เขาเรียกว่าขันธมาร ก็คือร่างกายกลั่นแกล้ง
ส่วนสาเหตุที่สาม เกิดจากไฟฟ้าสถิต มันรวมอยู่ตรงจุดที่เรียกว่าตาที่ ๓ มากไป วิธีง่ายที่สุดก็คือหาอะไรเย็น ๆ มาแปะสักหน่อย หายแล้วก็เริ่มต้นใหม่


ถาม : หนูรู้สึกว่าเป็นเวทนา เข้าใจว่าคุมร่างกายไม่ได้นะคะ แต่ว่า...?
ตอบ : ไม่มีใครคุมร่างกายได้ เพียงแต่เขาไม่สนใจร่างกายเท่านั้น คำว่า คุมร่างกาย หมายถึงว่าเราสั่งงานร่างกายทุกอย่างได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ มีทางเดียวก็คือระงับ คือไม่ไปสนใจมัน ถ้าไม่ไปสนใจร่างกาย อาการจะแย่เท่าไรก็เรื่องของร่างกาย เราก็ทำงานของเราไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 28-08-2019, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วิธีทำงานแล้วไม่ให้เครียดไปกับงาน ทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : อันดับแรกก็คือไม่ตั้งความหวัง เพราะว่าส่วนใหญ่ที่เราทำงาน ก็คือเรามีความหวัง หวังว่าจะได้เลื่อนขั้น หวังว่าจะได้ตำแหน่ง
วิธีที่สอง คืออย่าไปรับแรงกดดัน จะเร่งใช่ไหม ? ได้..นั่งรอสักพักนะ อยากเร่งก็เร่งไป เราก็ทำของเราไปเรื่อย ๆ


ถาม : แต่เจ้านายเขาคาดหวังค่ะ ?
ตอบ : ก็ปล่อยเขาคาดหวังไปสิ "รอเดี๋ยวค่ะ เดี๋ยวเสร็จ" เคยเห็นไหม ? ร้านค้าบางร้านขายนี่ดีมากเลย ไอ้โน่นก็ตะโกนสั่ง ไอ้นี่ก็ตะโกนสั่ง อาแปะก็ “ฮ่อ ๆ รอเหลียว เหลียวไล่” อาแปะแกไม่รับแรงกดดันใด ๆ ทั้งสิ้น แกก็ทำของแกไปเรื่อยนั่นแหละ

ถาม : ตั้งใจทำแต่อย่าไปกดดันมากใช่ไหมคะ ?
ตอบ : อย่าไปใส่ใจกับแรงกดดัน รับปากทุกเรื่อง ส่วนทำได้แค่ไหนอยู่ที่เรา แต่ไม่ใช่นิสัยของหลวงพ่อนะ เพราะว่านิสัยหลวงพ่อคือรับปากแปลว่าต้องเสร็จ แล้วต้องดีด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 28-08-2019, 22:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “บรรพบุรุษของเราเลือกกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงเพราะว่าฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล เนื่องจากสมัยก่อนต้องทำนา คราวนี้พวกเราเลิกทำนามาปลูกตึก ฝนก็ยังคงตกตามฤดูกาล ในเมื่อระบายไม่ทันก็มีปัญหา ต้องบอกว่าโบราณเขาเก่ง...เลือกสถานที่ได้ถูกต้อง แต่ลูกหลานเหลนอย่างพวกเราเอาไปใช้ผิดประเภท แทนที่จะทำไร่ทำนา เราก็ไปปลูกตึก

สมัยก่อนขุดคลองเอาไว้มากเพื่อจะได้ช่วยระบายน้ำ เราก็ไปถมคลองทำถนน สารพันปัญหาก็เลยตามมา แล้วบ้านเราจะทำอะไรก็ขาดการศึกษาอย่างถ่องแท้ ทำอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำก็เลยกลายเป็นสิ้นเปลืองงบประมาณเสียเปล่า ๆ แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรในการระบายน้ำเลย อุโมงค์จะระบายน้ำได้ก็ต่อเมื่อท่อย่อยไม่ตัน

คราวนี้ท่อย่อยตัน ไม่มีการเตรียมการตั้งแต่หน้าแล้ง ต่อให้เตรียมการ บ้านเราก็ยังมักง่าย ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง พอทิ้งขยะส่งเดช ถึงเวลาก็ลงท่อ รวมกันมาก ๆ ก็ท่อตัน วันดีคืนดีหลุดลงคลองไปได้ คนก็ตกใจว่าขยะมาจากไหนมากมาย มาจากความมักง่ายของพวกเรานั่นแหละ

ที่วัดท่าขนุนเคยมีเด็กตัวเล็ก ๆ น่าจะประมาณ ๓-๔ ขวบ กำมือเดินตามแม่ไปเรื่อย จนกระทั่งเจอถังขยะถึงได้ทิ้ง นั่นพ่อแม่เขาสอนมาดีมาก ว่าต้องทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง ผู้ใหญ่เห็นแล้วอายเขา โดยเฉพาะที่วัดท่าขนุนเป็นถังขยะแยกประเภท ผู้ใหญ่ยังทิ้งไม่ค่อยจะถูกถังเลย”

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 28-08-2019, 23:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อยู่ ๆ ก็เป็นข่าวดังแบบไม่รู้ตัว ก็คือพระยิงพระด้วยกันมรณภาพ เจ้าคณะอำเภอบอกว่าสายเกือบไหม้ ทั้งทางคณะสงฆ์ ทั้งทางบ้านเมือง ทั้งนักข่าวโทรมาทั้งวัน ถามว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร

ความจริงเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ๒ ปีที่แล้ว เกิดจากพระกาญจน์ที่ไปยิงเขาตาย เขามายื่นหนังสือฟ้องกับอาตมาเอง ยื่นฟ้องกับพระครูวิลาศกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ ว่าพระครูพิสุทธิ์กาญจนาภรณ์ เจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๑ ทำไสยศาสตร์ใส่เขา เพราะว่าเขาเป็นตุ่มไปทั้งตัว นอนไม่ค่อยได้ คันไปหมด

อาตมาก็ว่าท่าจะไม่ดีกระมัง ท่านอาจารย์วิสุทธิ์จะทำอะไรเป็นนอกจากดูหมอ ก็เลยบอกกับท่านว่า “อันดับแรก ตั้งแต่คบหาสมาคมกันมา ไม่คิดว่าท่านอาจารย์วิสุทธิ์จะทำไสยศาสตร์ใส่ใครได้ ประการที่สอง คุณฟ้องผิดที่ วัดอู่ล่องอยู่ในเขตตำบลชะแล เขต ๑ คุณจะมาฟ้องที่ท่าขนุน เขต ๒ ไม่ได้ ถือว่าฟ้องผิดเจ้าคณะ ถ้าจะฟ้องต้องไปฟ้องหลวงพ่อพระครูอุทัย (พระครูสุวิมลกาญจนวัฒน์) เจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๑”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 28-08-2019, 23:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“พระกาญจน์ท่านก็ออกจากวัดไป อาตมาก็โทรหาเจ้าคณะอำเภอกับพระครูวิสุทธิ์ ทั้งสองรูปมาตอนกลางคืนเลย ท่านบอกว่า “ท่านอาจารย์..ผมว่าท่าจะไม่ค่อยดีนะ” “ใช่ครับ ผมดูท่าว่าจะไม่ดี ท่านเหมือนกับไม่เต็ม ทำอย่างไรจะให้ท่านไปพ้น ๆ ทองผาภูมิเราไปก่อน ?” เจ้าคณะอำเภอท่านบอกว่า “คงต้องใช้ตำรวจทหารจัดการ” ก็เลยโทรไป ปรากฏว่าทางทหารเขามาช่วยเอาตัวออกนอกพื้นที่ หายไป ๒ ปีก็กลับมาใหม่

กลับมาคราวนี้ต้องบอกว่า เป็นความเฮงของท่านวันชัย เพราะว่าเขาย้อนกลับไปที่วัดโชคผาสุกิจ ซึ่งพระครูวิสุทธิ์ท่านอยู่ประจำ พอเจอท่านวันชัย ท่านก็ยิงเลย ใช้ปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ซัดตูมเข้าไปให้ ๙ เม็ดเต็ม ๆ ตอนที่ไปงานศพท่านวันชัย ยังปรารภกับพระครูวิสุทธิ์ว่า “ท่านตั้งใจยิงคุณนะ” ท่านบอกว่า “ใช่ครับ เขาบอกตำรวจเลยว่า เจอใครก็ยิง”

ตำรวจเขาจับสึกแล้วดำเนินคดี แต่ที่เสียดายคือท่านวันชัย อายุ ๕๓ ปี พรรษา ๓๓ คือบวชตั้งแต่เป็นเณร แล้วอีกนานเท่าไรกว่าเราจะได้พระพรรษา ๓๓ มาอีกสักรูปหนึ่ง ? ญาติโยมให้ความศรัทธามาก เพราะว่าบวชตั้งแต่เป็นเณร งานศพมีโยมไปเป็นพันเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นพระลูกวัดธรรมดา”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 28-08-2019, 23:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ส่วนทิดกาญจน์ที่สึกไป ชาวบ้านเขาวิเคราะห์ว่า ทิดกาญจน์ไปฝึกหลอมปรอท น่าจะแพ้สารปรอท ก็เลยเกิดเป็นตุ่มพุพองขึ้นมาในตัว แล้วก็ดันไประแวงว่าคนอื่นทำตัวเอง ก็คงเห็นว่าหลวงพ่อพระครูวิสุทธิ์มีญาติโยมขึ้นเยอะ มีการทำพิธีโน่นนี่ สะเดาะเคราะห์ต่าง ๆ ตามแบบของหมอดู ไอ้นี่ต้องทำกูแน่เลย เขาสรุปง่าย ๆ แบบนั้นแหละ

แล้วที่ดวงเฮงที่สุดคือพระครูวิลาศกาญจนธรรม พอขึ้นเป็นรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิไม่กี่วันเอง ทางด้านนี้ยิงกันตาย ท่านพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แหม..กูเกือบจะซวยไปด้วย..! เพราะว่าดูแลวัดนั้นอยู่ ...(หัวเราะ)... คือวัดโชคผาสุกิจอยู่เขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลท่าขนุน เขต ๒ แต่ท่านอาจารย์วิสุทธิ์เป็นเจ้าอาวาสวัดอู่ล่อง อยู่ในเขตชะแล เขต ๑ แล้วลุงกมล ใจมั่น ถวายที่ไว้ให้ ท่านอาจารย์วิสุทธิ์จึงมาสร้างวัดโชคผาสุกิจขึ้นมา ก็เลยกลายเป็นคาบเกี่ยวกันอยู่ระหว่างสองพื้นที่ ก็คือวัดเก่าอยู่ในเขตตำบลชะแล เขต ๑ วัดใหม่อยู่ในเขตตำบลท่าขนุน เขต ๒”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 28-08-2019, 23:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ก่อนหน้านั้นแค่ไม่กี่วัน ระหว่างที่เจริญกรรมฐานช่วงเช้า มีเสียงพระท่านบอกว่า “จะมีผู้ปองร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาถึงตาย” อาตมาเองก็..ตายละวา..แล้วใครก็ไม่บอก เลยไล่แจกอาวุธ ก็คือแจกเบี้ยแก้ มีดหมอ ให้กับพระของวัดท่าขนุนที่ไปเป็นเจ้าอาวาส ไปเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสหลายรูป หมดไปเยอะเลย ถ้าคิดเป็นมูลค่าตามท้องตลาดก็หลายแสน

แต่ปรากฏว่าพอเรื่องตูมขึ้นมา อาตมาก็เอ๊ะ..อ๋อใช่ ถ้ายังเป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ อยู่ ท่านวันชัยก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะว่าท่านอยู่วัดโชคผาสุกิจ ตอนนี้เป็นรองเจ้าคณะอำเภอ ท่านก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะว่าทั้งอำเภอเท่ากับอยู่ใต้การปกครอง การใบ้หวยแบบนี้อาตมาตีออกทะเลหมดเลย ...(หัวเราะ)...

เรื่องไม่คาดฝันบางทีก็เกิดขึ้นในวงการสงฆ์แบบนึกไม่ถึง ใครจะไปนึกว่าท่านจะไปตัดสินคนง่าย ๆ แล้วก็บอกตำรวจแบบไม่สะทกสะท้านเลยว่าเจอใครก็ยิง ที่น่าเสียดายมากเพราะว่าพระท่านพรรษาขนาดนั้น พวกเรากำลังเล็งมองกันอยู่ ว่าจะให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสในวัดซึ่งมีชาวมอญเยอะ ๆ เพราะว่าท่านวันชัยเป็นมอญ ยังไม่ทันจะได้ใช้งานเลย...มรณภาพเสียแล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 28-08-2019, 23:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ใครที่เป็นฝ้า จะฝ้าเลือด ฝ้าลมอะไรก็ช่าง อย่าไปเสียเวลารักษา เพราะว่าเป็นที่เลือดลมข้างใน เอายาทาข้างนอกไปก็ไร้ประโยชน์ ให้ไปฝึกโยคะ วิธีหายใจแบบโยคะจะช่วยฟอกเลือดลมของเราให้สะอาดขึ้น แล้วฝ้าจะหายไปเอง หรือถ้าขี้เกียจฝึกโยคะก็นั่งสมาธิ ถ้าถึงปฐมฌานละเอียดขึ้นไปก็หายไปเอง เพราะว่าถึงจุดนั้นแล้ว ลมหายใจจะละเอียด ลึก และยาว ก็จะฟอกธาตุขันธ์ภายในได้เองเหมือนกัน

ถ้าไปฝึกซ้อมหายใจแบบโยคะ เขาให้หายใจเข้า ๓๐ วินาทีเป็นอย่างน้อย หายใจออก ๓๐ วินาทีเป็นอย่างน้อย หายใจลงท้อง หายใจลงปอดช่วงล่าง หายใจลงปอดช่วงบน..สารพัดเลย ถ้าไม่เคยหัด บอกไปแค่นี้คงตาย ทำกันไม่ได้หรอก ...(หัวเราะ)...”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 28-08-2019, 23:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยก่อนคนท้องเขาให้ดูแต่สิ่งสวย ๆ งาม ๆ สมัยนี้อาตมาว่าที่เหมาะกับคนท้องที่สุดก็คือเสียงสวดแบบทิเบต โดยเฉพาะเสียงเด็ก ๆ สวด เพราะมากเลย ฟังแล้วเพลิน ลูกในท้องพลอยได้ไปด้วย ดีไม่ดีได้ภาษาทิเบตตั้งแต่ยังไม่ทันจะคลอด ...(หัวเราะ)... เดี๋ยวนี้เขามีให้โหลดเยอะแยะไปหมด ฟังแล้วสุขภาพจิตของแม่ดี ลูกก็ดีไปด้วย ถึงเวลาก็ก่อนนอนไหว้พระ เปิดเสียงสวดไป

อย่างทางด้านเหนือเขาก็มีชินบัญชรล้านนา นั่นก็เพราะมากเลยนะ เปิดไว้ในบ้านเถอะ เทวดามาฟังกันเพียบเลย แต่ว่าเนื้อหายาวกว่าชินบัญชรภาคกลางมาก เพราะว่ามีหัวมีท้ายด้วย ชินบัญชรเป็นไส้กลางเท่านั้นเอง ต้องบอกว่าปราชญ์ทางล้านนาของเราเก่งมาก สามารถแต่งต่อปิดหัวปิดท้ายได้

นักปราชญ์ล้านนาสมัยพระเจ้าติโลกราชนี่สุดยอดมาก มังคลัตถทีปนีของพระสิริมังคลาจารย์ยังใช้งานอยู่จนทุกวันนี้ สอบประโยค ๘ เมื่อไรก็เจอมังคลัตถทีปนีเมื่อนั้นแหละ”


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 28-08-2019, 23:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ถ้าไม่ไปผูกสัมพันธ์ กรรมก็ต่อไม่ได้ ก็จบอยู่แค่นั้นแหละ”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2019 เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว