|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
"เคยไปฟังเขาอบรมคนขายประกัน จับพลัดจับผลูได้เข้าไปฟังกับเขาด้วย คนที่ประสบความสำเร็จเขามาบอกเคล็ดลับให้คนที่กำลังเข้าไปทำว่า คุณไปหาลูกค้าคนที่ ๑ พลาด คนที่ ๒ พลาด คนที่ ๓ พลาด คนที่ ๔ พลาด อย่าเพิ่งท้อใจ ให้ทำต่อไป เขาเองไปประสบความสำเร็จกับลูกค้าคนที่ ๘๑ เขาพลาดมา ๘๐ คนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ท้อ
พอคนที่ ๘๑ ยอมเซ็นสัญญาทำกรมธรรม์กับเขา เขาถามลูกค้าคนนั้นว่าตัดสินใจทำเพราะอะไร เมื่อรู้ความต้องการของลูกค้าก็ไปนำเสนอลูกค้าคนต่อไปได้ง่ายขึ้น พอได้ลูกค้าคนต่อไปก็ถามเขาอีกว่าทำเพราะอะไร ต้องการอะไร แล้วก็นำเสนอลูกค้าคนต่อไป ท้ายสุดเขาประสบความสำเร็จ ได้รางวัลไปเที่ยวต่างประเทศจนเบื่อไปเอง ถ้าเขาท้อตั้งแต่ ๒๐ คนแรก หรือ ๕๐ คนแรก เขาจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะว่าที่เขาประสบความสำเร็จคือคนที่ ๘๑ พระพุทธเจ้าตรัสโอวาทปาฏิโมกข์ ก็คือหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา คำแรกเลยคือ ขันตี ปรมัง ตะโป ตีติกขา ความอดทนเป็นตบะอย่างยิ่ง อันนี้พูดมาแล้วฟังไม่รู้เรื่อง ก็คือ ความอดทนเท่านั้นที่จะหลอมเคี่ยวเรา จนกระทั่งประสบความสำเร็จออกมาเป็นศิลปะวัตถุที่งดงาม เป็นที่ตรึงตราต้องใจของบุคคลทั่วไป ตบะก็คือความร้อนในการเผากิเลส เผาแล้วเปลี่ยนสภาพวัตถุ เผาเพื่อให้เหมาะแก่การใช้งาน ถ้าหากว่าไม่อดทน ประสบความสำเร็จยาก เด็กรุ่นหลังนี่น่ากลัวมาก น่ากลัวที่ว่าขาดความอดทน อุปสรรคมากมีที่ขัดขวาง.............ต้องถากถางบุกบั่นไม่หวั่นไหว ถึงทุกข์ยากลำบากสักเพียงใด..........ต้องฝ่าฟันพ้นไปได้สักวัน ของสิ่งใดการได้มาถ้าลำบาก...........ต้องทุกข์ยากมักมีค่ามหาศาล ดุจเหล็กกล้าผ่านการทุบชุบเป็นนาน...........จึงตระการเป็นอาวุธสุดแหลมคม ช่างซามูไรชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันนี้ที่ตีซามูไรอันดับหนึ่งของโลก เล่มหนึ่งไม่แพงเท่าไรหรอก ห้าแสนกว่าบาท...! เขาบอกว่าเหล็กดีต้องทนร้อยหลอมพันทุบได้ ก็แปลว่าผ่านการหลอม ผ่านการเคี่ยวกรำครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านการทุบ ผ่านการขัดมานับครั้งไม่ถ้วน กว่าจะสำเร็จออกมาเป็นอาวุธที่งดงาม ใช้งานได้อย่างใจ ใคร ๆ ก็ต้องการ สรุป...คนขี้เกียจไม่ประสบความสำเร็จหรอก ยกเว้นสร้างบุญในชาติก่อน ๆ มามากพอ ซึ่งก็แปลว่าขยันมาในอดีตจนเหลือเฟือแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:19 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
"เด็กรุ่นใหม่ฉาบฉวยขาดความอดทน ต้องการรวยเร็ว ไม่ได้ดูรุ่นเก่าเป็นตัวอย่าง รุ่นปู่ย่าตาทวดของอาตมา หอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีน มื้อหน้าจะมีกินหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ค่อย ๆ อดทนทำงาน เก็บหอมรอมริบทีละบาท ทีละสลึง พอได้เงินมาก้อนหนึ่งก็เริ่มลงทุนทำกิจการ เป็นกิจการเล็ก ๆ ขายโอเลี้ยง ขายกาแฟ ขายน้ำเต้าหู้ สะสมเงินขึ้นไป ลงทุนให้ใหญ่ขึ้น เปิดร้านขายของชำ โบราณเขาใช้คำว่า "สู้แค่หน้าตัก" ก็คือมีเท่าไรทำเท่านั้น ผิดพลาดขึ้นมาก็ไม่เป็นหนี้ใคร แต่สมัยนี้เริ่มต้นด้วยการกู้เงิน พลาดขึ้นมาก็มีหนี้ก้อนโต
ที่น่ากลัวกว่านั้น คือเด็กรุ่นใหม่ไม่พยายามศึกษา ขี้เกียจเรียน พอต่อว่าเข้าก็อ้างว่า "มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก กับ สตีฟ จ็อบส์ ไม่เห็นต้องจบปริญญาเลย ก็รวยเป็นหมื่นล้าน" อาตมาถามคืนไปว่า "แล้วมึงชื่ออะไร ? มึงชื่อสตีฟ จ็อบส์ หรือชื่อมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก สองคนนั่นเป็นแค่สองคนในห้าพันกว่าล้านคนในโลกนี้ แค่เม็ดทรายสองเม็ดในมหาสมุทรเท่านั้น แล้วคิดว่ามึงจะประสบความสำเร็จอย่างเขาใช่ไหม ?" เขาเรียกว่าดูตัวอย่างโดยที่ไม่ได้ดูตัวเองเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-10-2019 เมื่อ 20:38 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
"หลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ท่านบอกเสมอว่า "นกไม่มีขน คนไม่มีความรู้ ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้" เราจะไปบอกว่า แจ็ก หม่า ไม่มีความรู้ได้ไหม ? อย่างน้อยเขาก็จบปริญญา เขาก็เป็นครู แล้วพื้นฐานที่แน่นที่สุดคือภาษาอังกฤษของเขาดี
ส่วนใหญ่แล้วพอถึงเวลา ความขี้เกียจ ฉาบฉวย สมองกลวง ก็ทำให้อ้างคนที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ได้ดูตัวเอง ทำอะไรก็ได้ที่งานเบา เงินดี ซึ่งมักจะหาไม่ได้ ท้ายสุดงานเบาเงินดี ก็ต้องนั่งกินเหล้าจนช็อกตาย..เดือดร้อนจนป่านนี้ยังปิดคดีไม่ได้...! เพราะฉะนั้น...คนรุ่นใหม่ได้โปรดอย่าเลี้ยงลูกให้สบาย สอนลูกให้รู้จักความลำบาก ให้เขารู้ว่าโลกเราโหดร้ายกว่าที่คิด จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่เนิ่น ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:22 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
พระอาจารย์ให้พรโยมกลุ่มหนึ่ง "ขอให้ร่ำ ขอให้รวย ขอให้ถูกหวยบ่อย ๆ ....(หัวเราะ)... อันนี้อีกแล้ว ประเภทไม่อยากเหนื่อยอีกแล้ว ถ้าไม่เหนื่อยเราก็จะไม่รู้คุณค่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:22 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้รายการข่าวช่อง ๗ สีเอาเรื่องบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุนไปลง สามสี่วันนี้ก็เลยมีแต่คนโทรมาถาม ปิดกี่โมง ? กลางคืนขึ้นได้ไหม ?
จะขึ้นเวลากลางคืนไปทำอะไร ? บอกว่าให้ไปเสี่ยงชีวิตเอาเอง เพราะว่าบันไดอยู่นอกเขตวัด ขึ้นไปแล้วดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ควรจะขึ้นสักตีห้าครึ่ง คือหลังจากพระทำวัตรเช้าเสร็จ คุณเดินขึ้นไปก็สว่างพอดี ไม่อย่างนั้นเวลากลางคืนบางทีก็อันตราย มีใครทำผิดคิดร้ายก่ออาชญากรรมขึ้นมา ต้องบอกว่าแก้ไขยาก ขอร้องเถอะ...พักในวัดก่อนก็ได้ ตีห้าครึ่งแล้วค่อยขึ้นไป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:23 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มาเลเซียมีสมเด็จพระราชาธิบดี ต้องบอกว่าเป็นตำแหน่งที่เป็นสัญลักษณ์ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็น โดยเลือกจากสุลต่านรัฐต่าง ๆ คัดเลือกกันขึ้นมา
แต่มีอยู่ ๔ รัฐคือไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู ปะลิส ห้ามเป็นสมเด็จพระราชาธิบดี เพราะว่า ๔ รัฐนี้เคยเป็นของประเทศไทย แล้วมีคนไทยอยู่มาก จะเห็นว่าทุกประเทศเขากีดกันบุคคลที่ไม่ใช่เชื้อชาติของเขา มีประเทศเราที่เป็นสวรรค์ จะชาติไหน ภาษาไหนมากูรับทั้งนั้น กลายเป็นม้าอารี จะโดนเขาบี้ตายอยู่แล้วก็ยังไม่รู้ตัว..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:24 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
มีเด็กบ่นกับพ่อแม่ว่า "หนูเบื่อ" พระอาจารย์จึงกล่าวกับเด็กว่า "เบื่อก็อย่าเกิดสิลูก รู้ไหม..? เกิดมาก็ต้องเบื่ออย่างนี้แหละ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:24 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เครื่องรางในตำนาน ๙ อย่าง "หมากดีที่วัดหนัง" เป็นอันดับหนึ่ง หมากทุยนี่ถ้าลูกเล็กเป็นของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หรือ หลวงพ่อผล วัดหนัง แต่ถ้าลูกใหญ่กลายเป็นของหลวงปู่รอด วัดนายโรง
ช่วงนี้กำลังหาเงินสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีอยู่ วันนี้ได้แปดล้านห้าแล้ว กำลังจะหาให้ครบสิบล้านภายในพรุ่งนี้ เชื่อเถอะ...เดี๋ยวก็มาเอง อาตมาไม่เคยนอกครู ครูจึงต้องช่วย ถึงเวลาครูบอกอะไรก็ต้องอย่างนั้นแหละ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:31 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
"เมื่อสักครู่ตั้งใจว่าจะหยิบเอาสายคาดของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัวมาด้วย แต่กลัวคนเอาไปใช้งานจริง เพราะว่าเก่าและกรอบ ถ้าเอาไปใช้จริง ๆ เดี๋ยวจะแตกหักหมด น่าเสียดาย...สภาพสมบูรณ์มาก ก็เลยไม่หยิบลงมา
หลวงปู่ยิ้ม ก็มีหนึ่งในเก้าเครื่องรางสะท้านแผ่นดิน คือ "แหวนอักขระวัดหนองบัว" หมากดี ที่วัดหนัง เบี้ยขลัง วัดนายโรง ไม้ครู คู่วัดอินทร์ มีดบิน วัดหนองโพธิ์ พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง ราหู คู่วัดศีรษะ แหวนอักขระ วัดหนองบัว ลูกแร่ที่บางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปานฯ เก้าเครื่องรางสะท้านแผ่นดิน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-10-2019 เมื่อ 20:38 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
"หมากดีที่วัดหนัง ก็คือหมากทุยของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หลวงปู่เอี่ยมเป็นพระเถระที่ในหลวงรัชกาลที่ ๕ เคารพนับถือมากที่สุด พระองค์ท่านจะเดินทางไปยุโรป ทรงไปกราบถามหลวงปู่เอี่ยมว่าจะมีอันตรายอะไรไหม ? หลวงปู่เอี่ยมทูลว่ามี แต่แก้ไขได้ด้วยพุทธบารมี เสร็จแล้วก็เขียนผ้ายันต์ถวายให้ พร้อมกับพระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
คราวนี้พอเรือพระที่นั่งวิ่งไป ไปเจอน้ำวนจะดูดเรือเข้าไป พระองค์ท่านนึกได้ว่าหลวงปู่เอี่ยมบอกว่าถ้ามีอันตรายให้ใช้ผ้ายันต์นี้ จึงตั้งสัตยาธิษฐานโบกผ้ายันต์ ปรากฎว่าเกิดลมพายุ พัดเรือหลุดจากวังวนออกไป พอไปถึงฝรั่งเศส เขาแกล้งเอาม้าพยศมาให้พระองค์ท่านขี่ ท่านดูท่าไม่ดีก็เลยเสกหญ้าด้วยคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าส่งให้ม้ากิน กลายเป็นม้าเชื่อง ๆ ไปเลย ฉะนั้น...ของหลวงปู่เอี่ยมเขาไม่ได้หาแต่หมากทุย เพราะว่าหมากทุยหายาก นาน ๆ จะเจอหมากตายพรายก็คือตายคาต้นสักที คราวนี้ที่ตายคาต้นส่วนใหญ่ก็ลูกเล็ก ๆ เท่าที่เจอมาเต็มที่ก็ประมาณหัวนิ้วโป้ง แต่ว่าของหลวงปู่รอด วัดนายโรง ท่านไปเจอประเภทตายตอนเป็นลูกใหญ่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 05:07 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
"เบี้ยขลัง วัดนายโรง เป็นเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง แต่จริง ๆ แล้วชื่อเสียงก็ตีคู่มากับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แต่เนื่องจากว่าหลวงปู่บุญท่านอยู่ต่างจังหวัด สมัยโน้นหลวงปู่รอดถือว่าอยู่ธนบุรี ยังพอไปมาหาสู่ได้ง่ายกว่า หลวงปู่รอดก็เลยมีชื่อเสียงมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วท่านเรียนมาจากอาจารย์เดียวกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:15 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
"ไม้ครูคู่วัดอินทร์ ไม้ครูนี่หายากมาก หลวงปู่ภู วัดอินทร์ท่านธุดงค์อยู่ ๓๐ กว่าปี กว่าจะหาวัสดุมาทำไม้ครูได้ วัสดุก็คือกอไผ่ที่โดนฟ้าผ่า ล้มไปทางทิศตะวันออก และต้องรอจนกว่าจะมีโขลงช้างผ่านมาแล้วเดินข้ามไปทั้งโขลง โดยที่ไม่มีตัวไหนดึงมากิน
หลวงปู่ท่านธุดงค์อยู่ ๓๐ กว่าปีจึงได้มา เสร็จแล้วก็ต้องทำพิธีพลีกรรม ขอเทวดา ขอเจ้าที่ ตัดมาทำเป็นไม้เท้า ต้องเอาไปจิ้มศพที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคารให้ได้ครบ ๗ ศพ แล้วค่อยมาจักเป็นตอกเก็บเอาไว้ พอถึงเวลาก็ทำ เขียนพระนามพระพุทธเจ้า บรรจุไว้ข้างใน ก็เลยเรียกว่าไม้ครู แต่จริง ๆ แล้วก็คือตะกรุด ตะกรุดไม้ครู"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:16 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
"มีดบินวัดหนองโพธิ์ ก็คือมีดหมอเทพศาสตรา หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ความจริงหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ทำมีดหมอสำเร็จก่อน แล้วเป็นศิษย์พี่ แต่หลวงพ่อเดิม วัดของท่านอยู่ข้างสถานีรถไฟ หลวงพ่อรุ่งอยู่หนองสีนวล เดินเท้าไปอีกเป็นวัน ใคร ๆ จึงแห่ลงที่หนองโพธิ์กันหมด เพราะว่าลงรถไฟแล้วเข้าวัดได้เลย หลวงพ่อเดิมก็เลยดังระเบิดเถิดเทิง ทั้ง ๆ ที่หลวงพ่อรุ่งเป็นคนช่วยกำกับในการทำมีดหมอรุ่นแรก ๆ ให้หลวงพ่อเดิม
ฉะนั้น...คนนครสวรรค์นี่รื่นเริงบันเทิงใจมาก มีมีดหมอหลวงพ่อเดิม ขายเล่มหนึ่งสามแสนห้าแสน มีดหมอหลวงพ่อรุ่งเก็บไว้ใช้ เขาบอกว่า "มีดหลวงพ่อรุ่งเอาไว้ใช้ มีดหลวงพ่อเดิมเอาไว้ขาย" เพราะว่าของหลวงพ่อรุ่งนี่สองสามหมื่นหาได้ ถ้าสวย ๆ เต็มที่ก็สี่ห้าหมื่นเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:24 |
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
"พิสมรวัดพวงมาลัย เป็นตะกรุดของหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ต้องไปตัดใบลานที่ตำบลบางปืน คราวนี้วัดพวงมาลัยกับบางปืน สมัยก่อนกว่าจะไป แจวเรือกันเป็นวัน ๆ คนก็บ่นท่านว่า ทำไมต้องไปหาไกลขนาดนั้นด้วย ใบลานแถววัดเราก็เยอะแยะ
ท่านบอกว่าเขาถือเคล็ด บางปืนคล้องกับคำว่าบังปืน กันอาวุธปืนได้ ได้มาก็หาฤกษ์งามยามดีลงอักขระ เสร็จแล้วก็ม้วนเป็นตะกรุด ซึ่งมียาวมีสั้น พอถึงเวลาญาติโยมใครตัดมาท่านก็ทำให้ ถ้ายาวหน่อยก็ม้วนเป็นตะกรุดยาว ๆ เหมือนมวนบุหรี่ใหญ่หน่อย ก็เรียกว่า ตะกรุดใบลานบังปืน ถ้าหากว่าสั้นลงมาหน่อย ม้วนใหญ่ เขาเรียก ตะกรุดลูกกลอง ถ้าสั้น ๆ ม้วนแล้วถักเลย เรียกว่าพิสมร จริง ๆ แล้วก็คืออย่างเดียวกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:25 |
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
"สมัยก่อนท่านเจ้าเมืองสมุทรสาครไปไหนนี่เครียด ไปเมื่อไรเขาก็ถาม "ท่านเจ้าคุณ มีของดีหลวงปู่วัดพวงมาลัยมาบ้างไหม ?" โดยเฉพาะเข้ากรุงเทพฯ มา ผู้ใหญ่สมัยนั้นไม่ว่าจะเชื้อพระวงศ์หรือว่าผู้ใหญ่ในวงราชการก็ถามหากัน ที่วัดพวงมาลัยมีตำหนักเอาไว้ต้อนรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ คิดดูว่าท่านดังขนาดไหน ดังขนาดไม่มีวัสดุเหลือเอาไว้ทำตะกรุด ต้องเอาสังกะสีมุงหลังคามาทำตะกรุด ฉะนั้น...เจอตะกรุดสังกะสีผุ ๆ เก่า ๆ รีบคว้าเอาไว้เลย มีรายเดียวที่ทำแบบนี้
แต่ที่หนักกว่าก็คือหลวงพ่อเต๋ วัดสามงาม อันนั้นหาอะไรไม่ได้จริง ๆ ก็เอาถุงปูนที่ก่อสร้างนั่นแหละ มาตัด ๆ เขียนอักขระแล้วก็ม้วนเป็นตะกรุดให้ นอกจากมีตะกรุดสังกะสีแล้วจึงยังมีตะกรุดถุงปูนอีก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:26 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
"ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง เป็นของหลวงปู่ทองศุข หลวงปู่ทองศุขอยู่ใจกลางเพชรบุรี ดงคนดุ สมัยก่อนคนเพชรบุรีหาแต่อาจารย์เหนียวอย่างเดียวเลย ทางนั้นก็สุดยอดทั้งนั้น ลูกศิษย์แต่ละอาจารย์ไม่มีอะไรทำก็ลองของกันเอง
หลวงปู่ทองศุขท่านเอาครั่งพุทรา ต้องเป็นกิ่งที่ชี้ตะวันออกอย่างเดียว เอามาทำวัตถุมงคล เป็นตะกรุดพอกครั่ง ใบลานพอกครั่ง ลูกอมพอกครั่ง หนังหน้าผากเสือพอกครั่ง แม้กระทั่งเบี้ยแก้พอกครั่ง หายากที่สุดก็คือเบี้ยแก้ แต่ที่หายากกว่านั้นก็คือพระที่ทำจากครั่ง เป็นเรื่องแปลก คนไปเที่ยวหาตะกรุด หาอย่างอื่น อาตมาหาพระ พระที่ทำขึ้นมาจากครั่งของท่าน หลวงปู่ทองศุขท่านเก่งขนาดไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าพระอาจารย์เมืองเพชรบุรีรุ่นหลัง ๆ ที่ดังคับบ้านคับเมืองนี่ลูกศิษย์หลวงปู่ทองศุขทั้งนั้นแหละ" ถาม : ครั่งเป็นอย่างไรคะ ? ตอบ : ครั่งเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ ถึงเวลากินน้ำเลี้ยงต้นไม้แล้วก็ขี้เอาไว้ แล้วก็ไปขูด ๆ มารวมกัน เคยเห็นเขาตีตราพัสดุไปรษณีย์รุ่นเก่า ๆ ไหม ? นั่นแหละขี้ครั่ง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:29 |
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
หลวงปู่ทองศุขมีวิชามหาสูญที่ไม่มีใครได้รับถ่ายทอดไว้...น่าเสียดาย มีเด็กอยู่คนหนึ่งเกิดมาเป็นปานแดงเต็มหลังเลย แล้วปานแดงผิวอ่อนมาก โดนผ้าก็แสบร้อน ร้องจ้าอยู่ทั้งวัน แม่อุ้มไปหาหลวงปู่ทองศุขถามว่าช่วยได้ไหม หลวงปู่ทองศุขท่านก็พิจารณาแล้วพิจารณาอีก ท้ายสุดก็เอ้า...พอได้ ท่านให้วางเด็กลงแล้วเอาเท้าเหยียบแล้วว่าคาถา ไม่น่าเชื่อปานเต็มหลังหายไปเลย แต่หลวงปู่ก็คงต้องไปรับกรรมแทนเขา เพราะว่าป่วยหนักไปเป็นปีเลย
ถาม : เหมือนโนราห์ เขามีวิชาที่ใช้เหยียบบนลูกมะนาวก่อน ? ตอบ : ทางด้านเราก็มี เรียกว่าเหยียบฉ่า ถึงเวลาก็เอาผาลไถเผาจนแดง เหยียบว่าคาถา ควันขึ้นโขมงเลย แล้วไปเหยียบคนป่วยให้หายได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:30 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
ราหูคู่วัดศีรษะ ราหูกะลาแกะ กะลาตาเดียวของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง อัศจรรย์ที่ว่าครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ทางภาคเหนือกับหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ภาคกลาง ทำกะลาตาเดียวแกะเป็นราหูเหมือนกัน ทำวัวธนูพอกครั่งเหมือนกัน เขาบอกว่าตำรานี้มาจากเวียงจันทร์ หลวงพ่อน้อยท่านก็เป็นลาวเวียงจันทร์อพยพมา ครูบานันตาก็น่าจะใช่ เพราะว่าทางล้านนากับล้านช้างสมัยก่อนไปมาหาสู่กันอยู่ โดยเฉพาะพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก็ประเภทเจ้าชายเชียงใหม่ไปครองกรุงเวียงจันทร์
ราหูของหลวงพ่อน้อย เขาบอกว่ากลับร้ายกลายเป็นดี หนุนดวง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:31 |
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
แหวนอักขระ วัดหนองบัว ก็แหวนของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ทำแหวน ทำพิรอดแขน ทำเชือกคาดเอว ต้องหาผ้าห่อศพ ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร เขียนอักขระแล้วก็ถัก หลังจากนั้นก็ชุบรัก เป็นแหวนบ้าง เป็นพิรอดแขนบ้าง เป็นเชือกคาดเอวบ้าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2019 เมื่อ 10:31 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
ลูกแร่ที่บางไผ่ เป็นวัตถุมงคลที่สร้างจากโลหะพิเศษ ที่เรียกว่าแร่บางไผ่ ของ หลวงปู่จัน วัดโมลี เขาหาพระปิดตาแร่บางไผ่ ส่วนอาตมาหาลูกอมแร่บางไผ่ หายากกว่าตั้งเยอะ แต่ละปีกว่าจะได้สักลูกหนึ่งก็แทบน้ำตาเล็ด เพราะว่าเจ้าของเขาหวงมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:12 |
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|