|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
“ท่านอาจารย์บูรพาท่านเป็นพระเอกลิเกเก่า แม่ยกเยอะมาก เรียกว่าสร้างวัดด้วยอิทธิฤทธิ์แม่ยกเลย แค่นั้นยังไม่พอ แม่ยกมนุษย์ยังไม่พอ ท่านยังมีแม่ยกนางฟ้าอีก ก็คือแม่นางกาหลง ท่านบูรพาไปปฏิบัติธรรมในป่า แล้วไปเจอว่า “ทำไมตรงนี้นกกาตายเกลื่อนกลาดไปหมด ?” ปรากฏว่าเป็นต้นกาหลง ซึ่งมีอิทธิพลในการดึงดูดนกกาให้มาแล้วไม่อยากไปไหน จนอดตายเกลื่อนเลย ท่านจึงขอพลีมาสร้างเป็นวัตถุมงคลพวกเมตตามหานิยม ดังระเบิดเถิดเทิง
แต่ผ่านมาหลายปีเต็มทีแล้ว ประมาณ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว ของไม่เหลือแล้ว ใครอยากได้ให้ไปหาของเก่า ๆ หรือไม่ก็ไปไถท่านเอา อาตมาไม่ได้ขอท่านหรอก เพราะว่าถึงเวลาก็ขอพระท่านเสกเองได้ ตอนนี้ท่านยอมแพ้อยู่ ๒ อย่าง อย่างหนึ่งคือเรื่องตำแหน่งเรื่องสมณศักดิ์ที่ท่านไล่ไม่ทัน อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของการปลุกเสกวัตถุมงคล ท่านบอกว่าของท่านถ้าแม่กาหลงไม่ช่วย ท่านก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาขลัง ส่วนของอาตมามีพระ มีครูบาอาจารย์ช่วย ตรงนี้ท่านเลยไล่ไม่ทัน”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2020 เมื่อ 21:09 |
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
ถาม : พระที่เป็นโลหะมีพลังอะไรที่แรงกว่าพระผงหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : โลหะบางอย่างเก็บพลังได้ดี อย่างเช่น ตะกั่ว ทองคำ เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของการประจุพลังก็จะได้มากกว่า ซึ่งเกิดจากการเรียงตัวของโมเลกุลที่ต่างกัน ส่วนในเรื่องของผงนั้น ต้องใช้เวลาในการทำและต้องใช้กำลังสมาธิที่สูงมาก ถาม : ตอนจัดพระที่บ้าน เวลาเจอพระที่เป็นโลหะ รู้สึกเหมือนมีแรงดูดค่ะ ? ตอบ : ถ้าหากว่าไปเจอพระที่ท่านเสกด้วยกำลังสูง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระผงหรือพระโลหะก็จะเหมือนกัน ถ้าหากว่าไปเจอท่านที่พลังงานน้อยหน่อย ได้โลหะหรือผงที่เหมาะสมกว่าก็รับพลังได้จะดีกว่า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2020 เมื่อ 21:09 |
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
พระอาจารย์แจ้งว่า “วันที่ ๑๒ สิงหาคมนี้เป็นวันแม่แห่งชาติ ปกติอาตมภาพจะนิมนต์พระสุปฏิปันโน ไม่ว่าจะมาในสายพุทธภูมิหรือว่าสาวกภูมิก็ตาม มาให้ญาติโยมทั้งหลายได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ แต่ว่าปีนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-๑๙ ที่แพร่ระบาด ยังไม่ดีขึ้น จึงไม่ได้นิมนต์พระทั้งหลายเหล่านี้มาให้ทำบุญเหมือนกับทุกปี แต่ว่าจะทำบุญเป็นการภายใน ก็คือเจริญพระพุทธมนต์โดยพระวัดท่าขนุนเท่านั้น
งานทำบุญวันแม่ยังมีเป็นปกติ แต่เป็นการทำบุญโดยอาศัยเฉพาะพระวัดท่าขนุน ในส่วนของพระวัดท่าขนุนนั้น เมื่อถึงเวลาพวกเราก็สวดมนต์ ทำวัตร เจริญกรรมฐานกันเป็นปกติ”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2020 เมื่อ 21:10 |
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อตอนบ่ายสองโมงพระอาจารย์มหาเอมาแจ้งให้ทราบว่า ท่านอาจารย์สุชาติ เลิศภูมิปัญญา ซึ่งเป็นผู้ปั้นรูปพระปัจเจกพุทธเจ้าที่อาตมภาพจะหล่อด้วยเนื้อเงินแท้ บอกว่าควรที่จะหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงินพร้อมกับพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ นี้เลย ซึ่งอาตมาก็เห็นด้วย
ก่อนหน้านี้ที่ตั้งใจจะให้หล่อปีหน้า ก็เพื่อให้ท่านอาจารย์สุชาติได้มีเวลาในการทำงาน แต่ปรากฏว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่ทางวัดท่าขนุนต้องการ ส่วนใหญ่ท่านอาจารย์สุชาติท่านจะรู้ก่อน ก็เลยกลายเป็นว่าท่านปั้นแบบเอาไว้ได้ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่ตกแต่งแก้ไขนิดหน่อย ทางด้านช่างหล่อก็คือช่างหนึ่งก็บอกว่า ถ้าทำงานพร้อมกันก็เป็นการสะดวก และประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางไป ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง ดังนั้น..จึงขออาศัยโอกาสนี้แจ้งให้ญาติโยมทั้งหลายได้ทราบว่า วันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ ทางวัดท่าขนุนจะหล่อพระสององค์ก็คือ พระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ และพระปัจเจกพุทธเจ้าหน้าตัก ๔๐ นิ้วเนื้อเงิน พร้อมกันในเวลา ๑๑.๐๐ น. ก็แปลว่าวันนั้นจะฉันเพลกันช้าหน่อย ที่อาตมาเห็นด้วย ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า ระยะหลังนี้อาการโรคภัยไข้เจ็บหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่ญาติโยมก็จะเห็นอาตมาทำงานไปตามปกติ เพราะว่าทำงานกันแบบคนมีวันนี้วันเดียวเท่านั้น ถ้าสามารถหล่อพระที่ตั้งใจเอาไว้ให้เสร็จภายในระยะเวลาที่เร็วเท่าไร ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัวเท่านั้น เพราะว่าอาตมาไม่ไว้ใจสภาพสังขารของตน ซึ่งตอนนี้ก็ย่างเข้า ๖๒ ปีแล้ว ถือว่าเกินอายุขัยมาเป็นเท่าตัวแล้ว การที่จะได้อยู่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและพระพุทธศาสนาก็ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ ในเมื่อผู้ปั้นองค์พระและช่างพร้อม สามารถทำพร้อมกันไปได้เลย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง ”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2020 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 249 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
“สำหรับท่านที่นำเม็ดเงินเพื่อจะไปแลกพระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อเงินนั้น เม็ดเงินที่ต้องการเป็นเม็ดเงินนอก ซึ่งค่อนข้างจะหายาก เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดเงินนอกปนเม็ดเงินไทยเสียมาก มีคำแนะนำว่า ถ้าท่านมีเวลา ให้เลือกเม็ดเงินที่เม็ดใหญ่ ๆ บิด ๆ เบี้ยวออก ให้เหลือแต่เม็ดเล็ก ๆ ที่มีขนาดสม่ำเสมอกัน แล้วซื้อเม็ดเงินนอกมาเติมให้ครบกิโลกรัม ก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นแล้วท่านเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่ได้ของที่ปะปนมาแล้วใช้ไม่ได้ ก็จะทำให้เสียเงินไปโดยใช่เหตุ
ร้านที่รักชื่อเสียงตนเองจะขายเม็ดเงินนอกแท้ แต่พวกเราส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้อยู่ใกล้ก็อาจจะไม่สามารถที่จะซื้อหาได้ ราคาเม็ดเงินนอกแท้ก็ค่อนข้างจะแพงกว่าเม็ดเงินในบ้านเราที่ใช้เทคโนโลยีในการทำต่ำกว่า ในเมื่อราคาเม็ดเงินภายในต่ำกว่า เขาเอามาปนใส่กันไป แล้วขายเป็นราคาเม็ดเงินนอก เขาก็จะได้ราคาที่สูงกว่า ถือว่าเป็นการกระทำที่ปกติของพ่อค้า พวกเราก็พยายามแก้ไข ในเมื่อซื้อหามาแล้วคืนไม่ได้ ก็ทำให้ดีที่สุด ด้วยการคัดเลือกเอาส่วนที่เป็นเม็ดใหญ่มีสภาพหยาบออกมา ส่วนที่ขาดก็หาทดแทนกลับเข้าไป ก็น่าจะที่จะพอใช้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วหลายท่านบางทีฝากซื้อกันที ๒๐-๓๐ กิโลกรัม ถ้าบอกว่าใช้ไม่ได้เลยก็เป็นลมตายกันพอดี..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2020 เมื่อ 20:11 |
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “หน้ากากอนามัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์สามารถป้องกันไวรัสได้ดีกว่าหน้ากากผ้า ถ้าไม่ลำบากหรือว่าติดที่ราคาแพง ใช้แล้วทิ้ง ให้หาหน้ากากอนามัยมาใช้จะทำให้ปลอดภัยกว่า
เพียงแต่ว่าหลายท่านเมื่อใส่หน้ากากแล้วก็อึดอัดหายใจไม่ออก บางท่านเหมือนกับเลือดเลี้ยงสมองไม่พอ ทำท่าจะนั่งหลับอย่างเดียว นั่นเป็นอาการปกติของสมองที่ได้รับออกซิเจนน้อย แสดงว่าปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ บุคคลที่ปอดทำงานดีที่สุดในโลกก็คือชาวทิเบต เนื่องจากบ้านเรือนเขาอยู่ในที่ที่ความสูงเกินกว่า ๕,๐๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อากาศเบาบางมาก ทำให้ต้องมีปอดที่มีคุณภาพ สามารถกรองออกซิเจนที่มีอยู่น้อยอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าหากว่าใครไปทิเบต ลงจากเครื่องบินแล้ว เห็นคนเดินฉับ ๆ ๆ เลย ให้รู้ว่านั่นคือชาวทิเบต ส่วนคนทั่ว ๆ ไปอย่างพวกเราก็ต้องค่อย ๆ ย่อง แค่เดินไม่กี่ก้าวก็หอบแล้ว หายใจไม่ทัน พอสมองขาดออกซิเจนมาก ๆ อาการหนึ่งที่ปรากฏชัดที่สุดก็คือปวดหัวมาก ซึ่งความจริงเป็นสัญญาณชีพอย่างหนึ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่า อันตรายเกิดขึ้นกับสมองแล้ว ก็คือได้รับออกซิเจนน้อย ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ถ้าจะไปในสถานที่แบบนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือฝึกหายใจแบบโยคะ ซึ่งการฝึกหายใจแบบโยคะนั้น มีการหายใจด้วยปอดช่วงบน หายใจด้วยปอดช่วงล่าง หายใจด้วยท้อง ทำให้ได้รับออกซิเจนมากขึ้น เมื่อเจอกับสภาพอากาศน้อย เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฝึกฝนมา ก็จะไม่มีปัญหามากนัก”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2020 เมื่อ 20:12 |
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “อิติปิ โส.. ‘อิติ’ เป็นหนึ่งคำ ‘โส’ เป็นอีกหนึ่งคำ ส่วนใหญ่เขียน ‘อิติปิโส’ ติดกัน เป็นคำเดียวกันนั้นไม่ถูกต้อง ต้องเว้นวรรคให้แยกกัน”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2020 เมื่อ 20:13 |
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
ถาม : เวลาถวายสังฆทานควรวางกำลังใจอย่างไรเจ้าคะ ?
ตอบ : เอาพระนิพพานเป็นหลัก หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า พระนิพพานเหมือนกับยอดเขาสูงสุด ถ้าเราตั้งใจจะขึ้นให้ถึงยอดเขาสูงสุด ตลอดทางมีอะไรก็ต้องพบต้องเจออยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2020 เมื่อ 20:13 |
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เตือนโยมท่านหนึ่งว่า “จะทำบุญหรือแสดงความเคารพให้ถอดหมวกก่อน แสดงว่าไม่เคยรู้ธรรมเนียมสินะ ระวังนะ..ใส่หมวกไหว้พระคนโบราณเขาบอกว่าโทษจะทำให้หัวล้าน..!
การเข้าไปในสถานที่เคารพ เขาให้ถอดรองเท้า ลดร่ม ถ้าเป็นพระห่มคลุมอยู่ก็ให้ห่มเฉวียงบ่า ถ้าใส่หมวกก็ให้ถอดหมวก เราจะเห็นว่าแม้แต่ฝรั่ง เมื่อถึงเวลาจะแสดงความเคารพ เขาก็จะถอดหมวกก่อน เพราะฉะนั้น..จะบอกว่าใส่หมวกเป็นธรรมเนียมฝรั่งก็ไม่ได้ การใส่หมวกเป็นแฟชั่น เพราะว่าทางยุโรป อเมริกา เป็นเมืองหนาว โอกาสเจอแดดมีน้อย ดังนั้น..เขาไม่เสียเวลาใส่หมวกเพื่อกันแดดกันหรอก เพียงแต่ว่าช่วงนั้นแฟชั่นการใส่หมวก ถือไม้เท้า เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ส่วนผู้หญิงจะใส่หมวก มือถือผ้าเช็ดหน้า ห้อยตะกร้าหรือกระเป๋าถือ พอแฟชั่นแพร่หลายออกไป ก็ใส่กันไปทั่ว โดยไม่รู้ว่ามาจากแฟชั่นตรงนี้เอง”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:24 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
“ส่วนบ้านเราที่ใส่หมวก ส่วนใหญ่เพราะว่าทำงานกลางแจ้ง ดังนั้น..คนไทยเราจะมีงอบ คนจีนมีหมวกกุยเล้ย ซึ่งจะเป็นหมวกใบใหญ่ กันแดดกันฝน แล้วคนไทยเรายังเก่งตรงที่ว่า ทำรองในสำหรับสวมศีรษะ แล้วถึงจะเป็นตัวงอบอยู่ด้านบนเพื่อกันแดดกันฝน การทำเช่นนี้ทำให้ไม่อบจนกระทั่งเหงื่อออกเปียกไปทั้งหัว แบบนี้เป็นการใส่หมวกเพื่อประโยชน์จริง ๆ ที่ไม่ใช่หมวกแฟชั่น
ส่วนของทหารที่ใส่หมวก เป็นหมวกเหล็ก เอาไว้กันสะเก็ดระเบิด หรือกระสุนปืนที่ไม่ได้โดนจัง ๆ เวลากระทบหมวกเหล็กก็จะแฉลบไป แต่ถ้าโดนตรง ๆ หมวกเหล็ก ๒ ใบ ๓ ใบก็กันไม่ได้ อาวุธสงครามยิงด้วยความเร็วสูง ๒,๕๐๐ ฟุตต่อวินาที อาตมาเคยทดลองกับหมวกเหล็ก ๓ ใบ ทะลุหมดเลย..! เพียงแต่ว่าถ้าโดนเฉียด ๆ ประมาณว่าหัวจะแหว่ง ก็ช่วยกันให้ไม่ถึงตาย แค่บาดเจ็บสาหัส ถ้ามีหมวกเหล็กอยู่ กระสุนหรือสะเก็ดระเบิดก็จะแฉลบ ไปไม่เข้าเนื้อ ไม่โดนหัว พอใส่หมวกเหล็กออกรบ ด้วยความเคยชิน พออยู่ในที่ตั้งก็เอาหมวกเหล็กออก เหลือแต่รองใน แล้วคราวนี้การที่จะใส่หมวกรองในก็ไม่ค่อยสะดวก เขาก็เลยเปลี่ยนเป็นหมวกผ้าที่เรียกว่าหมวกแก๊ป ซึ่งก็คือหมวกปีก คนไทยเราบางทีก็ลืมคำเรียกเก่า ๆ กันหมดแล้ว ไปเรียกตามฝรั่งว่าหมวกแก๊ป ซึ่งก็คือหมวกสวมหัวที่มีปีกไว้กันแดดส่องเข้าตา ดังนั้น..การที่จะใช้หมวกเพื่อประโยชน์ในการกันแดดกันฝนจริง ๆ ก็จะเป็นทางด้านเอเชียของเราที่ฤดูร้อน-ฤดูฝนดุเดือดหน่อย ส่วนฝรั่งเขาใส่หมวกกันเป็นแฟชั่น หรือใส่กันหนาว”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:27 |
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
“สมัยนี้หาคนที่มีฝีมือ ทำงอบทำหมวกกุยเล้ยดี ๆ ยากแล้ว แม้กระทั่งหมวกกุบอย่างของพวกญวนก็หาคนทำยาก วัสดุง่าย ๆ อย่างใบไผ่ หรือว่ากาบใบเลี้ยงของต้นไผ่ เอามาทำเป็นหมวก โดยการสานตอกไม้ไผ่ซ้อนอยู่สองชั้น ก็คือสานชั้นใน สอดไส้ด้วยใบไผ่หรือไม่ก็กาบเลี้ยงของต้นไผ่ แล้วสานชั้นนอกทับ ถ้าหากว่าสอดไส้ดี ๆ จะใช้ได้หลายปี กันแดดกันฝนได้ดีมาก”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:27 |
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในวงการสงฆ์ของเรากล่าวกันว่า พระภิกษุสามเณรของเราโชคดี ยังไม่มีใครเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะไวรัสโควิด-๑๙ แต่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา วัดไทยที่ลาสเวกัส เสียพระระดับเจ้าอาวาสไปด้วยโรคนี้ ส่วนพระลูกวัดอีก ๓ รูปก็อาการหนักจนเขาต้องนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางสหรัฐอเมริกานั้น ถ้าไม่ใช่อาการหนักจริง ๆ เขาก็ปล่อยให้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ให้โทรถามหมอเอาเองว่าอาการแบบนี้จะรักษาอย่างไร..? แล้วหมอก็จะแนะนำให้ไปหายากินเอาเอง ปรากฏว่ามีการหามพระไทยใส่เปลขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล แสดงว่าอาการหนักมากแล้ว
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเสรีจนเกินเหตุ แม้กระทั่งเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บก็ยังไม่ยอมระวังป้องกัน เพราะเขาถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งอาตมาใช้คำพูดกับเพื่อนพระสังฆาธิการด้วยกันว่า “ไปละเมิดสิทธิที่เขาจะตาย เพราะฉะนั้น..ปล่อยให้ตายไปตามสิทธิ์ของเขาก็แล้วกัน..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:29 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
“ในเรื่องของโรคระบาดเท่าที่ดูสถิติ ในแต่ละรอบ ๑๐๐ ปีจะเกิดโรคระบาดหนัก ไม่ว่าจะเป็นกาฬโรค ไข้เหลือง ไข้หวัดสเปน มายุคนี้ก็เป็นโควิด-๑๙ แต่ละครั้งที่ระบาดในอดีตก็ตายกันเป็นล้าน ๆ คน ปัจจุบันของเราตัวเลขคนตายอยู่ที่หลักแสน แต่ว่าของสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว เขาบอกว่าเฉลี่ยตายวันละ ๑,๕๐๐ คน ก็คือประมาณนาทีละ ๑ คน ขนาดนั้นก็ยังมีคนเชื่อว่าเป็นข่าวหลอก..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:30 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ระยะนี้ญาติโยมจะเห็นว่าทองคำราคาขึ้นไปมาก เกิดจากสงครามที่ทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย สงครามที่เปิดเผยก็คือสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่สหรัฐพยายามกดดันทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้จีนตบะแตก ตอบโต้แรง ๆ แล้วตนเองจะได้โหมฟืนโหมไฟให้คนอื่นตระหนกตกใจ จะได้ช่วยกันซื้ออาวุธ ซึ่งสหรัฐเป็นพ่อค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่จีนก็พยายามอดทน อดกลั้น อดออม ผ่อนปรนจนถึงที่สุด แม้ว่าจะโดนรุมตีแบบไม่ยุติธรรมเลยก็ตาม จีนรู้ว่าถ้าหากว่ามีสงครามขึ้นมาในยุคนี้ ระดับความเสียหายจะมากมายมหาศาล
ส่วนสงครามที่ไม่เปิดเผยนั้น เราจะเห็นว่าอยู่ ๆ เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐก็เกิดไฟไหม้ สถานที่สำคัญหลายแห่งของสหรัฐก็เกิดไฟไหม้ไล่ ๆ กัน แล้วเป็นเรื่องที่น่าสังเกตเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ ทำไมไฟไหม้ข้ามวันข้ามคืน ทั้ง ๆ ที่น่าจะใช้วัสดุเคมีดับไฟได้อย่างง่ายดาย”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:31 |
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
“แล้วก็ยังมีสงครามในบริเวณตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะระหว่างตุรกีกับซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นยิวกับปาเลสไตน์ ไม่ว่าจะเป็นเยเมนกับซาอุดิอาระเบียก็ตาม เรื่องพวกนี้ทำให้บรรดาผู้ที่มองการณ์ไกลต้องการตุนทองคำ ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะไม่ว่าค่าเงินจะลดจะเพิ่มอย่างไรก็ตาม ค่าของทองคำจะคงอยู่ตัวเสมอ
ประกอบกับที่แม้ว่ารัฐบาลทหารของบ้านเรา จะนำผู้มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจมาช่วยทำงาน แต่ก็ไม่สามารถที่จะตอบโจทย์ได้ว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะว่าอันดับแรก..ทุนสำรองของบ้านเรามีมาก ทำให้อัตราเงินแข็งมากเป็นพิเศษ แทนที่จะนำทุนสำรองไปใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ รัฐบาลก็เปลี่ยนมาเป็นกู้เงิน ซึ่งการกู้เงินนั้น บรรดาโครงการต่าง ๆ ก็ไม่ได้ตอบโจทย์อะไร ไม่ว่าจะเป็น ‘ชิม ช็อป ใช้’ หรืออะไรก็ตาม เพราะว่าโจทย์ที่แท้จริงก็คือ เรื่องของการได้ดุลการค้า”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:32 |
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
“เพราะเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ทำให้เราสั่งสินค้าเข้าน้อย แต่การส่งออกขายยังต้องส่งไปตามอัตราปกติที่เขาเคยสั่งกันอยู่ เพราะว่าทางต่างประเทศสั่งซื้อสินค้าจากไทยเป็นการล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ระยะเวลาก็คือ ๓ เดือน ๔ เดือน ๖ เดือน เป็นต้น ในเมื่อมีการสั่งซื้อกันล่วงหน้า ถึงเวลาก็ต้องส่งให้เขา กลายเป็นว่าขายออกมาก แต่ซื้อเข้าน้อย เมื่อได้ดุลการค้า ค่าเงินบาทก็แข็ง
เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะมีคนมองออก แต่ว่าไม่เคยประสบปัญหาตรงนี้ ก็เลยไม่กล้าเข้าไปแทรกแซงอัตราเงิน เพื่อให้อยู่ในระดับที่สามารถส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็เลยทำให้บ้านเราเงินฝืด ขณะที่ต่างประเทศเงินเฟ้อ คนก็เลยหันไปถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยกันมากขึ้น ประกอบกับบรรดาสงครามทั้งที่ประกาศและไม่ประกาศ ตลอดจนกระทั่งภัยธรรมชาติที่ปรากฏอยู่ทั่วไป ก็เลยส่งผลให้การถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมีมากขึ้น ราคาก็พุ่งขึ้นไปสูงมาก”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:33 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ขอแจ้งให้ญาติโยมทราบว่า งานวันแม่ที่วัดท่าขนุน แม้ว่าจะจัดเป็นปกติ แต่ก็จัดเป็นการภายใน ไม่ได้นิมนต์พระสุปฏิปันโนมาให้พวกเราทำบุญเหมือนกับทุกปี เพราะว่าทางทองผาภูมิยังค่อนข้างจะเข้มงวดอยู่ เนื่องจากว่ายังไม่มีใครติดเชื้อโควิด ๑๙ เขากลัวเสียสถิติ งานวันแม่จึงจัดเป็นการภายใน ให้พระวัดท่าขนุนสวดมนต์กันเอง
ส่วนวันงานบูรพาจารย์หรืองานทำบุญถวายหลวงปู่สาย กำลังดูทางจังหวัดเขาอยู่ เพราะว่าจะมีงานประจำตามมาในช่วงบ่าย ก็คืองานประชุมเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีทั้ง ๓๓ แห่ง เหตุที่ต้องประชุมที่วัดท่าขนุน เพราะว่าพระครูวิลาศกาญจนธรรมท่านเป็นประธานศูนย์ประสานงาน น่าจะตำแหน่งที่ ๒๓ จำไม่ได้ว่าตัวเองมีกี่ตำแหน่ง ถึงเวลาจังหวัดมีอะไรก็มาลงที่วัดท่าขนุน รับได้ทุกรูปแบบ สั่งวันนี้อีกสองชั่วโมงจะเอา ก็ยังอุตส่าห์ทำทัน งานที่เร็วที่สุดที่สั่งมาก็คือ จัดรดน้ำพระศพหน้าพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ปัจจุบันก็คือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร สั่งการตอนเที่ยง บ่ายสองโมงต้องพร้อม ทุกหน่วยราชการต้องมาหมด วัดท่าขนุนทำได้ หลังจากทำให้เขาดูมาทีหนึ่ง ทุกอย่างก็มากันหมด มีอะไรใครทำไม่ทันก็มาลงวัดท่าขนุนทั้งหมด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2020 เมื่อ 01:28 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
ถาม : ผมคลี่ตะกรุดมหาสะท้อนออก ผมไม่มีเจตนา พยายามม้วนกลับไปใหม่ อย่างนี้ตะกรุดจะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : ทันทีที่คุณสงสัยก็เสื่อมแล้ว เพราะว่าขาดความมั่นใจ ถาม : ตะกรุดจะกลายเป็นโลหะธรรมดาไหมครับ ? ตอบ : เอาไปหล่อพระก็แล้วกัน คือปกติของไม่เสื่อมหรอก แต่คราวนี้เราหมดความมั่นใจเอง จะไปโทษใครไม่ได้ ถาม : ถ้ามั่นใจอยู่ ห้อยไปอย่างนี้ ตะกรุดยังเต็มร้อยไหมครับ ? ตอบ : จะไปเอาอะไรเต็มร้อย ? ห้อยไปก็หวาดระแวงอยู่ไปทุกวัน คุณคิดหรือที่บอกว่ามั่นใจ ๆ นั้นจะใช่ ? ทันทีที่ตั้งคำถามก็แปลว่าความลังเลสงสัยเกิดขึ้นแล้ว ถาม : หลวงพ่อจะสร้างอีกไหมครับ ? ตอบ : ถ้าไม่ได้รับคำสั่งให้สร้าง อาตมาจะไม่ทำ โดยเฉพาะพวกเอาไปเล่นเขาจนตาย ๒ คนเห็น ๆ อยู่ ในเมื่อใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาตมาก็เลยโดนสั่งห้ามให้ทำอีก ของทำเอาไว้ป้องกันตัว นี่ดันตั้งใจไปเล่นงานคนอื่น ต้องบอกว่าแต่ละคนล้วนแล้วแต่หาเหตุดี ๆ มาให้ทั้งนั้น..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2020 เมื่อ 14:55 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
ตะกรุดแทบทุกสำนัก ส่วนใหญ่ตอนม้วนเขาจะมีคาถากำกับเอาไว้ด้วย แล้วบางทีก็ยังมีเคล็ดลับอื่น ๆ อย่างเช่นว่า ตอนม้วนต้องกลั้นหายใจ ตอนม้วนต้องหันหน้าไปทิศไหน บางรายถึงขนาดต้องดำน้ำลงไปม้วน เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเราไม่รู้จริง โปรดอย่าไปคลี่ออกมา คลี่ออกมาเมื่อไรก็เสียของไปเลย
ยิ่งถ้าเจอตะกรุดของท่านอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ นี่ก็หายไปเป็นล้านเลย ตะกรุดมหาจักรพรรดิเนื้อทองคำ ของอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ดอกหนึ่งราคาเป็นล้าน ไปคลี่ออกมานี่หมดราคาเลย สลึงเดียวเขาก็ไม่เอา ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมก็มักจะบอกว่า ผมมั่นใจว่ายังดีอยู่ แต่ขอให้เชื่อเถอะ..ถ้ามั่นใจจะไม่มาถามหรอก มาถามเมื่อไรแปลว่าไม่มั่นใจแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2020 เมื่อ 01:31 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าโดนพวกเสน่ห์เล่นงาน ควรแก้ไขเฉพาะหน้าอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าโดนอะไร ถ้าโดนน้ำมันพรายก็แก้ไขยาก เพราะว่ากินอาหารที่มีน้ำมันเมื่อไรก็กำเริบเมื่อนั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ส่วนใหญ่พอเราภาวนาจนกำลังใจทรงฌานได้ ก็สลายหมดแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2020 เมื่อ 01:32 |
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|