กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-03-2011, 11:31
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,886 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default ศัตรูของโลกธรรม ๘ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

ศัตรูของโลกธรรม ๘ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ต่อดังนี้

๑. “ศัตรูของโลกธรรม ๘ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ตถาคตยกอุปมาเพียงโลกธรรม ๔ เพราะจุดนี้ติดมาก และเป็นการถูกต้องที่นำมาพิจารณาจนครบ ๘ ทั้งโลกธรรมภายนอกและภายใน ดูอารมณ์จิตของตนเองเอาไว้ให้ดี จักพอใจก็ดี ไม่พอใจก็ดี ไม่ถูกทั้งคู่ ครั้นจักให้จิตอยู่ในอารมณ์อัพยากฤตทรงความเฉย ๆ อยู่โดยไม่มีฐานรองรับก็เป็นของยาก มันอยู่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้น จึงต้องหาหลักปักไว้เป็นเครื่องยึดให้อารมณ์เฉยนั้นทรงตัวเข้าไว้

๒. “เบื้องต้นเป็นอันดับแรก คือ สมถภาวนาในอานาปานุสติกรรมฐาน รู้ลมเข้าออกเข้าไว้ เป็นการบังคับจิตให้อยู่ในความสงบของอารมณ์ฌานได้ระยะหนึ่ง แล้วอันดับนี้ต้องเรียกว่ามีสมาธิกำหนดรู้คือตั้งใจทำกันให้จริง ๆ มิใช่ทำบ้างหยุดบ้าง ขี้เกียจก็เลิก ขยันก็ทำ อย่างนี้ก็ไม่เป็นเรื่อง เหมือนคนมีตุ่มใส่น้ำใช้ เห็นมันพร่องอยู่ค่อนตุ่ม ทั้ง ๆ ที่จักต้องตักน้ำเติมอยู่แล้ว แต่ขี้เกียจทำ ไม่เอาว่ะ ยังพอมีใช้วันหลังค่อยตักก็ได้ นี่สภาพจิตมันบิดตะกูดอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา จึงหาความเพียรจริง ๆ ไม่ได้สักที”

๓. “เมื่อรู้ลมเข้าลมออก จักควบกับคำภาวนาได้ด้วยยิ่งดี หรือจักบวกภาพพระอันเป็นกสิณให้จิตทรงตัวได้ก็ยิ่งดี เมื่อจิตมีกำลังก็ถอนออกจากสมาธิมาพิจารณาหรือวิปัสสนาสภาพของขันธ์ ๕ หรือสภาพของอารมณ์ที่เกาะติดขันธ์ ๕ จุดไหนด้วยการใช้ปัญญาแกะจุดนั้น”

๔. “หากเกิดอารมณ์เบื่อร่างกาย ให้พยายามวางเฉยลงในกฎธรรมดาของร่างกาย กำหนดพิจารณารู้ลมหายใจเข้าออกให้เป็นวิปัสสนาญาณ เห็นลมหายใจเข้าออกก็ไม่เที่ยง สักวันหนึ่งเมื่อมันหยุดหายใจ ร่างกายนี้ก็จักต้องตายไปตามกฎของธรรมดา ไตรลักษณญาณคลุมหมดธรรมดาของมันเป็นอย่างนั้น

๕. “ถ้าเรายังมีความเบื่อหน่าย มีอารมณ์หดหู่ก็ถือว่าเป็นอารมณ์เศร้าหมองมีความไม่พอใจ ฝืนกฎธรรมดา ควรจักปล่อยวางไม่ใช่ไปเศร้าใจกับกฎธรรมดานั้น นี่มันทุกข์กับไตรลักษณ์เสียแล้วหรือ ความทุกข์ของร่างกายหรือไตรลักษณ์นี้ฝืนไม่ได้ จักเศร้าโศกเสียใจไปกับมันทำไมเพราะเป็นธรรมดาของมัน มันเที่ยงอยู่อย่างนั้น มันมีเกิด แล้วก็แก่ เจ็บ ตาย พลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นธรรมดา เราก็วางเฉยในมัน เพราะรู้ด้วยปัญญาว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่ตัวตนของเรา หรือของใคร มันเป็นกฎไตรลักษณ์ คือ ธรรมดาของมันเป็นอย่างนี้เอง พิจารณาไปให้จิตมันสงบ จนกระทั่งยอมรับนับถือกฎธรรมดา จิตก็จักเป็นสุข คือ วางเฉยในไตรลักษณ์ได้ ทำให้ดี ๆ นะ จักได้ถึงพระอรหันต์ไม่ยากนัก


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 23-03-2011 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว